ก.เกษตรฯ เร่งแก้ปัญหาภาคประมง

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – “กฤษฎา” สยบม็อบชาวประมงทั่วประเทศ หลังประกาศเคลื่อนไหว 28 มิ.ย.นี้ นายกฯ สั่งแก้ทุกปัญหาให้จบใน 1 เดือนก่อนมีรัฐบาลใหม่  รับปากเยียวยาผลกระทบจาก IUU  ร่วมสำรวจเรือประมงอีกกว่า 2,000  ลำ ต้องหยุดทำอาชีพ ด้านประธานสมาคมประมงร้องขอรัฐตั้งกองทุนบริหารประมงทั้งระบบ


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ ประชุมร่วมกับสมาคมประมงแห่งประเทศไทย สมาคมประมงพื้นบ้านและตัวแทนสมาคมประมงท้องถิ่น 22 จังหวัดชายทะเล โดยผู้แทนชาวประมงเรียกร้องให้ช่วยเหลือจากปัญหาและผลกระทบจากการออก พ.ร.ก.ประมง พ.ศ. 2558 ซึ่งมีบทลงโทษรุนแรง ความซ้ำซ้อนการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 81 ระหว่างกรมเจ้าท่ากับกรมประมงเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนเรือประมงพื้นบ้านกว่า 30,000 ลำ รวมทั้งการกำหนดเขตทำประมงชายฝั่ง มาตรา 34 ในระยะ 5ไมล์ทะเลจากชายฝั่งที่ยังกำหนดไม่ครบทุกจังหวัด นอกจากนี้ ยังปัญหาการเปิดเขตการค้าอาเซียน มีการนำเข้าสินค้าประมงจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งบางประเทศนำสัตว์น้ำที่เป็นการทำประมงผิดกฎหมาย ไร้การควบคุม และขาดการรายงาน (IUU) เมื่อนำเข้ามาแย่งตลาดในประเทศ ส่งผลให้ราคาสัตว์น้ำตกต่ำ โดยชาวประมงจะนัดรวมตัวเคลื่อนไหววันที่ 28 มิถุนายนี้ เพื่อรวบรวมปัญหาและเสนอทางออกต่อรัฐบาลใหม่ 

นายกฤษฎา กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้เร่งแก้ความเดือดร้อนชาวประมงทุกกลุ่ม จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้เวลา 30 วัน ตรวจสอบด่านประมงทุกด่านตลอดแนวชายแดนที่อาจมีความย่อหย่อนหากพบผิดจะลงโทษทางวินัยทันที เพราะทำให้มีการนำเข้าสินค้าประมงตีตลาดในประเทศจากเปิดการค้าเสรีอาเซียน (FTA) แต่การนำเข้าทุกชนิดต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่า จับสัตว์น้ำมาจากแหล่งทำประมงถูกต้อง อีกทั้งต้องไม่เป็นประมง IUU จึงสั่งการด่านประมงเพิ่มความเข้มงวดอย่างชัดเจน ไม่ปล่อยปละละเลยให้มีการเรือประมงสัญชาติอื่นลักลอบทำประมงในน่านน้ำไทย อีกทั้งการนำสินค้าสัตว์น้ำเข้าต้องมีระบบการตรวจสุขอนามัยให้เป็นไปตามกฎหมายประมงใหม่ ถ้าเจ้าหน้าที่หย่อนยานจะลงโทษอย่างเด็ดขาด 


นอกจากนี้ ปัญหาเรือจอดอยู่ต้องเปิดสัญญาณอุปกรณ์ติดตามเรือ (VMS) ทำให้ชาวประมงมีค่าใช้จ่ายเดือนละเกือบ 50,000 บาท ได้ให้ผ่อนผัน โดยต้องแจ้งที่จอดชัดเจน เช่น กรณีเรือขึ้นคานพื่อนำไปซ่อม ไม่ได้ออกทะเลเพื่อจับสัตว์น้ำนั้น ได้แต่งตั้คณะทำงานปรับแก้กฎหมายด้วยให้มีความเหมาะสม ไม่ให้ชาวประมงเดือดร้อนเกินควร

