สธ.จัดระบบกัญชาทางการแพทย์ ลอตแรกพร้อมให้บริการ ส.ค.

สธ.4 ก.ค.-สธ.จัดระบบบริการกัญชาทางการแพทย์ครบวงจร น้ำมันกัญชาลอตแรกผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมและ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร พร้อมนำไปใช้กับผู้ป่วยที่อยู่ในเกณฑ์ข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ต้นเดือน ส.ค.นี้


นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดระบบบริการกัญชาทางการแพทย์ในสถานพยาบาลครบวงจร โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงาน ทั้งภายในและภายนอกกระทรวง เพื่อให้การนำกัญชาไปใช้มีประสิทธิภาพ ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ในด้านการปลูก การผลิต การกระจาย องค์การเภสัชกรรมจะผลิตน้ำมันกัญชาลอตแรกในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2562 จำนวน 10,000 ขวด และโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จำนวน 5,000 ขวด นำไปใช้รักษาผู้ป่วยที่อยู่ในเกณฑ์ข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ส่วนโรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น จะผลิตตำรับยาแผนไทย 5 ตำรับจากกัญชาของกลาง


นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า ด้านผู้สั่งใช้กัญชาทางการแพทย์ ปัจจุบันมีแพทย์ เภสัช ทันตแพทย์ ผ่านการอบรม 400 คน มีแพทย์แผนไทยผ่านการอบรม 2,900 คน โดยจะปรับการอบรมแบบออนไลน์เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้สั่งใช้  นอกจากนี้ ยังได้จัดทำแนวทางการนำกัญชาไปใช้ทางการแพทย์  แนวทางการรักษาเมื่อผู้ป่วยเกิดปัญหาจากการใช้ยากัญชา รวมทั้งกำหนดวิธีการขอรับอนุญาตจำหน่ายในสถานพยาบาล โดยระยะแรก เดือนกรกฎาคม – กันยายน 2562  สามารถจัดบริการกัญชาทางการแพทย์ได้ในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปอย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง และขยายระยะที่ 2 ให้ครอบคลุมโรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ภายในเดือนเมษายน 2563

“ขณะนี้การนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์  ถือว่าเป็นระยะเริ่มต้นปริมาณการผลิตยังอยู่ในวงจำกัดสำหรับผู้ป่วยในโครงการ  ระยะต่อไปจะมีการขยายให้เพียงพอต่อการนำไปใช้เป็นทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยที่รักษาด้วยวิธีมาตรฐานแล้วไม่ได้ผล ภายใต้การดูแลของแพทย์ เภสัช ทันตแพทย์ และแพทย์แผนไทยที่ผ่านการอบรมเพื่อให้เกิดผลในการรักษาและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้” นพ.ปิยะสกล กล่าว


ด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การนำกัญชาไปใช้ทางการแพทย์ต้องมีความระมัดระวังในการนำไปใช้ เนื่องจากมีทั้งคุณและโทษ โดยมีข้อบ่งใช้สำหรับการรักษาโรค (SAS : Special Access Scheme) ด้านการแพทย์แผนปัจจุบัน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.มีหลักฐานเชิงประจักษ์ยืนยันประสิทธิผลชัดเจนได้ประโยชน์ในการรักษา ได้แก่ ภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากยาเคมีบำบัด โรคลมชักที่รักษายากหรือดื้อต่อยารักษา ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ภาวะปวดประสาทที่ดื้อต่อการรักษา 

2.มีข้อมูลทางวิชาการที่สนับสนุนการวิจัยเพิ่มเติม น่าจะได้ประโยชน์ในการควบคุมอาการ เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่ดูแลแบบประคับประคอง บรรเทาอาการปวดในผู้ป่วยมะเร็ง และ 3.สารสกัดกัญชาอาจได้ประโยชน์ในการรักษาแต่ยังขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ ให้พิจารณาสั่งจ่ายเฉพาะผู้ป่วยที่ใช้การรักษาตามวิธีมาตรฐานแล้วไม่ได้ผล ส่วนด้านการแพทย์แผนไทย มีตำราทางการแพทย์แผนไทยและตำรับยาแผนไทยที่อนุญาตให้ใช้เพื่อการรักษาโรคหรือการศึกษาวิจัยได้ จำนวน 16 ตำรับ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว