หวั่นส่งออกทรุด เรียกร้องแบงก์ชาติดูแลเงินบาทแข็งค่า

กทม. 25 มิ.ย.- เอกชนหวั่นส่งออกทรุด เรียกร้องแบงก์ชาติดูแลบาทแข็งค่า ด้านมาตรการดูดซับปาล์มภาครัฐได้ผลราคาขยับขึ้นสูงสุดรอบ 1 ปี


บาทไทยยังเดินหน้าแข็งค่า ทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 ปีที่ 30.65 บาท/ดอลลาร์หสรัฐ ซึ่งเป็นผลจากเงินทุนไหลเข้า และธนาคารกลางทั่วโลกมีทิศทางที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ หรืออาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ในแง่ดี 


ดังนั้นจึงทำให้คาดว่ามีโอกาสที่กระแสเงินทุนต่างชาติจะไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทย 1 แสนล้านบาท ในปีนี้จากที่เข้ามาแล้ว 4-5 หมื่นล้านบาท ในส่วนนี้เป็นการคาดการณ์ของ

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน โดยเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก จากปัจจัยหนุนเศรษฐกิจไทยที่เข้มแข็ง ความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่จะช่วยให้มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ออกมาเพิ่มเติม แต่ในแง่ท่องเที่ยวและส่งออก บาทที่แข็งค่าก็ทำให้อำนาจซื้อของต่างชาติลดลง ทางเอกชนจึงเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูแลก่อนได้รับผลกระทบหนักไปมากกว่านี้


วันพรุ่งนี้จะมีการประคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ตลาดคาดว่า จะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.75% และอาจจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วและผลกระทบสงครามการค้า ในขณะที่หุ้นไทยวันนี้ ปิดที่ระดับ 1,721.33 จุด เพิ่มขึ้น 5.33 จุด (+0.31%) มูลค่าการซื้อขาย 65,135.92 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย 


อีกเรื่อง คือราคาปาล์ม ที่ขยับขึ้นมาถึง 4 บาท/กก.สูงสุดในรอบ 1 ปี ภาพที่เห็น เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำลังทำงาน คือติดตั้ง ตัวกรองหยาบเศษสิ่งของที่อาจะติดมากับน้ำมันปาล์มดิบหรือซีพีโอ และจะมีการกรองละเอียดอีกรอบ ก่อนจะส่งซีพีโอตามท่อไปเป็นเชื้อเพลิงร่วมกับก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าบางปะกงชุดที่ 3 ซึ่งใช้สัดส่วนร้อยละ 64 ต่อ 36 

ซึ่ง กฟผ. มีการซื้อซีพีโอ 2 ลอตตามนโยบายภาครัฐเพื่อดูดซับพีพีโอ ลอตแรก 1.6 แสนตัน ก็ซื้อมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และผลิตหยดสุดท้ายเมื่อวานนี้ ก็มีพิธีฉลองการผลิต ส่วนล็อตที่ 2 ครม.ให้ซื้อ 2 แสนตัน ประมูลเสร็จสิ้นและส่งมอบซีพีโอเรียบร้อยแล้ว 66,250 ตัน โดยลอตใหม่นี้ คาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตไฟฟ้าได้หมดภายในเดือนสิงหาคมนี้ 

การรับซื้อของ กฟผ.ทั้งหมดนี้ รวมทั้งนโยบายส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี 10 และบี 20 ก็ส่งผลทำให้ดูดซับซีพีโอได้รวดเร็ว ล่าสุดสต็อกในประเทศอยู่ที่ 263,750 ตัน ทางกระทรวงพาณิชย์เชื่อมั่นว่าราคาผลปาล์มดิบคาดว่าจะอยู่ในราคาประมาณ 4 บาท/กก. เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 2 เดือนข้างหน้า แต่ที่มีผลกระทบคือราน้ำมันปาล์มขวดอาจจะขยับขึ้นด้วย ไปฟังเสียง อธิบดีกรมการค้าภายใน

และอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา คือ การส่งออกไบโอดีเซล บี 100 โดยเอกชนไทย ได้ส่งออกผ่านทางเรือ (Bulk- Shipment) ไปแล้วกว่า 6,800 ตัน แบ่งเป็นสาธารณรัฐประชาชนจีน 4,300 ตัน และยุโรป 2,500 ตัน 

อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาปาล์มขณะนี้ขยับสูงขึ้นและสต็อกในประเทศลดลง ก็จึงหยุดส่งออกแล้ว โดยกระทรวงพลังงานก็คาดการใช้ซีพีโอ เพื่อการผลิตเชื้อเพลิงปีนี้ จะมีปริมาณสูงถึง 2.3 – 2.5 ล้านตัน และการใช้เพื่อบริโภคจะมีราว 1 ล้านตัน ก็จะเป็นการรองรับปริมาณผลปาล์มที่เพิ่มขึ้นและคาดว่าจะมีซีพีโอในประเทศเป็นปริมาณสูงสุดตั้งแต่ที่เคยผลิตมาคือ กว่า 3 ล้านตัน/ปี ซึ่งหากปีนี้พบว่าราปาล์มตกอีก กฟผ. ก็จะซื้อเพิ่มได้อีกราว 1.4 แสนตัน ภายใต้ราคาซีพีโอราคากลางที่ 16.50 บาท/กก. โดยราคาซีพีโอปัจจุบันนี้อยู่ที่ 21-22 บาท/กก. และการที่ใช้ซีพีโอกว่า 2 .2แสนตันเพื่อผลิตไฟฟ้าในปีนี้ ต้นทุนแม้จะแพงกว่าการใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้า แต่ไม่กระทบค่าไฟฟ้า ก็เพราะ ครม.เห็นชอบให้ใช้งบประมาณมาจ่ายแก่ กฟผ.ในส่วนของงบรายจ่ายเพื่อสังคม(PSA ) ซึ่งการซื้อทั้งหมดใช้เงินราวกว่า 2,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย