สำนักข่าวไทย 26 มิ.ย.- ผอ.กองวัณโรค ชี้วัณโรคหลังโพรงจมูก อย่างกรณีน้ำตาล เดอะสตาร์ ไม่ติดต่อกัน เป็นเฉพาะตัว อัตราเสียชีวิตต่ำ
พญ.ผลิน กมลวัทน์ ผู้อำนวยการ กองวัณโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องวัณโรค โดยติด 1 ใน 14 ประเทศ ที่มีวัณโรคสูง และมีปัญหาครบ 3 ด้าน คือผู้ป่วยวัณโรคสูง ผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาสูงและผู้ป่วยวัณโรคที่มีการติดเชื้อเอชไอวีร่วมด้วยสูง ซึ่งแสดงว่าที่ผ่านมาควบคุมยังทำได้ไม่ดีพอ
ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อประมาณ 20 ล้านคน มีอาการป่วยแล้ว 1.2 แสนคน คิดเป็นอัตราป่วย 156 ต่อแสนประชากร เสียชีวิตปีละประมาณ 1.2 หมื่นคน ซึ่งในจำนวนผู้ป่วย 1.2 แสนคนนั้น พบว่าเป็นผู้ป่วยเข้าระบบรักษาและสามารถติดตามอาการได้ 8 หมื่นราย คิดเป็นร้อยละ 75 ส่วนอีก 40,000 คน นั้นไม่ทราบไปไหนแต่อยู่ระหว่างการค้นหาเพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษาให้เร็วที่สุด โดยที่ผ่านมามีการค้นหาทั้งในกลุ่มผู้ต้องขัง ซึ่งในจำนวนประมาณ 3 แสนราย เจอผู้ติดเชื้อประมาณ 4-5 พันราย ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวก็มี
พญ.ผลิน กล่าวต่อว่า วัณโรคสามารถเกิดได้ทุกตำแหน่งของร่างกายพบมากอันดับ 1 หรือร้อยละ 80 พบที่ปอด รองลงมาคือวัณโรคกระดูก วัณโรคต่อมน้ำเหลือง และวัณโรคผิวหนัง เป็นต้น ซึ่งวัณโรคปอดสามารถติดต่อ กันได้ผ่านทางลมหายใจ ส่วนวัณโรคโพรงจมูกเจออย่างเคสของน้ำตาล เดอะสตาร์นั้น เจอได้น้อย อัตราเสียชีวิตต่ำ ส่วนใหญ่แล้วรักษาหายได้ และกรณีวัณโรคหลังโพรงจมูกนั้นไม่ได้ติดต่อกัน มักเป็นเฉพาะตัว และมักเกิดจากปอดก่อนแล้วโรคค่อยขึ้นไปที่โพรงจมูก แต่ที่โพรงจมูกจะมีเส้นเลือดฝอยเยอะ แล้วธรรมชาติของวัณโรคเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งจะมีการกัดเส้นเลือด หากกัดเส้นเลือดจุดสำคัญก็ทำให้เลือดทะลักได้ เคสของน้ำตาล ไม่ทราบว่าเกิดการติดเชื้อตอนไหน แต่สำหรับผู้ติดเชื้อหากร่างกายอ่อนแอ เม็ดเลือดขาวต่ำก็จะทำให้เกิดการป่วยได้ และภาวะเกล็ดเลือดต่ำก็ทำให้ไม่มีตัวไปห้ามเลือด ทำให้เลือดทะลัก และอาจจะเกิดวัณโรคที่ปอดมาก่อนหรือไม่ จริงๆ อยากให้ครอบครัวของน้ำตาลได้มีการตรวจหาเชื้อด้วย เพราะหากมีการติดเชื้อที่ปอดจริงจุดนี้สามารถติดต่อกันได้
ผอ.กองวัณโรค กล่าวต่อว่า หากเป็นวัณโรคปอด เชื้อจะออกมาทางลมหายใจ สามารถติดต่อกันได้ ซึ่งเมื่อติดเชื้อแล้วกว่าจะป่วยนั้นบางคนใช้เวลาเร็วสุด 2 ปี บางคนช้าสุดเป็น 10 ปี ดังนั้น ลืมไปเลยว่าติดเชื้อมาได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม ระยะแพร่เชื้อคือช่วง 3 เดือนก่อนป่วย แต่ถ้าได้รับยาแล้ว ภายใน 2 สัปดาห์เชื้อจะตายถึงร้อยละ 90 ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการติดต่อ ยืนยันว่าวัณโรคทุกตำแหน่งรักษาเหมือนกัน หายได้ โดยการกินยาต่อเนื่องกัน 6 เดือน ห้ามขาดยาเด็ดขาด เพราะถ้าขาดยาจะทำให้เกิดการดื้อยาได้ ต้องเปลี่ยนการรักษาเป็นฉีดยา 6 เดือน กินยา 2 ปี ค่ายา 2 แสนบาทต่อคนต่อปี แต่หากยังดำเนินการตรงนี้ได้ไม่ดี กินบ้างไม่กินบ้าง ฉีดยาบ้างไม่ฉีดบ้างก็จะกลายเป็นวัณโรคดื้อยารุนแรง ต้องเปลี่ยนการรักษาใหม่ซึ่งยากกว่าเดิม ค่ายาจะเพิ่มเป็น 1.2 ล้านบาท ต่อคนต่อปี .-สำนักข่าวไทย