เดินหน้า จดหมายลาครูช่วยเด็กเสี่ยงออกนอกระบบ

ศธ.10 ก.ค.-กสศ.ร่วม สพฐ.เดินหน้าช่วยเด็กยากจนพิเศษ กำชับทุกเขตพื้นที่ให้ครูลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเด็ก หลังพบจดหมายลาครูเเละเด็กเสี่ยงออกนอกระบบจำนวนมาก ก่อนร่วมขยายผลสำรวจเด็กยากจนในสังกัดท้อง ถิ่นที่คาดมีราว 3 เเสนคน เเละเด็กที่ออกนอกระบบไปเเล้วกว่า 5เเสนคน


นายสนิท เเย้มเกษร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) พร้อมด้วย นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) ร่วมเเถลงข่าวปฏิบัติการระดมความร่วมมือลดจดหมายลาครู ช่วยเด็กกลุ่มเสี่ยงหลุดออกนอกระบบการศึกษา ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ กสศ.จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเด็กยากจนเเละยากจนพิเศษ หลังพบปัญหาความเดือดร้อนจากการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนักเรียนของ สพฐ. จดหมายลาครูที่เด็กขอลาเพื่อไปช่วยพ่อเเม่ทำงานเลี้ยงดูครอบครัวเเละการคัดกรองนักเรียนยากจนพิเศษให้ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไขของ กสศ. ที่พบเด็กยากจนกว่า 1.7 ล้านคนจากเด็กทั้งหมด 7 ล้านคนเเละในจำนวนนี้เป็นเด็กยากจนพิเศษ 5 แสนคน


นายสนิท กล่าวว่า สพฐ.จะเพิ่มความเข้มข้นในการให้ครูลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเด็กอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน ก.ค.นี้ สพฐ.จะกำชับให้ทุกเขตพื้นที่การ ศึกษาให้ครูลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนักเรียนทุกคน เพื่อไม่ให้เด็กยากจนตกหล่นเเม้เเต่คนเดียว มุ่งเป้าลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเพื่อช่วยเหลือนักเรียนกลุ่มยากจนที่สุดทันท่วงที และ สพฐ.กับ กสศ.จะบูรณาการฐานข้อมูลศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สพฐ.กับระบบปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน หรือCCT เพื่อดูแลนักเรียนรายบุคคลในทุกมิติพร้อมส่งต่อความช่วยเหลือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญจะช่วยลดภาระงานให้ครูในการบันทึกข้อมูลต่างๆด้วย โดยจะมีการประชุมเรื่องนี้ในวันที่ 23-24 ก.ค.นี้


ด้าน นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวว่า ในเดือนกรกฎาคม กสศ.จะจัดสรรเงินอุดหนุนในนักเรียนยากจนพิเศษกลุ่มเดิมที่ยืนยันตัวตนในสถานศึกษาแล้ว ประมาณ 320,000 คน เพื่อเป็นค่าครองชีพ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ให้แก่นักเรียนและจัดสรรไปยังสถานศึกษาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียน คนละ 1,000 บาทในภาคเรียนที่ 1 รวมแล้วกว่า 300 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ตลอดเดือน ก.ค.ครูจากสังกัดสพฐ. ตชด.และอปท.กว่า 400,000 คนยังคงเดินหน้าคัดกรองนักเรียนเข้าใหม่ได้แก่ชั้น ป.1 ป.4 และม.1 เพื่อรับการจัดสรรอีกครั้งในเดือนสิงหาคมอีกราว 3 แสนคน เพื่อไม่ให้มีเด็กคนไหนตกหล่นจากการช่วยเหลือ โดยปีการศึกษา 2562  กสศ.จะช่วยสนับสนุนค่าเดินทางในการเยี่ยมบ้านเพื่อเติมให้กับโรงเรียนด้วย โดยในส่วนของอัตราการอุดหนุนในเทอมที่2 ทางคณะรัฐมนตรีอนุมัติปรับเพิ่มให้แล้วเป็นเทอมละ1,500บาท(หรือปีละ3,000 บาท) ในงบประมาณปี 2563 แต่ยังอยู่ในขั้นตอนรอการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรอยู่ ขณะเดียวกันเตรียมสำรวจเด็กยากจนที่ออกจากระบบไปแล้วกว่า 5 เเสนคนเพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือด้วย

ขณะที่ กสศ.มีโครงการระดมความร่วมมือจากภาคธุรกิจเพื่อช่วยเด็กกลุ่มนี้เพิ่มเติมจากที่ กสศ.จัดสรร โดยใช้ระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ iSEE เป็นเครื่องมือชี้เป้าตอบโจทย์ CSR ของภาคธุรกิจ โดยเบื้องต้นมี 2 แนวทาง คือ 1.ชี้เป้าโรงเรียนที่มีนักเรียนยากจนพิเศษมากที่สุดในรัศมีชุมชนโดยรอบกิจการของภาคเอกชน เพื่อร่วมบริจาค เติมความช่วยเหลือ และ2. ชี้เป้านักเรียนยากจนพิเศษจาก 100 โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร ซึ่งการสนับสนุนสามารถเลือกได้เป็น ค่าครองชีพ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง กิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพ หรือสมทบทุนการศึกษา โดยล่าสุดมีบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) ร่วมสมทบทุนการศึกษา 300 ทุนให้นักเรียนยากจนพิเศษใน 18 โรงเรียนรอบสถานีบริการน้ำมันสาขาวังมะนาว จ.เพชรบุรี

ส่วนนายปกรณ์ ศศิวัจน์ไพสิฐ  ประธานชมรมนักจัดการศึกษาในพื้นที่สูงและถิ่นทุรกันดาร กล่าวว่า โรงเรียนในพื้นที่สูงในถิ่นทุรกันดารส่วนใหญ่อยู่ในระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 500 เมตรขึ้นไป ต้องเดินทางข้ามเขาไปหลายลูกตามสภาพ แต่ละแห่งมีบริบทสภาพปัญหาไม่เหมือนกัน จึงทำให้นักเรียนมีความต้องการต่างกันออกไป ทั้งเรื่องปัจจัยพื้นฐาน อุปกรณ์การเรียน รองเท้า ถุงเท้า อาหาร ทั้งหมดขาดแคลนอย่างมาก การเดินทางไปโรงเรียนในพื้นที่สูง ถิ่นทุรกันดารสร้างความลำบากกับนักเรียน บางครั้งกระทบไปถึงการไปโรงเรียน อาจเหนื่อยล้ากับการเดินทางจนหมดแรงจูงใจ ยิ่งช่วงฤดูแล้งครอบครัวเด็กนักเรียนหลายคนประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร ไม่มีข้าวเช้ากินก่อนมาโรงเรียน จึงต้องได้รับการช่วยเหลือเพื่อป้องกันเด็กหลุดออกรอกระบบ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง