ก.เกษตรฯ เร่งแก้ปัญหาภาคประมง

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – “กฤษฎา” สยบม็อบชาวประมงทั่วประเทศ หลังประกาศเคลื่อนไหว 28 มิ.ย.นี้ นายกฯ สั่งแก้ทุกปัญหาให้จบใน 1 เดือนก่อนมีรัฐบาลใหม่  รับปากเยียวยาผลกระทบจาก IUU  ร่วมสำรวจเรือประมงอีกกว่า 2,000  ลำ ต้องหยุดทำอาชีพ ด้านประธานสมาคมประมงร้องขอรัฐตั้งกองทุนบริหารประมงทั้งระบบ


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ ประชุมร่วมกับสมาคมประมงแห่งประเทศไทย สมาคมประมงพื้นบ้านและตัวแทนสมาคมประมงท้องถิ่น 22 จังหวัดชายทะเล โดยผู้แทนชาวประมงเรียกร้องให้ช่วยเหลือจากปัญหาและผลกระทบจากการออก พ.ร.ก.ประมง พ.ศ. 2558 ซึ่งมีบทลงโทษรุนแรง ความซ้ำซ้อนการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 81 ระหว่างกรมเจ้าท่ากับกรมประมงเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนเรือประมงพื้นบ้านกว่า 30,000 ลำ รวมทั้งการกำหนดเขตทำประมงชายฝั่ง มาตรา 34 ในระยะ 5ไมล์ทะเลจากชายฝั่งที่ยังกำหนดไม่ครบทุกจังหวัด นอกจากนี้ ยังปัญหาการเปิดเขตการค้าอาเซียน มีการนำเข้าสินค้าประมงจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งบางประเทศนำสัตว์น้ำที่เป็นการทำประมงผิดกฎหมาย ไร้การควบคุม และขาดการรายงาน (IUU) เมื่อนำเข้ามาแย่งตลาดในประเทศ ส่งผลให้ราคาสัตว์น้ำตกต่ำ โดยชาวประมงจะนัดรวมตัวเคลื่อนไหววันที่ 28 มิถุนายนี้ เพื่อรวบรวมปัญหาและเสนอทางออกต่อรัฐบาลใหม่ 

นายกฤษฎา กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้เร่งแก้ความเดือดร้อนชาวประมงทุกกลุ่ม จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้เวลา 30 วัน ตรวจสอบด่านประมงทุกด่านตลอดแนวชายแดนที่อาจมีความย่อหย่อนหากพบผิดจะลงโทษทางวินัยทันที เพราะทำให้มีการนำเข้าสินค้าประมงตีตลาดในประเทศจากเปิดการค้าเสรีอาเซียน (FTA) แต่การนำเข้าทุกชนิดต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่า จับสัตว์น้ำมาจากแหล่งทำประมงถูกต้อง อีกทั้งต้องไม่เป็นประมง IUU จึงสั่งการด่านประมงเพิ่มความเข้มงวดอย่างชัดเจน ไม่ปล่อยปละละเลยให้มีการเรือประมงสัญชาติอื่นลักลอบทำประมงในน่านน้ำไทย อีกทั้งการนำสินค้าสัตว์น้ำเข้าต้องมีระบบการตรวจสุขอนามัยให้เป็นไปตามกฎหมายประมงใหม่ ถ้าเจ้าหน้าที่หย่อนยานจะลงโทษอย่างเด็ดขาด 


นอกจากนี้ ปัญหาเรือจอดอยู่ต้องเปิดสัญญาณอุปกรณ์ติดตามเรือ (VMS) ทำให้ชาวประมงมีค่าใช้จ่ายเดือนละเกือบ 50,000 บาท ได้ให้ผ่อนผัน โดยต้องแจ้งที่จอดชัดเจน เช่น กรณีเรือขึ้นคานพื่อนำไปซ่อม ไม่ได้ออกทะเลเพื่อจับสัตว์น้ำนั้น ได้แต่งตั้คณะทำงานปรับแก้กฎหมายด้วยให้มีความเหมาะสม ไม่ให้ชาวประมงเดือดร้อนเกินควร

“นายกรัฐมนตรีให้เวลา 1 เดือน เพื่อแก้ให้ได้ หลังจากประเทศไทยได้ใบเขียว IUU ตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูกฎหมายให้อดีตอธิบดีกรมประมงเป็นประธาน เพื่อทบทวน พ.ร.ก. ประมง พ.ศ. 2558 ว่ามีมาตราไหนที่พี่น้องชาวประมงได้รับผลกระทบ พบว่ามี 16 มาตรา บางมาตรการแก้ด้วยการออกกฎหมายลูก ออกประกาศกฎกระทรวง กำลังดำเนินการ 7 ฉบับ อยู่ในขั้นตอนกฤษฎีกา ขอให้กรมประมงเร่งดำเนินการและต้องรายงานความคืบหน้าให้ชาวประมงและสังคมรับรู้ทุก 7 วัน” นายกฤษฎา กล่าว

นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้รับข้อขัดข้องจากชาวประมงทั้งหมดมาให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยมีตัวแทนทุกสมาคมประมงเข้าร่วมประชุมวันที่ 21 มิถุนายน  ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ประมงไทยก่อนปี 2558  มีปัญหามากมายทั้งเรือจดทะเบียนและไม่จดทะเบียน เมื่อครั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้รับร้องเรียนมาตลอดจากชาวประมง และไตก่งเรือ โดนเรียกเงินทองไม่หากจ่ายก็ล่าช้า ทั้งแรงงานต่างด้าว ไม่มีบัตรเอาแรงงานลงเรือ ต้องจ่ายค่านายหน้า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามารับผิดชอบได้นำเรื่องเหล่านี้มาแก้ไขจัดระเบียบกองเรือ ทำทะเบียนเรือ ออกกฎหมายใช้เครื่องมือประมงไม่ทำลายทรัพยากรและต้องปลอดการค้ามนุษย์


สำหรับการจัดระเบียบประมงชายฝั่ง ประมงพาณิชย์ ประมงนอกชายฝั่ง ขณะนี้บางจุดบางจังหวัดยังกำหนดแนวไม่เรียบร้อย โดยการประชุม ครม.ที่ผ่านมาได้แก้ไขแนวประมงชายฝั่งจังหวัดตราดแล้ว นายกฤษฎาย้ำว่าขอให้ข้าราชการทุกคนนึกถึงภาพทำงานแล้วมาเอาหัวใจของชาวประมงมาใส่จะทำให้แก้ไขได้ทุกเรื่อง ตอนนี้ได้จ่ายเยียวยาเรือประมงออกนอกระบบแล้ว 252 ลำ จ่ายเงินร้อยละ 30 และที่เหลือจ่ายหลังทำลายเรือเสร็จสิ้น โดยต้องผ่านการตรวจสอบว่าไม่เป็นเรือที่เคยทำผิดกฎหมายประมง กรมเจ้าท่า และแรงงาน นอกจากนี้ จะตั้งกรรมการตรวจสอบร่วมกับชาวประมงลงพื้นที่ไปสำรวจเรือที่มีการร้องจากองค์กรชาวประมงว่ามีเรือได้รับผลกระทบมากกว่านี้ 

