fbpx

ชี้ กมธ.ยกร่างข้อบังคับการประชุมให้ “พล.อ.สิงห์ศึก” นั่ง ปธ. เหมือน ส.ว.ล็อบบี้

กรุงเทพฯ 26 มิ.ย.-“คารม” ระบุกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับการประชุม ให้ “พล.อ.สิงห์ศึก” นั่งประธาน เหมือน ส.ว.ล็อบบี้ ยืนยันทำงานร่วมกันได้แต่ไม่สอดคล้องหลักประชาธิปไตย


นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะสมาชิกคณะกรรมาธิการร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา กล่าวถึงการประชุม คณะกรรมาธิการฯ เมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) ที่ได้มีการเลือก พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เป็นประธาน ว่า แม้ ส.ส.จะมีจำนวนมากกว่า ส.ว. แต่เมื่อรวม ส.ว.เข้ากับ ส.ส.พรรคฝ่ายรัฐบาล จึงเกิดเหตุการณ์ที่คล้ายกับการคุยกันไว้ล่วงหน้ามาก่อน จนทำให้ได้ พล.อ.สิงห์ศึก เป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ 

“ส่วนตัวไม่ติดใจ แต่โดยหลักการไม่ควรให้ประธานคณะกรรมาธิการฯ มาจาก ส.ว. เพราะวุฒิสภามาจากการเลือกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงเหมือนกับว่าประธานคณะกรรมาธิการ ก็คือ คสช.เลือกมา ซึ่งไม่ถูกต้อง เหมือน ส.ส.ยอมให้ ส.ว.รุกคืบเข้ามาแม้กระทั่งในคณะกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับฯ ทั้งนี้ แม้ไม่เห็นด้วย แต่ก็สามารถทำงานร่วมกัน ให้เกียรติกันได้ แต่ก็ยอมรับว่ามันไม่สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย” นายคารม กล่าว


นายคารม กล่าวอีกว่า ขณะที่การประชุมเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) ยังเป็นไปด้วยดี บางคนก็ยึดหลักการประชาธิปไตย ตนอยากฝากถึงประธานคณะกรรมาธิการฯ ให้เปิดกว้าง เทให้ฝั่ง ส.ส.ฝ่ายค้านมากกว่าฝั่ง ส.ว.ในช่วงเปลี่ยนผ่าน อยากให้ตรึกตรองทุกเรื่อง ให้การทำงานของสภาฯ ภายในข้อบังคับ ต้องมองเห็นในส่วนของ ส.ส.ด้วย ในฐานะ ส.ส.ต้องแสดงจุดยืน หาก ส.ว.รุกคืบเข้ามามีบทบาทมากกว่านี้ก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน ตนฝากไปถึง ส.ส.ทุกคน แม้กระทั่ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล เพื่อชี้ให้เห็นว่าไม่เหมาะสม และฝ่ายวุฒิสภาก็ต้องตระหนักว่าสิ่งใดที่ทำได้หรือทำไม่ได้ สิ่งเดียวที่ต้องคิด คือ การมองไปข้างหน้า และให้สะดวกในการทำงานมากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.