ศาลยุติธรรมจับมือกับเคาน์เตอร์เซอร์วิสเพิ่มช่องทางชำระจ่ายค่าปรับผู้ประกัน

กรุงเทพฯ 18 มิ.ย.- สํานักงานศาลยุติธรรมจับมือกับเคาน์เตอร์เซอร์วิส เพิ่มช่องทาง ชำระจ่ายค่าปรับผู้ประกัน 


นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสํานักงาน ศาลยุติธรรม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการให้บริการชําระเงินค่าปรับผู้ประกัน กับนายวีรเดช อัครผลพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิส จํากัด และสาธิต การชําระเงินค่าปรับผู้ประกันด้วยบูทจําลองเคาน์เตอร์เซอร วิส ณ ห้องประชุมใหญ่สํานักงานศาลยุติธรรม ชั้น 12 อาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการชําระเงินค่าปรับ นายประกันให้มีความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และสามารถลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้ามา ติดต่อราชการศาล

นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า การลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือในครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลอนุญาตให้ปล่อย ผู้ต้องหาหรือจําเลยชั่วคราว แล้ว ผู้ประกัน  ซึ่งมีหน้าที่ ที่จะต้องนําตัวผู้ต้องหาหรือจําเลยมาศาลตามเวลาที่กําหนดนัด หากผู้ประกันไม่ สามารถนําตัวผู้ต้องหาหรือจําเลยมาศาลตามกําหนดนัดโดยไม่มีเหตุผลสมควร จะถือว่า ผู้ประกันนั้น ผิดสัญญาประกัน และจะสั่งปรับผู้ประกันตามสัญญาประกัน ทั้งน้ีในการชําระค่าประกันผู้ประกัน สามารถยื่นคําร้องขอผ่อนชําระค่าปรับต่อศาลได้ซึ่งในการนําเงินมาผ่อนชําระค่าปรับต่อศาล ผู้ประกัน จะต้องเดินทางมาศาล ทําให้ผู้ประกันไม่ได้รับความสะดวก เสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย สํานักงานศาลยุติธรรม จึงให้ผู้ประกันสามารถโอนเงินชําระเงินค่าปรับผู้ประกันผ่านทางธนาคารในระบบ KTB Corporate Online และเพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น สํานักงานศาลยุติธรรมจึงได้เพิ่มช่องทาง ให้ผู้ประกัน โดยได้พัฒนาระบบการชําระเงินค่าปรับผู้ประกันผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วสิ ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และร้านค้าที่มีสัญญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกสาขา เพื่อให้ผู้ประกันได้รับความสะดวก รวดเร็ว มากยิ่งข้ึน ซึ่งต่อไปในอนาคตสํานักงานศาลยุติธรรมจะขยายระบบการชําระเงินดังกล่าวมาใช้กับการ ชําระค่าธรรมเนียมศาล และเงินกลางต่อไป


เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม กล่าวต่อไปว่า สํานักงานศาลยุติธรรมมุ่งมั่นในการ เปลี่ยนผ่านศาลยุติธ รรม สู่ยุคดิจิทัล เพื่อกาวเข้าสู่การเป็น D – Court (ศาลดิจิทัล) ในปี 2020 ด้วยการพัฒนา ระบบให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใชับริการและสร้างความหลากหลายของรูปแบบการให้บริการ รวมถึงการนําเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาการให้บริการประชาชนให้เข้าถึงความยุติธรรมได้โดยสะดวก รวดเร็ว และเสมอภาค .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง