จ่อห้ามจับสัตว์น้ำทะเลขนาดต่ำกว่า 14 ซม.

กรุงเทพฯ 2 ก.ค. – รมว.เกษตรฯ ลั่นฟื้นฟูปลาทูไทยและสัตว์น้ำทะเลทุกชนิด ขีดเส้น 7 วัน ต้องได้คำตอบจากกรมประมง เร่งศึกษาผลกระทบอาชีพประมง จ่อออกประกาศคำสั่งห้ามจับสัตว์น้ำทะเลขนาดต่ำกว่า 14 เซนติเมตร


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ภายใน 7 วันนี้จะได้คำตอบจากกรมประมง โดยได้สั่งการให้เร่งศึกษาหาทางแก้ไขปัญหาทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลไทยในประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจเกี่ยวกับวิกฤติปลาทูไทยใกล้สูญพันธุ์ จากการจับลูกปลาทูขนาดเล็กไปจำหน่าย โดยขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกรมประมงนำ พ.ร.ก.การประมง 2558 มาตรา 57 ที่มีข้อกำหนด “ห้ามมิให้ผู้ใดจับสัตว์น้ำหรือนำสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็กกว่าที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดขึ้นเรือประมง” มาบังคับใช้ 

ทั้งนี้ กรมประมงจะต้องเร่งศึกษาให้ชัดเจนตามที่ชาวประมงกล่าวอ้างด้วยว่า หากประกาศใช้มาตรา 57 จะกระทบอาชีพประมงอย่างไร รวมถึงดูให้ครบทุกประเด็นทั้งผลกระทบประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ รวมทั้งการปรับแก้กฏหมาย 17 มาตรา ที่ชาวประมงประสบความเดือดร้อนหลังจากมีมาตรการแก้ไขปัญหาประมงไอยูยู เนื่องจากกฎหมายมีโทษรุนแรงและยังมีกฎระเบียบ ข้อห้ามต่าง ๆ ที่เรือประมง มักทำผิดถูกดำเนินคดีได้โดยง่าย เช่น จะต้องลดภาระชาวประมงที่มีค่าใช้จ่ายต้องเปิดเครื่องติดตามเรือประมง (VMS) ตลอด เพื่อลดผลกระทบต่ออาชีพประมงและกิจการต่อเนื่องโดยเร็วที่สุด


“ปัญหาปลาทูใกล้สูญพันธุ์ แม้ปิดอ่าวทุกปีเพื่อฟื้นฟูทรัพยากร แต่ยังคงมีการเรียกร้องให้ออกกฎกระทรวงฯ ห้ามจับสัตว์น้ำที่มีขนาดต่ำกว่า 14 เซนติเมตร กำลังให้กรมประมงศึกษาให้ชัดเจน ถ้าประกาศแล้วส่งผลดีต่อการฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำทะเล ทุกฝ่ายได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน พร้อมจะดูแลทุกอย่าง” นายกฤษฎา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย