กรุงเทพฯ 18 มิ.ย.- กองทัพนักข่าวปักหลักรอการส่งตัว”ปุ๊กกี้และสามี”ให้ตำรวจปราบปรามยาเสพติดสอบสวนขยายผล หลังถูกจับกุมพร้อมยาเคหนักกว่า 5 กิโลกรัม และเวลา 15 นาฬิกาวันนี้ รอง ผบ.ตร.จะเปิดแถลงข่าว
บรรยากาศที่กองบัญชาการตำรวจปราบปราบยาเสพติด เต็มไปด้วยสื่อมวลชนจำนวนมากที่มารอรายงานข่าวการจับกุม นางสาวพริซซิลล่า จิวเมลรี่ หรือ ปุ้กกี้ อดีตนักร้องชื่อดังและ นายชลวิทย์ คีตะตระกูล อายุ 49 สามี ที่ถูกตำรวจปราบปราบยาเสพติดและเจ้าหน้าที่ ปปส. ร่วมกันจับกุมได้ ภายในบ้านพัก ย่านรามอินทรา พร้อมของกลาง ยาไอซ์จำนวน 98 กรัม ยาบ้า 8 เม็ด ยาอี 10 เม็ด เคตามีน 4 กรัม กัญชาแห้ง 40 กรัม และยังมีสารเคมีหลายชนิด พร้อมกับอุปกรณ์ที่เชื่อว่าใช้ผลิตยาเสพติด
โดยการจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นจากการขยายผลจับกุมนาย ฮัง เชง ยี (MR.HUNG CHENG YI ) สัญชาติไต้หวันที่ห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่งใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเตรียมลำเลียงยาเคตามีน น้ำหนักรวมกว่า 5 กิโลกรัมที่ซุกซ่อนใต้ที่เขี่ยบุหรี่ ที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ เตรียมส่งพัสดุ ออกนอกประเทศ
ขณะนี้ตัวปุ้กกี้ และสามี ยังไม่ถูกส่งตัวมาที่บช.ปส.โดยมีรายงานว่าอยู่ระหว่างสอบสวนขยายผล และจะนำตัวมาให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวในเวลา 15.00น.วันนี้
สำหรับปุ๊กกี้ เป็นภรรยา ที่ไม่ได้จดทะเบียนกับนายชลวิทย์ ผู้ต้องหา ที่2 และมีลูกด้วยกัน 1 คน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีญาติหรือเพื่อนๆ เดินทางมาที่ บชปส.แต่อย่างใด
ทั้งนี้ข้อมูลทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ พบว่า สามีของปุ๊กกี้ มีการติดต่อซื้อขายยาเค กับชาวต่างชาติ รวมทั้งจำหน่ายยาเสพติด ให้กับนักท่องเที่ยวตามสถานบันเทิง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลว่ายาเค ล็อตนี้มีต้นทางมาจากที่ใด รวมทั้งประสานไปยังทางการไต้หวัน เพื่อหาตัวนายทุนและผู้ต้องสงสัยที่เดินทางกลับไปไต้หวันไปแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับยาเค หรือ เคตามีน เป็นที่นิยมในหมู่นักเสพยาเสพติดและผู้ค้ายาเสพติด ชาวไต้หวัน เนื่องจากยาเค ที่จับได้มีคุณภาพดี สามารถนำไปผสมเพื่อเพิ่มปริมาณในการจำหน่าย และราคาถูกกว่ายาไอซ์ และที่สำคัญเป็นยาเสพติด ประเภท 2 มีอัตราโทษน้อยกว่ายาเสพติดประเภท 1 จึงเป็นที่นิยมของนักเสพยาเสพติด และผู้ค้าเสพติด .-สำนักข่าวไทย