วิจัยกรุงศรีปรับลดจีพีพีปีนี้ โตร้อยละ 3.2 หั่นส่งออกติดลบร้อยละ 1.5

กรุงเทพฯ 24 มิ.ย. – วิจัยกรุงศรี ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 3.2 ผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่ทวีความรุนแรง และยกระดับสู่สงครามเทคโนโลยี ทำให้ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกเพิ่มสูงขึ้น พร้อมหั่นส่งออกปีนี้เหลือติดลบร้อยละ 1.5 


นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  วิจัยกรุงศรีปรับลดประมาณการ GDP ปีนี้ลงเหลือร้อยละ 3.2 จากเดิมคาดร้อยละ 3.8 ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจไตรมาสแรกที่ผ่านมาชะลอตัวกว่าคาด ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน 

ขณะที่มูลค่าการส่งออกของไทยปีนี้คาดว่าจะกลับมาหดตัวร้อยละ1.5 จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.5 และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 40.2 ล้านคน ปรับลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 41.1 ล้านคน อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงที่เหลือของปี หากปัจจัยภายในประเทศปรับไปในทิศทางเป็นบวกมากขึ้น โดยเฉพาะการมีรัฐบาลชุดใหม่ที่สร้างความชัดเจนด้านนโยบายเศรษฐกิจและโครงการสำคัญ ๆ เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการเจรจาการค้ากับต่างประเทศ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และช่วยหนุนให้กิจกรรมเศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าได้ต่อเนื่อง


ทั้งนี้ วิจัยกรุงศรีคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมายของทางการที่ร้อยละ 1-4 ในช่วงที่เหลือของปี โดยมีปัจจัยบวกจากการบริโภคภาคเอกชนที่ยังเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการพยุงเศรษฐกิจกลางปีวงเงินกว่า 20,000 ล้านบาท วิจัยกรุงศรีจึงยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2562 เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.1

ด้านแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย แม้ว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้มีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอลงกว่าคาด และอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ แต่คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ เนื่องจากยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน อาทิ การก่อหนี้ของภาคครัวเรือนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การปรับตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ และการก่อหนี้ของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่อาจประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร วิจัยกรุงศรีจึงคาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.75 ในช่วงที่เหลือของปีนี้ .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย