จุฬาฯเสวนา ‘ทุเลาความรุนแรงและความเกลียดชังในสังคมไทย’

จุฬาฯ3ก.ค.-ในเวทีเสวนา นักวิชาการย้ำไทยเผชิญความเกลียดชัง วาทกรรมความขัดแย้งเกิดจากความยั่วยุเหมารวม พบมากหลังเลือกตั้ง ด้านสื่อมีบทบาทเลือกพูดความจริงหรือฆ่าความจริง  ขณะที่องค์กรสิทธิเผย ตั้งเเต่ปี 61 นักกิจกรรมโดนทำร้ายกว่า 15 ครั้ง ล่าสุดกรณี ‘จ่านิว’ ย้ำอยากเห็นการเคารพสิทธิการ เเสดงออกซึ่งกันเเละกัน


จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดเวทีจุฬาฯเสวนา ครั้งที่21เรื่อง “ทุเลาความรุนแรงและความเกลียดชังในสังคมไทย”เพื่อเผยเเพร่ความรู้จากนักวิชาการเเละผู้เชี่ยวชาญที่วิเคราะห์ถึงปัญหา สาเหตุเเะลผลกระทบจากการเมืองในปัจจุบันที่มีการเเบ่งขั้น จนทำให้เกิดความรุนแรงการคุกคาม ทำร้ายนักกิจกรรมทางการเมือง การตรวจสอบนักการเมืองฝ่ายที่เห็นต่างจากรัฐบาล ตลอดจนการใช้คำพูดในลักษณะ Hate Speech โดยมองข้ามการเคารพสิทธิเเละเสรีภาพในการเเสดงความเห็น เพื่อนำไปสู่การหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม


นางพิรงรอง รามสูต รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลวาทะกรรมที่สร้างความเกลียดชัง(Hate Speech)ในสังคมไทยพบว่า มี 4 ระดับ ซึ่งความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทยเมื่อปี 2553 พบว่าวาทกรรมที่สร้างความเกลียดชังอยู่ที่ระดับ 3 คือมีการยั่วยุให้เกิดความเกลียดชัง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นยุยงให้กระทำความรุนแรง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2562 ล่าสุดนี้จะอยู่ในระดับใดก็ไม่สามารถบอกได้ ซึ่งไม่ใช่แค่การสบถ แต่เป็นการยั่วยุ เหมารวม โดยพบมากช่วงหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีการผูกโยงกับข่าวลวง ข่าวเท็จ พยายามให้เกิดผลกระทบกับมติมหาชนทำให้สถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้น อีกวิธีการที่พบคือมีการสร้างเฮชสปีดในกลุ่มคนที่มีความเห็น ความเชื่อเหมือนกันเพื่อให้เกิดการตอกย้ำความเชื่อนั้นๆ 


นายชัยวัฒน์ สถาอานันท์ หัวหน้าสาขาวิชาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า คนเราเห็นบางอย่างก็จะตัดสินใจได้เลยว่าชอบหรือไม่ชอบ เหตุผลที่ทำให้กลุ่มเกลียดชังยังทำงานได้ ไม่เกี่ยวกับการศึกษาหรือเรื่องเหตุผลใดๆ ปัจจัยที่ทำให้มีการสุดโต่งเกิดขึ้นคือ เกิดจากปัจจัยในครอบครัวหรือการรับรู้ซ้ำๆที่ทำให้ความเกลียดชังเติบโตขึ้น  ไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ความเกลียดชัง เวลาเห็นเหตุการณ์ อย่างกรณีการทำร้ายจ่านิว คนในสังคมเห็นอะไร มุมนึงมองแอนตี้ ฮีโร่ รับเงิน สำหรับตนเห็นว่า เป็นเด็กคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในห้องเรียนในคณะรัฐศาสตร์ สุภาพอ่อนโยน ตนเห็นการทำร้ายเป็นความป่าเถื่อน เห็นความจริง เห็นนักกิจกรรมที่เเสดงความเห็นถูกทำร้าย เเต่ปัจจุบันคนในสังคมมีการมองเรื่องที่เกิดขึ้นในมิติเดียว ความขัดเเย้งในสังคมไทยเป็นความขัดเเย้งยืดเยื้อ ในบริบทความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกัน ทำให้คนออกจากกับดักนี้ไม่ได้  ทำให้เกิดความทุกข์ระบายด้วยการด่าด้วยคำหยาบคาย โดยเฉพาะในออนไลน์ที่มีการเเสดงตัวตนได้ง่าย ความเกลียดมีคุณสมบัติพิเศษที่ส่งต่อผ่านกันได้ เเพร่ต่อๆ กันได้เรื่อยๆ ทำให้สายสัมพันธ์ในสังคมกร่อนไปได้ทุกที หากทุกคนมองเป็นปัญหาเป็นยาพิษ ก็ควรช่วยกันแก้เเละศึกษาการหยุดเเพร่ระบาดความเกลียดนี้กันได้อย่างไร

นางฉันทนา บรรพสิริโชติ หวันแก้ว กรรมการก่อตั้งศูนย์ศึกษาสันติภาพและความขัดแย้ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในช่วง10 ปีที่ผ่านมา พบมีเเบบเเผนความรุนเเรง การขัดแย้ง เริ่มจากการโต้เถียง การทำร้ายร่างกายคนที่เห็นต่าง รวมไปจนถึงบางประเทศมีบัตรอนุญาตให้ทำร้ายร่างกาย ซึ่งถือเป็นการไม่เคารพสิ่งที่เห็นต่าง  มองว่าในทุกความขัดเเย้ง   มีกระบวนการแก้ไขใน 4 ประเด็น คือต้องไม่ใช้ความรุนแรง สร้างความไว้วางใจ ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง  เอาคนผิดเข้าสู่กระบวนการเเละความอดทน  ความขัดเเย้งหรือความเกลียดชังในปัจจุบัน อาจมาจาก มายาคติจินตนาการ ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นหลากหลายในสังคม ดังนั้นความอดทนเป็นปัจจัยลดความขัดเเย้งที่น่าสนใจเพราะยิ่งในสังคมที่มีความหลาก หลายมาก หากเริ่มไม่อดทนกับความเห็นต่าง ก็อาจจะเกิดความขัดเเย้งได้ง่าย

ขณะที่นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ นักเขียนรางวัลศรีบูรพาและอดีตผู้อำนวยการฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์ PPTV กล่าวว่า เมื่อเกิดวิกฤตไม่ว่าทางสังคม เศรษฐกิจหรือการเมือง สื่อมีทางเลือก 2 อย่างคือฆ่าความจริงหรือพูดความจริง ความขัดเเย้งที่เกิดขึ้น วิกฤตการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ซึ่งสื่อบางกลุ่มก็จะนำเสนอความจริง บางสื่อไม่พูดถึงเลือกเเต่งเรื่อง เพราะคนไทยชอบดราม่าเเละคนไทยถูกสอนมาตั้งเเต่เด็กว่าให้เชื่อเเละฟัง ฟังเเล้วต้องเชื่อ ดังนั้นเมื่อเกิดวิกฤตกลายเป็นดราม่าที่จบไป เเต่ไม่เกิดการตั้งคำถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เเละอีกปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือถึงไม่ฟังก็ตัดสินใจเชื่อเเล้ว ดังนั้นสื่อมวลชนมีหน้าที่รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น วิพากษ์วิจารณ์ผู้ที่มีอำนาจเเละปกป้องคนที่อ่อนเเอกว่าเเละกลั่นกรองก่อนให้ข้อมูล เเต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเเต่ละสื่อที่ออกไปมีวาระซ่อนเร้น มีผลประโยชน์เข้ามาครอบงำ 

ขณะเดียวกันก็มีสื่อที่มีจรรยาบรรณเช่นกัน เเต่สิ่งหนึ่งที่ตนยืนยันคือความน่าเชื่อถือของสื่อจะเป็นตัวคุ้มกันสื่อเอง เเละจะทุเลาความรุนเเรงในสังคมได้ มีพื้นที่ให้คนที่เป็นกลางได้เเสดงความเห็น ไม่ใช่ให้ใครครอบงำสื่อ อย่างกรณีจ่านิว ตนมองมีข้อดีเกิดขึ้น มีคนในสังคมที่ไม่เลือกข้างได้เเสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง มองถึงปัญหาการก้าวล่วงสิทธิมนุษยชนมากกว่าเรื่องทางการเมือง 

ส่วนนางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า เเอมเนสตี้อยากเห็นการเคารพสิทธิมนุษยชนซึ่งกัน เเละกันของคนในสังคม เเละอยากให้รัฐเห็นความสำคัญเพื่อให้เกิดการปกป้องคุ้มครองประชาชนจากรัฐ เเต่สิ่งที่เกิดขึ้น เพียงครึ่งปีเเรกนี้ มีการทำร้ายร่างกายเเละข่มขู่นักกิจกรรม นักสิทธิมนุษยชนถึง 9 ครั้ง ส่งผลต่อความรุนแรงทั้งทางร่างกาย จิตใจ ถูกข่มขู่ รุมด่า ไซเบอร์บูลลิ่ง อย่างเเอมเนสตี้เอง มีกิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสิทธิ ยังถูกเฮชสปีชเยอะ ทั้งด่าทอ ข่มขู่ วางพวงหรีด ใครที่ออกมาพูดแทนแอมเนสตี้ก็จะโดนคล้ายกัน จากการตั้งข้อสังเกตเพราะทุกคนโกรธหวาดกลัว แล้วคิดว่าเราไปช่วยโจรหรือไม่ แม้จะอธิบายแต่ก็ไม่มีใครฟังจนมีการสร้างเพจต่างๆ ล้อเลียน นำสู่ความวิตกกังวล เพราะกลายเป็นการเข้าใจผิดและชี้นำให้เกิดความรุนแรง หากเป็นหญิงที่ออกมาเคลื่อนไหวจะถูกโจมตีหนักถึงเรื่องเพศด้วย 

สำหรับความรุนแรงทางการเมือง เฉพาะปี 2561 ถึงตอนนี้พบมีการทำความรุนแรงทางร่างกายแล้ว 15 ครั้ง ล่าสุดที่เกิดกับจ่านิวที่โดนความรุนแรงทางกายภาพไม่พอ ยังโดนความรุนแรงรอบสองจากวาทกรรมทางออนไลน์ รวมถึงนักกิจกรรมคนอื่นๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองก็โดนด้วย แต่จะเห็นว่าแม้คนเหล่านี้ถูกกระทำกี่ครั้ง ก็ยังยืนยันในจุดยืน แต่พื้นที่ในการแสดงออกเริ่มถูกกบีบให้ลดลงเรื่อยๆ ซึ่งหากถูกบีบไปเรื่อยๆ แล้วความหวังที่จะลดความรุนแรงจะเกิดขึ้นได้จริงๆ หรือไม่ 

ทั้งนี้ ความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ สิ่งที่อยากเห็นในฐานะองค์กร คืออยากเห็นเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นของทุกฝ่ายไม่ว่าจะเห็นต่างกันก็ตาม หากเราเคารพสิทธิคนอื่น ก็จะมองเห็นคนอื่นเป็นมากขึ้น อย่างกรณีจ่านิว แม้จะไม่เห็นด้วยอย่างไร แต่ก็ไม่ควรถูกทำร้ายร่างกาย และหากจับคนผิดไม่ได้ วันหนึ่งเหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดกับเราคนใดคนหนึ่งได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]