“นายกรัฐมนตรีให้เวลา 1 เดือน เพื่อแก้ให้ได้ หลังจากประเทศไทยได้ใบเขียว IUU ตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูกฎหมายให้อดีตอธิบดีกรมประมงเป็นประธาน เพื่อทบทวน พ.ร.ก. ประมง พ.ศ. 2558 ว่ามีมาตราไหนที่พี่น้องชาวประมงได้รับผลกระทบ พบว่ามี 16 มาตรา บางมาตรการแก้ด้วยการออกกฎหมายลูก ออกประกาศกฎกระทรวง กำลังดำเนินการ 7 ฉบับ อยู่ในขั้นตอนกฤษฎีกา ขอให้กรมประมงเร่งดำเนินการและต้องรายงานความคืบหน้าให้ชาวประมงและสังคมรับรู้ทุก 7 วัน” นายกฤษฎา กล่าว

นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้รับข้อขัดข้องจากชาวประมงทั้งหมดมาให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยมีตัวแทนทุกสมาคมประมงเข้าร่วมประชุมวันที่ 21 มิถุนายน  ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ประมงไทยก่อนปี 2558  มีปัญหามากมายทั้งเรือจดทะเบียนและไม่จดทะเบียน เมื่อครั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้รับร้องเรียนมาตลอดจากชาวประมง และไตก่งเรือ โดนเรียกเงินทองไม่หากจ่ายก็ล่าช้า ทั้งแรงงานต่างด้าว ไม่มีบัตรเอาแรงงานลงเรือ ต้องจ่ายค่านายหน้า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามารับผิดชอบได้นำเรื่องเหล่านี้มาแก้ไขจัดระเบียบกองเรือ ทำทะเบียนเรือ ออกกฎหมายใช้เครื่องมือประมงไม่ทำลายทรัพยากรและต้องปลอดการค้ามนุษย์


สำหรับการจัดระเบียบประมงชายฝั่ง ประมงพาณิชย์ ประมงนอกชายฝั่ง ขณะนี้บางจุดบางจังหวัดยังกำหนดแนวไม่เรียบร้อย โดยการประชุม ครม.ที่ผ่านมาได้แก้ไขแนวประมงชายฝั่งจังหวัดตราดแล้ว นายกฤษฎาย้ำว่าขอให้ข้าราชการทุกคนนึกถึงภาพทำงานแล้วมาเอาหัวใจของชาวประมงมาใส่จะทำให้แก้ไขได้ทุกเรื่อง ตอนนี้ได้จ่ายเยียวยาเรือประมงออกนอกระบบแล้ว 252 ลำ จ่ายเงินร้อยละ 30 และที่เหลือจ่ายหลังทำลายเรือเสร็จสิ้น โดยต้องผ่านการตรวจสอบว่าไม่เป็นเรือที่เคยทำผิดกฎหมายประมง กรมเจ้าท่า และแรงงาน นอกจากนี้ จะตั้งกรรมการตรวจสอบร่วมกับชาวประมงลงพื้นที่ไปสำรวจเรือที่มีการร้องจากองค์กรชาวประมงว่ามีเรือได้รับผลกระทบมากกว่านี้ 

ด้านนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมประมงแห่งประเทศไทยร้องขอค่าเยียวยากว่า 2,000 ลำ ที่ต้องลอยลำออกทำประมงไม่ได้ โดยเป็นเรือประมงถูกยกเลิกทะเบียนเรือ  มีเรือที่ตกสำรวจ และอีกกลุ่มเป็นเรืออวนรุนถูกกฎหมายได้ให้ยกเลิกภายใน 2 สัปดาห์ ให้เปลี่ยนเครื่องมือใหม่และชาวประมงขาดแคลนทุนทรัพย์ในการซื้อเครื่องมือ แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ ขอให้รัฐบาลจัดตั้งกองทุนบริหารจัดการประมงเป็นเงินจากค่าธรรมเนียมส่งออก ค่าปรับต่าง ๆ เข้ากองทุนจะสามารถจัดการดูแลชาวประมงได้ทั้งระบบ ซึ่งการประชุมใหญ่วันที่ 28 มิถุนายนนี้ เพราะชาวประมง 22 จังหวัดชายทะเลจะรวบรวมปัญหาต่าง ๆ และเสนอแนวทางแก้ไขแก่รัฐบาลใหม่ เพราะกฎหมายประมงปี 2558 บทลงโทษรุนแรงเป็นอันดับ 1 ของโลก ดังนั้นทุกฝ่ายต้องมาปรับให้เหมาะสม ชาวประมงสามารถการประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]