ด้านนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมประมงแห่งประเทศไทยร้องขอค่าเยียวยากว่า 2,000 ลำ ที่ต้องลอยลำออกทำประมงไม่ได้ โดยเป็นเรือประมงถูกยกเลิกทะเบียนเรือ  มีเรือที่ตกสำรวจ และอีกกลุ่มเป็นเรืออวนรุนถูกกฎหมายได้ให้ยกเลิกภายใน 2 สัปดาห์ ให้เปลี่ยนเครื่องมือใหม่และชาวประมงขาดแคลนทุนทรัพย์ในการซื้อเครื่องมือ แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ ขอให้รัฐบาลจัดตั้งกองทุนบริหารจัดการประมงเป็นเงินจากค่าธรรมเนียมส่งออก ค่าปรับต่าง ๆ เข้ากองทุนจะสามารถจัดการดูแลชาวประมงได้ทั้งระบบ ซึ่งการประชุมใหญ่วันที่ 28 มิถุนายนนี้ เพราะชาวประมง 22 จังหวัดชายทะเลจะรวบรวมปัญหาต่าง ๆ และเสนอแนวทางแก้ไขแก่รัฐบาลใหม่ เพราะกฎหมายประมงปี 2558 บทลงโทษรุนแรงเป็นอันดับ 1 ของโลก ดังนั้นทุกฝ่ายต้องมาปรับให้เหมาะสม ชาวประมงสามารถการประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

จากด่านสู่ดุลอำนาจ

จากด่านสู่ดุลอำนาจ : ไทย-กัมพูชา กับบทบาทใหม่ของเศรษฐกิจ

ใครพึ่งใคร? – วิเคราะห์แรงกดดันเศรษฐกิจชายแดนต่อกัมพูชา หลังไทยจำกัดการข้ามแดน กรณีพิพาทบริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี แม้เคยเกิดเหตุปะทะเล็กน้อยระหว่างทหารของทั้งสองฝ่าย แต่ในเวลาต่อมา กัมพูชาตัดสินใจถอยกำลังออกจากพื้นที่ โดยไม่มีการยกระดับความขัดแย้ง กลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญของ “ความมั่นคงยุคใหม่” ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเป็นตัวตัดสิน หากแต่เกิดจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ไทยเลือกใช้ แทนการเผชิญหน้าด้วยแสนยานุภาพ ผ่าน “มาตรการจำกัดการข้ามแดน” ที่บีบช่องทางการเคลื่อนย้ายคน สินค้า และระบบโลจิสติกส์ โดยเฉพาะที่ด่านอรัญประเทศ – จุดยุทธศาสตร์ซึ่งถือเป็นหัวใจของการค้าชายแดนไทย–กัมพูชา จุดเปลี่ยน : เมื่อเศรษฐกิจกลายเป็นเครื่องมือของความมั่นคงไทยเลือกใช้ “แรงบีบเชิงเศรษฐกิจโดยสันติวิธี” เป็นกลยุทธ์กดดันคู่ขนานกับการเจรจา ผ่านมาตรการสำคัญ ได้แก่ : ไทยยังส่งสัญญาณชัดว่า พร้อมจะยกระดับมาตรการเหล่านี้ หากสถานการณ์ตามแนวชายแดนยังตึงเครียด มาตรการซึ่งสำหรับกัมพูชาแล้ว เปรียบเสมือนกดทับ “เส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจ” ของฝั่งตะวันตกที่ต้องพึ่งพาการค้าข้ามแดนจากไทยเป็นหลัก ไทย : ผู้ถือ “กุญแจด่าน” และพลังการค้าข้ามพรมแดนข้อได้เปรียบของไทยยิ่งชัดเจน เมื่อพิจารณาจากตัวเลขการค้าข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศ (เมษายน 2568) ระบุว่า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชามีมูลค่ารวม 64,612 ล้านบาท ในช่วง 4 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้น […]

ลุ้นมติแพทยสภาวันนี้ ปมลงโทษ 3 หมอกรณีชั้น 14

กทม. 12 มิ.ย.-ที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา เริ่มการประชุมแล้ว โดยวาระที่ต้องจับตา คือการลงมติชี้ขาดโทษแพทย์ 3 ราย กรณีรักษา “ทักษิณ” ชั้น 14 รพ.ตำรวจ กรรมการแพทยสภา เริ่มทยอยเดินทางเข้าห้องประชุมตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา การประชุมคณะกรรมการบริหารแพทยสภา จัดขึ้นทุกวันพฤหัสบดีที่ 2 ของทุกเดือน โดยวันนี้มีวาระที่สังคมจับตา คือการพิจารณามติลงโทษแพทย์ 3 คน จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ที่รักษานายทักษิณ ชินวัตร บนชั้น 14 หลังจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข วีโต้คัดค้านความเห็นมติการลงโทษแพทย์ทั้ง 3 รายในการประชุมครั้งที่แล้ว โดยวันนี้มีรายงานว่า นายสมศักดิ์ จะเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมในเวลา 12.00 น. โดยมีเวลา 15 นาทีในการชี้แจง จากนั้นต้องออกจากห้องประชุมทันที เพราะเป็นการประชุมลับ รศ.พญ.ประสบศรี อึ่งถาวร หนึ่งในกรรมการแพทยสภาโดยเลือกตั้ง ให้ข้อมูลก่อนเข้าประชุมว่า การที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สธ. ในฐานะสภานายกพิเศษแพทยสภาจะเข้าร่วมการประชุม ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะที่ผ่านมา […]

ภรรยาช็อก สามีเสียชีวิตกลางวงสังสรรค์ที่อิสราเอล

อุดรธานี 12 มิ.ย. – ภรรยาช็อก สามีเสียชีวิตที่อิสราเอล นั่งคุยกับเพื่อนเรื่องลูกสาว จู่ๆ วูบดับคาโต๊ะกลางวงสังสรรค์ เชื่อทำงานต่างแดน โหมงานหนักจนเสียชีวิต เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษฎาง พูนเจ๊กมะดัน อายุ 39 ปี ชาวบ้านลานเต อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.68 ขณะไปทำงานที่อิสราเอล เจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดหางานจังหวัดอุดรธานี ประกันสังคมจังหวัด แรงงานจังหวัด และผู้สื่อข่าว เดินทางลงพื้นที่ร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัว จากการตรวจสอบข้อมูล ทราบว่า นายกฤษฎาง เคยเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอลเมื่อปี พ.ศ.2553 โดยบริษัทจัดหางานจัดส่ง ต่อมาได้เดินทางไปทำงานในประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 6 พ.ค.67 ภายหลังได้รับการติดต่อจากนายจ้างในรัฐอิสราเอลให้เดินทางกลับไปทำงานอีกเป็นครั้งที่ 2 จึงได้ตัดสินใจเดินทางเข้าไปทำงานต่อในรัฐอิสราเอลเมื่อ ม.ค.68 ในส่วนข้อมูลประกันสังคมพบข้อมูลผู้เสียชีวิตสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2551 และมีเงินสะสมกรณีบำเหน็จชราภาพ จำนวน […]

ร่างตัวประกันไทยรายสุดท้ายที่เสียชีวิตในกาซา ถึงไทยแล้ว

11 มิ.ย. – ร่างแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ถึงไทยแล้ว ด้านกระทรวงแรงงาน เผยเร่งช่วยเหลือครอบครัวและทายาท ร่างของนายณัฐพงษ์ ปินตา แรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ที่ถูกส่งกลับมาด้วยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) โดยมี นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงผู้แทนเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย มารอรับ และร่วมวางพวงหรีดหน้าหีบศพเพื่อแสดงความอาลัย โดยนายณัฐพงษ์ เป็นตัวประกันแรงงานไทยรายสุดท้ายที่ค้นพบร่างและสามารถส่งกลับไทยได้ สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาที่ทายาทจะได้รับ คือ 1.ในส่วนของสถาบันประกันภัยอิสราเอล กรณีแรงงานเสียชีวิต ครอบครัวหรือทายาทจะได้รับเงินชดเชย ได้แก่ ค่าทำศพ ประมาณ 79,000 บาท, ค่าใช้จ่ายในการฝังศพเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 47,000 บาท (1,300 USD), เงินช่วยเหลือการเป็นม่าย (หากมีภรรยา) ประมาณ 57,000 บาท, เงินชดเชยรายเดือนและรายปีอื่นๆ […]