สำนักข่าวไทย 3 ก.ค.- ผอ.ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ เรียกร้อง สธ. ตรวจสอบ ข้อมูลกรณีสาวและลูก2 คนติดเชื้อHIV แต่สุดท้ายไม่มีเชื้อ หลังข้อมูลไม่แน่ชัด ย้ำมาตรฐานการตรวจต้องเท่ากันทุกโรงพยาบาล เพราะผลการตรวจสอบส่วนใหญ่ไม่คาดเคลื่อน ชี้พฤติกรรม การไม่รับประทานยาต้านไวรัส ถือว่าเป็นพฤติกรรมเสี่ยงแพร่เชื้อ หวั่นเยาวชนกลุ่มเสี่ยงดูข้อมูลข่าวสารไม่ครบถ้วนเอาเป็นแบบอย่าง
นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวถึงกรณีสาว-ลูก 2 คน ตรวจพบเชื้อเอชไอวี แต่สุดท้ายไม่ติด ว่า เครื่องมือหรือหลักเกณฑ์การตรวจของไทยมีมาตรฐานเทียบเท่าสากล ต้องมีความปลอดภัยและแม่นยำ โดยความปลอดภัยมีเกือบ100เปอร์เซ็นต์ และในการตรวจหาเชื้อต้องมีการตรวจซ้ำถึง 2 ครั้ง และมาตรฐานการตรวจต้องเท่ากันในทุกโรงพยาบาลไม่ใช่โรงพยาบาลหนึ่งใช้มาตรฐานแบบนี้ อีกโรงพยาบาลก็ใช้อีกมาตรฐานหนึ่ง และผลตรวจก็แตกต่างกัน
นพ.ประพันธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุข ต้องมีการตรวจสอบให้กระจ่าง ปล่อยผ่านไม่ได้ ต้องดูข้อมูลเครื่องมือเก่าในโรงพยาบาลแรก และเครื่องมือของโรงพยาบาลที่สองประกอบกัน ส่วนที่ว่าเด็กรับประทานยาต้านไวรัสตั้งแต่แรกเกิดทั้งที่ไม่ได้ติดเชื้อ HIV มีผลข้างเคียงแน่นอน แต่จะมากน้อยต้องตรวจสอบ เป็นเรื่องปกติของการรับประทานยา ส่วนแม่เด็กที่ไม่ยอมรับประทานยาต้าน ข้อมูลส่วนนี้ยังไม่แน่ชัด เนื่องจากบางสำนักข่าวบอกรับประทานยาบางสำนักข่าวบอกไม่รับประทานยา แสดงว่าข้อมูลประวัติของหญิงคนดังกล่าวไม่มีความชัดเจนต้องตรวจสอบให้แน่ชัด อีกทั้งข้อมูลพื้นฐานของผู้ป่วยเอดส์ต้องทานยาต้าน เพื่อลดการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น ถือเป็นความปลอดภัยพื้นฐาน หากกมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนสื่อสารไม่ตรงกัน อาจทำให้เป็นแบบอย่างกับเยาวชนกลุ่มเสี่ยงไม่ยอมรับประทานยาต้านอีกต่อไป .-สำนักข่าวไทย