พรรคประชาธิปัตย์ 7 ก.ค.-“ชวน”แจง ยื่นศาลรธน”ตีความคุณสมบัติ”พล.อ.ประยุทธ์”ตามหน้าที่ ส่วนเรื่องเครื่องแต่งกายสมาชิกต้องรอเคาะข้อบังคับการประชุมก่อน ย้ำต้องเคารพสถานที่-กาละเทศะ
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวกรณีที่ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
เพื่อวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า
คสช. สิ้นสุดลงเฉพาะตัว เพราะเหตุเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ หรือไม่ ว่า
ตามกระบวนการหากมีผู้ยื่นคำร้องเข้ามาในฐานะประธานสภาฯต้องทำหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด
เช่นเดียวกับคำร้องที่ให้ตรวจสอบส.ส.ถือหุ้นสื่อ ทั้งนี้
ระยะเวลาการพิจารณาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนถึงกรณีที่มีการขอให้วินิจฉัยเรื่องการแต่งกายของสมาชิกส.ส. ว่า
ตามขั้นตอนต้องรอข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรก่อน
ซึ่งเมื่อข้อบังคับได้ข้อสรุปแล้ว ตนในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้กำหนด อย่างไรก็ตาม
เรื่องการแต่งกายคาดว่าจะมีการพิจารณาแล้วเสร็จในสัปดาห์นี้
“ผมมองว่าเป็นเรื่องของกาละเทศะ ยกตัวอย่าง กรณีแต่งตัวสวยๆไปร่วมงานศพ
มันก็อาจจะไม่สวย ทั้งหมดขึ้นอยู่กับกาละเทศะ เรื่องดังกล่าวไม่น่ามีปัญหาอะไร
เพราะสมาชิกส.ส.เป็นผู้ใหญ่แล้วก็น่าจะรู้ว่าความเหมาะสมอยู่ตรงไหน การแต่งบางกรณีก็สามารถยกเว้นได้
อย่างสมาชิกส.ส.ที่เป็นผู้พิการ
ก็ได้เข้ามาปรึกษาและขออนุญาตแต่งกายด้วยชุดกางเกงขาสั้น
เพราะหากสวมกางเกงขายาวอาจมีความลำบากในการแต่งกาย ซึ่งตนก็ได้อนุโลมให้
ส่วนกรณีรายอื่น รวมทั้งการแต่งกายตามเพศสภาพ ยังไม่มีการมาขออนุญาต ผมสนับสนุนให้ใช้วัสดุผ้าไทย
ไหมไทย เป็นส่วนหนึ่งในการแต่งกาย แต่เราก็ต้องมากำหนดว่าจะเป็นวันใด ทั้งหมดนี้คงต้องรอข้อบังคับก่อน
เมื่อข้อบังคับกำหนดไว้อย่างไร ประธานสภาฯก็จะกำหนดอีกครั้ง
เพราะในอนาคตการประชุมสภาฯนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่วันพุธ- พฤหัสบดี เท่านั้น
ต่อไปอาจจะมีการประชุม 5 วันต่อสัปดาห์ ต้องค่อยว่ากันอีกครั้ง
แต่ตอนนี้ทุกคนก็ควรจะรู้ว่ากาละเทศะ ในห้องประชุมเป็นอย่างไร
ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการประพฤติ ปฏิบัติตน
ซึ่งส่วนหนึ่งคือเรื่องของการแต่งกายด้วย “นายชวน กล่าว
เมื่อถามว่า จะให้กลับมาใส่ชุดสูทสากล ใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า
ขณะนี้สมาชิกส่วนใหญ่ใส่ชุดสูทสากล มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ไม่ได้ใส่
ในส่วนของส.ส.หญิงก็มีความหลากหลายอยู่
อาจจะสืบเนื่องมาจากขณะนี้ยังไม่มีข้อบังคับหรือระเบียบที่แน่นอน
เมื่อถามถึงมีหลายคนออกมาระบุว่าให้มองที่ผลงานมากกว่าการแต่งกาย
นายชวน ตอบแบบติดตลกว่า”จะนุ่งผ้าขาวม้ามาเหรอ”
เรื่องดังกล่าวอยู่ที่กาละเทศะ ซึ่งผลงานก็ต้องมี ไม่ใช่ว่าจะแต่งตัวอย่างไร
ผู้ปฏิบัติหน้าที่ต้องมีผลงาน การแต่งกายต้องเคารพสถานที่และกาละเทศะ
“เรืองไกร”เตรียมร้องสอบคุณสมบัติ ”อุตตม” พรุ่งนี้
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติและอดีต ส.ว. เตรียมยื่นเรื่อง ถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ดำเนินการกับนายอุตตม สาวนายนหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อ้างเหตุอนุมัติสินเชื่อวงเงิน 9,900 ล้านบาท ที่ศาลได้มีคำพิพากษาไปแล้ว แม้นายอุตตมจะไม่ถูกฟ้องและออกมาประกาศว่าไม่มีความผิดก็ตาม และขอให้พิจารณาความเหมาะสมที่จะให้ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ชุดใหม่ ซึ่งอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญตามมาตรา 160 (4) หรือไม่ ด้วยกฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจนว่ารัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ โดยจะไปยื่นที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (8 ก.ค.) เวลา 11.00 น.
“สุเทพ” ไม่ห่วงรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เชื่อทำงานได้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ยอมรับว่า การประสานงานการทำงานภายในพรรคร่วมรัฐบาลรอบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีนักการเมืองและพรรคการเมืองหลากหลาย มีความแตกต่างกันหลายเรื่องหลายประเด็น ซึ่งต้องปรับตัวเข้าหากันและเรียนรู้ที่จะทำงานด้วยกันให้ได้ ไม่กังวลเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล แม้มีเสียงปริ่มน้ำ โดยมีเสียงมากกว่าฝ่ายค้านเพียงหนึ่งเสียงก็ทำงานได้ และยิ่งเสียงน้อยยิ่งต้องทำงานด้วยความจริงจัง ระมัดระวัง ทำผลงานให้ประชาชนเห็น ให้ประชาชนศรัทธา และขอให้ทุกคนในคณะรัฐบาลทุ่มเททำงานแข่งกับเวลา เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่มีความสุขประเทศเดินหน้าไปได้ส่วนกรณีฝ่ายค้านยื่นศาลรัฐธรรมนูญขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติ ความเป็นรัฐมนตรีของ พลเอกประยุทธ์นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีอะไรน่าตกใจ ฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ตรวจสอบ ฝ่ายรัฐบาลก็มีหน้าที่ทำงานให้ประเทศชาติ ให้กับประชาชน เชื่อว่า พลเอกประยุทธ์ เป็นคนที่มีความเหมาะสม เป็นรัฐมนตรีที่ดีได้ในระบอบประชาธิปไตย .- สำนักข่าวไทย
