กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – พิษเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ประชาชนมองว่าวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาปีนี้จะคึกคักน้อยกว่าปีที่ผ่านมา เงินสะพัดเพิ่มขึ้นต่ำสุดในรอบ 4 ปี 6,700 ล้านบาท ต้องการรัฐบาลช่วยแก้ปัญหาค่าครองชีพ-สินค้าแพง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยพฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาและทัศนะต่อนโยบายภาครัฐ โดยสำรวจประชาชน 1,210 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-7 กรกฎาคม 2562 ประชาชนเห็นว่า ปีนี้จะมีความคึกคักน้อยกว่าปีที่ผ่านมา โดยร้อยละ 54.1 ระบุว่า มีแผนไปทำบุญไหว้พระลดลงจากปี 2561 ที่มีแผนไปทำบุญร้อยละ 56.6 เนื่องจากปีนี้เศรษฐกิจชะลอตัวลง โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 2562 จะโตร้อยละ 3.50 ทำให้การใช้จ่ายเงินของประชาชนแม้ยังคงเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้นในอัตราต่ำสุดในรอบ 4 ปีนับจากปี 2559 โดยการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากปี 2561 เพียงร้อยละ 3.50 ด้วยวงเงินใช้จ่ายรวม 6,704.20 ล้านบาท ขณะที่ปี 2561 การใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 4.10 วงเงินใช้จ่าย 6,477.49 ล้านบาท
ทั้งนี้ ประชาชนร้อยละ 38.6 ระบุว่า คนรอบข้างออกไปทำบุญไหว้พระในวันสำคัญทางศาสนาเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 3-5 ปีที่ผ่านมา สำหรับสิ่งที่คาดหวังจากการทำบุญทำทานมากที่สุด คือ ความสบายใจเป็นอันดับ 1 รองลงมา คือ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ญาติมิตรที่เสียชีวิต สำหรับจำนวนเงินที่ใช้ในการทำบุญส่วนใหญ่จะทำบุญคนละ 500 บาท และภาพรวมยังพบว่าประชาชนร้อยละ 35.9 ใช้เงินทำบุญปี 2562 ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2561 ขณะที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.1 และร้อยละ 32 ไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนการวางแผนเดินทางไปนอกจังหวัด เพื่อทำบุญหรือท่องเที่ยว ประชาชนร้อยละ 62.2 มีแผนที่จะออกไปทำบุญหรือท่องเที่ยว ส่วนร้อยละ 37.8 ไม่ไป การท่องเที่ยวภาพรวมส่วนใหญ่ร้อยละ 86.2 ท่องเที่ยวในประเทศ จังหวัดที่ได้รับความนิยมไปเที่ยว ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม นครนายก สุพรรณบุรี เป็นต้น และร้อยละ 13.8 ไปเที่ยวต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน และลาว และปีนี้เป็นปีแรกที่ประชาชนเลือกการเดินทางโดยรถยนต์มากที่สุด รองลงมา คือ เครื่องบิน ซึ่งเป็นปีแรกแซงหน้ารถตู้และรถทัวร์
สำหรับกิจกรรมที่นิยมทำในวันอาสฬหบูชาแลวันเข้าพรรษามากที่สุด คือ ตักบาตร รองลงมาคือ ทำบุญ ถวายสังฆทาน และเวียนเทียน ด้านแหล่งเงินที่ใช้ร้อยละ 78.8 จากรายได้ประจำ รองลงมา คือ เงินออมร้อยละ 12.7 และรายได้พิเศษ โบนัส โบนัสพิเศษร้อยละ 7.4 ขณะที่พรที่จะขอในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ได้แก่ ขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และครอบครัวมีความสุข ขอให้มีโชคมีลาภ หมดหนี้หมดสิน มีเงินมีทองใช้ตลอดปี ขอให้มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ขอให้กิจการงานค้าขายมีความเจริญรุ่งเรือง ขอให้ประเทศไทยมีความสงบสุขและเศรฐษกิจดีขึ้น และขอให้ประสบความสำเร็จทุกด้าน ปลอดภัยจากอันตรายใด ๆ ทั้งปวง
ด้านทัศนะต่อนโยบายของภาครัฐ ประชาชนหวังให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพ สินค้าราคาแพง รองลงมา คือ พัฒนาระบบการศึกษาและดูแลราคาพืชผลทางการเกษตร ตามด้วยหนี้ครัวเรือน เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย