สำนักข่าวไทย 9 พ.ย.-แพทย์แนะเด็ก 70 คนที่ถูกอดีตทหารติดเชื้อเอชไอวี กระทำชำเรารับการตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี การทานยาเป็ป เพื่อป้องกันไม่ช่วย เนื่องจากมีเพศสัมพันธ์นานเกินระยะเวลากำหนด ส่วนโอกาสติดเอดส์มากน้อยขึ้นอยู่กับพฤติกรรมความสัมพันธ์ทางกายว่าเป็นผู้กระทำหรือผู้ถูกกระทำ
พญ.นิตยา ภานุภาค พึ่งพาพงศ์ หัวหน้าทีมป้องกันการติดเชื้อ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของอดีตทหารติดเชื้อเอชไอวีกับเด็กทั้ง 70 คน ควรได้รับการตรวจเชื้อเอชไอวี อย่างละเอียดเพราะยังไม่มีความแน่ชัดว่าทหารคนนี้ได้รับประทานยาต้านไวรัสหรือไม่ และปริมาณเชื้อเอชไอวีในเลือดลดลงแล้วหรือยัง เพราะหากทหารคนนี้รับประทานยาต้าน โอกาสที่เด็กทั้ง 70 คน จะติดเชื้อเอชไอวีก็เป็นศูนย์ แต่มีความเสี่ยงที่จะได้รับโรคอื่นแทน ทั้งหนองใน ซิฟิลิส
ส่วนการรับประทานยาเป็ป ที่ใช้รับประทานสำหรับกรณีมีเพศสัมพันธ์กับ ผู้ติดเชื้อหรือกรณีถูกข่มขืน หรือกรณีสวมถุงยางอนามัยแล้วแตกนั้น สำหรับน้องๆทั้ง 70 คน ถือว่าไม่มีผล เนื่องจาก เป็นการมีเพศสัมพันธ์เกิน 72 ชั่วโมงแล้ว
ขณะเดียวกันต้องทำความเข้าใจว่า การมีเพศสัมพันธ์ในลักษณะนี้ ผ่านเว็บไซต์เป็นไปได้ว่า ไม่ใช่การล่อลวง เพราะเว็บนี้ รู้กันดีในกลุ่มคนว่า เป็นเว็บหาคู่ ฉะนั้นเด็กเหล่านี้ก็มีความเสี่ยงที่จะมีโรคเดิมอยู่เช่นกัน โอกาสการได้รับเชื้อเอชไอวีจะมากน้อย ยังขึ้นอยู่กับ พฤติกรรมทางกายขณะมีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยผู้ถูกกระทำ มีโอกาสติดเชื้อเอดส์ได้มาก ขณะนี้เป็นผู้กระทำโอกาสการติดเชื้อมีน้อยกว่า .-สำนักข่าวไทย