ธปท. 20 มิ.ย. – ธปท. คุมเข้มติดตามธุรกรรมเงินบาทมีวัตถุประสงค์ใช้ไทยเป็นแหล่งพักเงินระยะสั้นเพื่อเก็งกำไร ชี้ปัจจัยภายนอกยังคาดการณ์ได้ยากส่งผลให้ค่าเงินประเทศเกิดใหม่ผันผวน
นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นเร็วและแข็งกว่าสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคจากปัจจัยทั้งภายนอกและภายในประเทศ โดยปัจจัยภายนอกมีบทบาทสำคัญที่ทำให้เงินบาทและเงินสกุลกลุ่มประเทศเกิดใหม่ผันผวนสูง ธปท. ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยหากแข็งค่าต่อเนื่องและเร็วขึ้นเทียบกับสกุลคู่ค้าคู่แข่ง อาจเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของไทย และอาจส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงและการปรับตัวของผู้ประกอบการ ธปท. จะเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามธุรกรรมที่มีวัตถุประสงค์ในการใช้ไทยเป็นแหล่งพักเงินระยะสั้นเพื่อเก็งกำไรค่าเงินบาท ซึ่งเป็นสิ่งที่ ธปท. ไม่พึงประสงค์
ในระยะต่อไป ปัจจัยภายนอกจะยังคาดการณ์ได้ยากและจะส่งผลให้ค่าเงินสกุลประเทศเกิดใหม่ผันผวนได้ต่อเนื่อง ภาคเอกชนจึงควรพิจารณาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยช่วงที่เงินบาทแข็งค่า เป็นจังหวะที่ดีสำหรับผู้มีภาระหนี้หรือค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระเป็นสกุลเงินต่างประเทศ รวมทั้งธุรกิจสามารถนำเข้าสินค้าและเครื่องจักร หรือเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศด้วยต้นทุนค่าเงินที่ถูกลง
ด้านนักค้าเงิน เปิดเผยว่า การซื้อขายเงินบาทในวันนี้แข็งค่าสุดที่ระดับ 30.91 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าสุดในรอบ 6 ปี และปิดการซื้อขายวันนี้เงินบาทปิดที่ 30.94 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ . – สำนักข่าวไทย