กรุงเทพฯ 26 มิ.ย. – บล.เอเซียพลัสหั่นจีดีพีปีนี้เหลือโตร้อยละ 2.7 หลังส่งออกหดตัวถึงร้อยละ 3 เหตุสงครามการค้ายืดเยื้อนานกว่าคาด พร้อมลดเป้าดัชนีหุ้นไทยเหลือ 1,699 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส กล่าวว่า ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยลง จากเดิมคาดว่าโตร้อยละ 3.4 เหลือโตร้อยละ 2.7 เนื่องจากการส่งออกชะลอตัวผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้การส่งออกปีนี้หดตัวร้อยละ 3 จากเดิมคาดว่าขยายตัวเพียงร้อยละ 0.5 ทำให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาจากการบริโภคครัวเรือนที่ยังได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องเสถียรภาพรัฐบาลที่มีคะแนนเสียงสนับสนุนไม่เด็ดขาด ประกอบกับการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีล่าช้าจะกระทบต่อการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2563 ล่าช้าประมาณ 3 เดือน กระทบลงทุนหายไป 70,000-80,000 ล้านบาท และอาจมีผลต่อเนื่องถึงการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ดังนั้น คาดว่ารัฐบาลชุดใหม่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโครงการมารดาประชารัฐ เพื่อกระตุ้นการบริโภคประชาชน
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยไตรมาส 3/2562 จะแกว่งตัวผันผวนในทิศทางขาขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากเงินทุนต่างชาติที่จะไหลเข้าไทยต่อเนื่อง ผลจากการที่ธนาคารกลางหลายประเทศส่งสัญญาณจะปรับลดดอกเบี้ย แต่จากสถานการณ์สงครามการค้ารุนแรงและยืดเยื้อกว่าที่คาด ซึ่งกระทบต่อปริมาณการใช้น้ำมันลดลง จึงได้ปรับลดสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบลงจาก 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เหลือ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และลดค่าการกลั่นจาก 6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็น 4.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้มีการปรับลดกำไรกลุ่มพลังงาน โรงกลั่น ปิโตรเคมี ซึ่งเป็นกลุ่มที่น้ำหนักสูงต่อตลาดหุ้นไทย ดังนั้น จึงได้ปรับแนวโน้มกำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้ลงจากประมาณการเดิมอยู่ที่ 1.03 ล้านล้านบาท จากเดิมที่ 1.06 ล้านล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น ( EPS) ที่ 103.32 บาท ลดลงจาก 106.58 บาท เติบโตร้อยละ 5.59 ลดลงจาก ร้อยละ 8.9 ทำให้เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีนี้ลดลงเหลือ 1,699 จุด จาก 1,705 จุด หรือระดับราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิที่ 16.45 เท่า โดยระยะสั้นอาจเห็นดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นไปที่ 1,750-1,760จุด แนะนำหุ้นที่กำไรเติบโต มีคุณภาพ คือ BBL ,BDMS ,ROBINS ,THANI ,GPSC และ RJH หุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ คือ CK หุ้นที่มีปันผลสม่ำเสมอ ภายใต้ดอกเบี้ยขาลง คือ EASTW , SCCC , MCS หุ้นอาหารส่งออกที่ถูกกระทบจำกัดจากสงครามการค้า คือ TU .-สำนักข่าวไทย