กรุงเทพฯ 23 มิ.ย.-สำหรับกรณีรถเสียบนทางด่วนและเกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายเกิดขึ้นให้เห็นหลายครั้ง โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทยรวมถึงฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ออกมาตรการเตือนผู้ที่ประสบเหตุปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัด เพราะรถที่วิ่งบนทางด่วนใช้ความเร็วสูง
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. เผยแพร่ข้อแนะนำ 3 ข้อเพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนทางด่วนหากมีรถจอดเสีย ดังนี้
1.เปิดไฟสัญญาณกะพริบคู่ (ไฟฉุกเฉิน) ตลอดเวลาเพื่อช่วยเพิ่มการมองเห็นของรถที่วิ่งตามหลังมา
2.โทรสายด่วน 1543 ซึ่งเป็นเบอร์สายด่วนของการทางพิเศษ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือในขั้นต่อไป โดยห้ามลงจากรถเด็ดขาด หรือแจ้งผ่านแอปพลิเคชั่น EXAT Portal ของการทางพิเศษ
3.หากไม่สามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โทรศัพท์แจ้งได้ ให้ใช้โทรศัพท์ฉุกเฉิน ซึ่งติดตั้งไว้บนไหล่ทางทุกๆ 500-1,000 เมตร โดยการกดปุ่ม SOS และกลับไปนั่งรอในรถตามเดิม
ส่วนข้อแนะนำจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. มีดังนี้
1.ให้จอดรถชิดซ้ายบนไหล่ทาง หรือริมถนนให้มากที่สุด และห้ามลงจากรถเด็ดขาด
2.เปิดสัญญาณกะพริบคู่ (ไฟฉุกเฉิน) ตลอดเวลาและโทรแจ้งไปที่สายด่วนการทางพิเศษ 1543 หากใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่ได้ ให้ใช้โทรศัพท์ฉุกเฉินของการทางพิเศษ โดยกดปุ่ม SOS และกลับไปนั่งรอในรถ
3.หากมีกรวยสีส้ม หรือ ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง ให้นำไปวางที่ท้ายรถ หรือ ด้านหน้ารถ เว้นระยะห่าง 30 – 50 เมตร เพื่อให้สะดุดตาผู้ขับขี่คนอื่นๆ
4.หากเป็นไปได้ให้เปิดกระโปรงท้ายรถและยกขึ้นสูงที่สุด เพื่อเพิ่มการสังเกตเห็นของรถที่วิ่งมาด้านหลังว่ามีรถจอดเสียด้านหน้า
5.หากมีเสื้อกั๊กสีเหลือง (Safety Vest) ควรสวมใส่ขณะต้องลงไปเข็นรถ เพราะจะช่วยให้รถคันหลังมองเห็นได้จากระยะไกลแม้ในเวลากลางคืน หรือ ช่วงที่มีแสงสว่างน้อย.-สำนักข่าวไทย