ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 4 ก.ค. – ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,724.37 จุด ลดลง 14.14 จุด (-0.81%) มูลค่าการซื้อขาย 88,848.99 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,747.11 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,714.98 จุด
นางสาวจิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงแรงกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก – ลบสลับกัน คาดว่าจะเป็นแรงขายทำกำไรหลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว โดยหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้านำดิ่ง โดยตลาดฯมี Valuation แพงไปแล้ว เทรด P/E เกือบ 17 เท่า ขณะที่กำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะเติบโต 6.5% เท่านั้น
ทั้งนี้ คาดว่าแรงขายที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากนักลงทุนประเภทกองทุนเริ่มขายออกมาก่อน แต่ก็อาจมีแรงขายบางส่วนที่มาจากนักลงทุนต่างชาติที่ขายตามกองทุนออกมาด้วยก็ได้ เนื่องจากเดือนนี้ (ก.ค.) เป็นเดือนที่เริ่มจะมีการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/62 ซึ่งก็คาดว่าจะออกมาไม่ดี ทำให้เป็นปัจจัยกระตุ้นที่อาจจะทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาก่อน
สำหรับ Fund Flow ที่ไหลเข้าก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้เงินบาทแข็งค่า และเมื่อเงินบาทแข็งค่าก็ยิ่งทำให้ Fund Flow ไหลเข้ามาต่อเนื่อง แต่หลังจากที่แบงก์ชาติออกมาบอกว่าเงินบาทแข็งค่าเกินไปแล้ว ก็เหมือนการส่งสัญญาณ และหลายสำนักก็ออกมาปรับลดคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยด้วย
ด้านประเภทนักลงทุน สถาบันขายสุทธิ 1,750.68 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1,706.86 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,599.63 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,857.91 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย