กระบี่ 25 มิ.ย. – หลายปีแล้วที่ชาวประมงจับปลาทูได้น้อยลงจนเกิดความกังวลว่าปลาทูจะหายไปจากทะเลไทย แต่ช่วงปิดอ่าวฤดูปลาวางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อนปีนี้ ชาวประมง จ.กระบี่ พบฝูงลูกปลาทูชุกชุมอย่างมาก จึงร่วมมือกับกรมประมงปกป้องเพื่อให้ลูกปลาทู เติบโตเป็นตัวเต็มวัย แพร่พันธุ์ตามธรรมชาติ คืนความอุดมสมบูรณ์แก่ท้องทะเลไทยอีกครั้ง
ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงเขต 3 ออกตรวจการชายฝั่งที่อ่าวบ่อม่วง อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ถี่ขึ้น เมื่อชาวประมงพื้นบ้านรายงานพบฝูงลูกปลาทูจำนวนมากในรอบหลายปี ห้วงนี้ควบคุมการทำประมงชายฝั่งตามมาตรการปิดอ่าวฤดูปลามีไข่วางไข่และเลี้ยงตัวในวัยอ่อนฝั่งทะเลอันดามัน ตั้งแต่แหลมพันวา อ.เมืองภูเก็ต ถึงปลายแหลมหัวล้าน เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา ไปยังเกาะบิดานอก อ.เมืองกระบี่ และปลายแหลมเกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ต่อเนื่องปลายแหลมเกาะตะลิบง อ.กันตัง เกาะสุกร ถึงแหลมหยงสตาร์ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง รวมพื้นที่ 4,696 ตารางกิโลเมตร เริ่มเมื่อ 1 เมษายน และจะสิ้นสุด 30 มิถุนายนนี้
ปีนี้อากาศร้อนและฝนน้อย นักวิชาการประมงพบว่าลูกปลาทูโตช้า ปกติในเดือนนี้ต้องเกือบโตเต็มวัยแล้ว ดังนั้นจึงขอความร่วมมือชุมชนประมงช่วยกันดูแลรักษาฝูงลูกปลาทูต่อไป แม้จะสิ้นสุดประกาศมาตรการปิดอ่าว เพื่อให้เติบโตและขยายพันธุ์ต่อไป
กรมประมงเร่งสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านให้เลิกใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ทำให้บางชุมชนกลับมาร่วมมือรื้อถอนโพงพางซึ่งเป็นเครื่องมือประมงตาถี่ ป้องกันไม่ให้ลูกสัตว์น้ำไปติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกปลาทู
ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเขต 3 นำลูกพันธุ์ปลากระพงไปมอบให้เพื่อส่งเสริมการปรับเปลี่ยนอาชีพ เลิกวางโพงพางซึ่งมีอานุภาพทำลายล้างสูง แล้วมาเพาะเลี้ยงปลาในกระชัง เป็นการบริหารจัดการทรัพยากรแบบมีส่วนร่วม
เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ประเภทโป๊ะน้ำตื้นและยอแดง 20 ปาก ที่ชายฝั่งทะเลบ้านทุ่งครก และบ้านท่ามะพร้าว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ได้เข้ารื้อถอนทำลายและตรวจยึด ในขณะรื้อถอนพบฝูงลูกปลาทูจำนวนมากติดเครื่องมือประมงดังกล่าว ขนาดลำตัว 10 -12 เซนติเมตร จึงปล่อยคืนสู่ทะเล และจะขอความร่วมมือจากชาวประมงยังไม่จับจนกว่าจะโตเต็มวัยขนาด 15 เซนติเมตรขึ้นไป ซึ่งจะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า ที่สำคัญเป็นการรักษาให้ปลาทูอยู่คู่ทะเลได้อย่างยั่งยืน. – สำนักข่าวไทย