ตร.ให้ความมั่นใจแต่งตั้งโยกย้ายโปร่งใส เป็นธรรม

กทม. 28 มิ.ย.-  ผช.ผบ.ตร.ให้ความมั่นใจแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง สว.ถึง ผบ.หมู่ โปร่งใส เป็นธรรม ป้องกันกลั่นแกล้ง 


พลตำรวจโทปิยะ อุทาโย ได้รับมอบหมายจากพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เป็นประธานประชุมเพื่อพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รองสารวัตรถึงผู้บังคับหมู่ 


พลตำรวจโทปิยะ ยืนยัน สามารถออกคำสั่งก่อน 30 มิถุนายน โดยให้มีผล 10 กรกฏาคม เพื่อให้สามารถไปปฏิบัติหน้าที่ใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง วันนี้เป็นการตรวจสอบในรายละเอียดให้เสร็จ ป้องกันไม่ให้ เกิดปัญหาตำแหน่งซ้ำซ้อนกัน เหมือนการแต่งตั้งโยกย้ายหลายครั้งที่ผ่านมา ซึ่งการแต่งตั้งโยกย้าย เป็นนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำให้คำนึงถึง การขอย้ายกลับไปดูแลครอบครัวยังภูมิลำเนาเป็นหลัก พร้อม กำชับเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้ามกองบัญชาการ ให้เป็นไปอย่างเป็นธรรม ไม่มีการกลั่นแกล้งกัน โดยผู้ถูกย้ายต้องรับรู้และยินยอมในการโยกย้ายส่วนการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายระดับชั้นประทวน-รองสารวัตร  พลตำรวจโท ปิยะ ให้ความมั่นใจว่า ต้องมีความเป็นธรรม เป็นไปตามกฏเกณฑ์ ของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ส่วนกรณีการเสียชีวิตของร้อยตำรวจเอก พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรมาบอำมฤต จังหวัดชุมพร หลังไม่ได้รับความเป็นธรรมในการโยกย้ายภายในระดับสถานีตำรวจ ให้มาทำหน้าที่งานสอบสวน ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัว โดยผบ.ตร. มอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8  ไปเยี่ยมปลอบขวัญครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว และในประเด็นนี้ ขอชี้แจงว่า เกิดจากการเสนอมาจากต้นสังกัดของร้อยตำรวจเอกพิเชษฐ์ เองที่ต้องการหาบุคลากร ไปทำหน้าที่งานสอบสวน จึงเป็นการปรับย้ายกันเองในระดับสถานีตำรวจ และยอมรับว่าการย้ายในระดับสถานี ครั้งนี้ถือว่าบกพร่อง เนื่องจากไม่มีตรวจสอบว่า มีความพร้อมในการทำหน้าที่สอบสวนหรือไม่ ส่วน เหตุการณ์ สารวัตรป้องกันปรามปราม สภ.รัตภูมิ จังหวัดสงขลา ยิงดาบตำรวจ โรงพักเดียวกัน 3 นัด เสียชีวิต หลังมีปากเสียงทะเลาะเรื่องที่จอดรถนั้น พลตำรวจโทปิยะ ระบุเบื้องต้นว่ายังไม่ได้รับรายงาน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ.-สำนักข่าวไทย

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โรงสีข้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โกดังโรงสีข้าว หลังคาทะลุ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้านโรงสีไม่ได้แจ้งความหรือดำเนินคดี

กกต. เผยเลือกตั้งเทศบาล มีคำร้อง 352 เรื่อง เตือนอย่าทำผิด กม.

ประธาน กกต. เผยยอดคำร้อง “เลือกตั้งเทศบาล” เพิ่มเป็น 352 เรื่อง เตือนอย่าทำผิดกฎหมาย พร้อมเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ คาดรู้ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ไม่เกิน 4 ทุ่ม