เตรียมเสนอความเป็นไทยผ่านเมนูอาหารในเวทีการประชุมสุดยอดอาเซียน

โรงแรม ดิ แอทธินี 22 มิ.ย.-รองโฆษกรัฐบาล พร้อมด้วย หัวหน้าเซฟ เตรียมนำเสนอความเป็นไทยผ่านเมนูอาหารไทยเลิศรสในเวทีการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 เตรียมผลักดันต้มยำกุ้งเป็นเมนูมรดกทางวัฒนธรรม


พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในเวทีการประชุมสุดยอดอาเซียน หรือ ASEAN SUMMIT ครั้งที่ 34 นอกจากการประชุมหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปตามความตกลงในภูมิภาคอาเซียนร่วมกันแล้ว สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมต้องการนำเสนออย่างมาก คือ การนำเสนอความเป็นไทยด้วยการเสิร์ฟอาหารไทยบนโต๊ะงานเลี้ยงอาหารค่ำผู้นำคืนวันนี้ (22 มิ.ย.) ภายใต้ชื่องานเลี้ยง “มาลัย ไนท์” โดยจะใช้มาลัยเป็นสื่อถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย และใช้สำหรับต้อนรับแขกคนสำคัญของประเทศ เพื่อให้คนไทยเกิดความภาคภูมิใจ รวมถึงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและความสวยงามของประเทศไทย

“ทั้งนี้เมนูอาหารจะมีความหลากหลายชวนน่ารับประทาน เริ่มจากอาหารว่าง เช่น ช่อม่วง กระทงทอง เมี่ยงบัวหลวง ส่วนอาหารหลัก อาทิ มัสมั่นไทย น้ำพริกลงเรือผักสด เมนูกุ้งแม่น้ำเผาที่นำเสนอน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด และเมนูซุป อย่างต้มส้มปลาเก๋าแดง ซึ่งนับเป็นเมนูที่ทางไทยอยากนำเสนอ เพราะนอกจากรสชาติที่อร่อยหอมเครื่องเทศแล้ว เป็นเมนูที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงด้วย จากนั้นจะเสิร์ฟตามด้วยเมนูขนมไทย อย่างข้าวเหนียวมะม่วง ส่วนในวันพรุ่งนี้ (23 มิ.ย.) จะนำเสนออาหารจีนผสมผสานความเป็นไทย เช่น ผัดไทยมันกุ้ง รวมถึงมีเมนูขึ้นชื่อของไทย อย่าง ต้มยำกุ้ง ที่หลายประเทศชื่นชอบและขณะนี้อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทยด้วย” พล.ท.วีรชน กล่าว


ด้าน นายมนตรี จิรฐิติกาลกิจ หัวหน้า CHEF ห้องอาหารไทย ประจำโรงแรม ดิ แอทธินี ซึ่งเป็นโรงแรมที่จัดการประชุม กล่าวว่า อาหารไทยที่จะนำเสนอในช่วงค่ำนี้ เน้นอาหารไทยชาววัง ในยุครัชสมัยรัชกาลที่ 1-5 นำมาจัดจานตกแต่งให้เข้ากับสมัยใหม่ เน้นใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง และเครื่องชามเบญจรงค์ ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งนำเสนอความเป็นไทยผ่านอาหารไทยให้หลายประเทศเห็นความสวยงาม และเชื่อว่าอาหารจะเป็นที่ชื่นชอบของผู้นำประเทศอาเซียน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ พล.ท.วีรชน พร้อมด้วย นายธฤต จรุงวัฒน์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอาเซียน 2019 กระทรวงการต่างประเทศ ได้นำของที่ระลึกในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 มาแสดง ภายใต้แนวคิดการประชุมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Meeting เพื่อประหยัดทรัพยากรและลดปริมาณขยะที่จะเกิดขึ้น ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากของรีไซเคิล เช่น เสื้อที่ทำจากขวดพลาสติก สมุดโน๊ตที่นำกระดาษใช้แล้วมีรีไซเคิล กระเป๋าเอนกประสงค์ที่ทำจากถุงพลาสติกที่ใช้แล้ว นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกที่เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทย ซึ่งปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ผู้นำอาเซียนจะหารือ ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ด้วย.สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว