“เศรษฐา” หารือ กสศ. เดินหน้าสนับสนุนการศึกษา

พรรคเพื่อไทย 6 ก.ย.- “เศรษฐา” หารือ กสศ. เดินหน้าสนับสนุนการศึกษา พร้อมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออก “สลากการกุศล” ระดมทุนช่วยเด็กไม่หลุดออกจากระบบ ลั่นไม่อยากให้ด้อยค่าแต่ต้องช่วยหาทางแก้ไข


เมื่อเวลา 16.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการและรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทย นางสาวณหทัย ทิวไผ่งาม คณะทำงานนโยบายด้านการศึกษาพรรคเพื่อไทย หารือ แลกเปลี่ยน ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) นำโดย นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานบอร์ด กสศ. และ นายไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการ กสศ.และกรรมการบอร์ด กสศ. พร้อมมอบกระเช้าสินค้าท้องถิ่นใน จ.ราชบุรี ร่วมแสดงความยินดีในฐานะที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นความบังเอิญว่าในปี 2564 ได้มีโอกาสร่วมเวทีเสวนา THE STANDARD Economic forum 2021 และพบกับนายประสาร จึงได้พูดคุยเรื่องการศึกษา ซึ่งตนมีลูก 3 คน โชคดีที่ได้เรียนสูงๆ พร้อมเล่าว่าในภาคธุรกิจเวลาเจอกันก็คุยกันเรื่องการศึกษา แต่คุยในเชิงด้อยค่าการศึกษา มีแต่เรื่องสนุกปาก ไม่สร้างสรรค์ มีแต่ปัญหาๆ แต่ไม่มีใครเสนอทางออก ในสมัยที่ตนบริหารแสนสิริ ได้เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการเข้าถึงระบบการศึกษา ด้วยการออกหุ้นกู้ระดมทุน 100 ล้านบาท ใช้ในโครงการ Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน สนับสนุนการศึกษาเด็ก ที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งหวังว่าจะมีบริษัทเอกชนที่มีศักยภาพ เริ่มต้นดำเนินโครงการในลักษณะเดียวกันนี้เช่นกัน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ตนเข้ามาอยู่ในชีวิตการเมือง และ กสศ. องค์กรอยู่ในการดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี แม้ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าไปดูงบประมาณว่าทีมากน้อยแค่ไหน แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และจะสนุบสนุนอย่างต่อเนื่อง ขอให้มั่นใจว่าจะเดินหน้าดูแลอย่างเต็มที่ อีกทั้งพรรคเพื่อไทยมีทีมงานที่แข็งแกร่ง และเมื่อตนเข้าไปบริหารอย่างเต็มที่ก็จะเข้าไปดูเรื่องงบประมาณ

ทั้งนี้ในระหว่างการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับ กสศ.นั้น นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับคณะทำงาน เพื่อพิจารณารายละเอียดความเป็นไปได้ ในการที่รัฐบาลจะออกสลากเพื่อการกุศล (สลากเพื่อความเสมอภาค) เพื่อระดมทุนสนับสนุนการศึกษาของไทยด้วย โดยจะมีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย.) เช่น สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สังกัดกระทรวงการคลัง)

ด้านนายประสาร กล่าวว่าโจทย์สำคัญทางการศึกษาของประเทศไทยมี 4 ด้าน ได้แก่ 1. เรื่องคุณภาพการศึกษา 2. การลดความเหลื่อมล้ำ 3.ความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ และ 4 .การจัดสรรทรัพยากรทางการศึกษา ซึ่งกสศ.ต้องการช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทางการศึกษา เสริมสร้างการเข้าถึงซึ่งทรัพยากรที่ได้รับการจัดสรร มุ่งเน้นไปที่เด็กและเยาวชนที่อยู่ในฐานะยากจนมากที่สุด 15% แต่ในช่วงที่มีงบประมาณจำนวนมากก็อาจจัดสรรได้ถึง 20% และปัจจุบันมีเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาจำนวนหนึ่ง และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเราสามารถช่วยให้เด็กไม่หลุดจากระบบการศึกษาถึง 3.5 ล้านคน จากเงินของกองทุน


สำหรับข้อเสนอของ กสศ.ได้แก่

  1. มาตรการบริจาค กสศ.สามารถลดหย่อนถาษีได้ มาตรการเป็นแบบปีต่อปี  เสนอให้รัฐบาลดำเนินการต่อเนื่อง
  2. ประเทศไทยยังมีปัญหา “จนข้ามรุ่น”ส่งผลกระทบต่อเนื่องมาถึงการศึกษา
  3. ประชากร 20 ล้านคนขาดทักษะ จึงทำให้ยากจน กระทบถึงการเข้าถึงการศึกษา

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า เห็นด้วยทั้งหมดกับนโยบายที่ กสศ. พยายามทำ วันนี้ในอีกสถานะหนึ่ง อาจช่วยได้มากขึ้น เรื่องของสลากการกุศล หรือการบริจาค  ขอรับไปพิจารณาดำเนินการ หากทำการระดมทุนได้มาก มั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มศักยภาพ กสศ.มากขึ้น ส่วนเรื่องมาตรการด้านภาษี เมื่อมีผู้บริจาคเงินเข้า กสศ.สามารถดำเนินการต่อได้ทันที  โดยหลังจากแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาในวันที่ 11 กันยายน 2566 จะสามารถสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันที ยืนยันสิ่งใดที่สามารถทำได้รวดเร็ว จะทำทันที ขณะเดียวกัน ต้องเข้าไปศึกษาในรายละเอียดของงบประมาณว่ามีมากน้อยเพียงใด  แต่ยืนยันว่าการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ ยืนยันจะสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในฐานะควบคุมกำกับดูแล กสศ. อย่างเต็มที่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ กสศ. เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ 2560 การบริหารงานเป็นอิสระ มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้กำกับและดูแล คณะกรรมการบริการ กสศ. กำหนดนโยบายเป้าหมายและแนวทางดำเนินงาน เพื่อช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ด้อยโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