นครราชสีมา 14 มิ.ย.- สำนักข่าวไทย อสมท รวบรวมกลโกงของกลุ่มคนร้ายที่ฉ้อโกงเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู หวังแจ้งเตือนให้รู้เท่าทันไม่ตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพในคราบพ่อค้าเร่ ซึ่งไม่ได้มาในรูปแบบการโกงตาชั่งเท่านั้น
การเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ไม่ได้มีเฉพาะการโกงตาชั่งเท่านั้น แต่ยังมีสารพัดเล่ห์เหลี่ยมที่ทำเอาเกษตรกรน้ำตาตก หลังลงทุนลงแรงขุนมากว่า 3 เดือน แต่ความหวังกลับพังทลายลงในพริบตา เกษตรกรบางรายถูกฉ้อโกงซ้ำซ้อนในคราวเดียวกัน นอกจากโกงตาชั่งน้ำหนักหายไปครึ่งต่อครึ่งแล้ว มิจฉาชีพยังจ่ายไม่ครบตามยอดเงินที่ฉ้อโกง เหยื่อหลายคนพูดตรงกันว่า กลุ่มคนร้ายมักยื่นเงินให้ แล้วรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันได้นับเงินว่าครบหรือไม่
บางครั้งแสร้งว่า เตรียมเงินมาไม่ครบ ขอจ่ายบางส่วนก่อน แล้วให้เกษตรกรขับรถตามไปที่ตู้เอทีเอ็ม หรือเขียงหมูตามตลาดสด แต่กลุ่มคนร้ายกลับขับรถหนีดื้อๆ ยิ่งไปกว่านั้น บางแก๊งไม่จ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว อาศัยเจ้าของเผลอ ขับรถบรรทุกหมูหลบหนี ไม่ต่างจากการลักทรัพย์ หรือวิ่งราวทรัพย์
หลายครั้ง อาจไม่ได้โกงตาชั่ง แต่โกงน้ำหนักกรง โดยตอนชั่งกรงเปล่าใช้กรงหนัก แต่ชั่งพร้อมหมูใช้กรงเบา เพื่อให้หักน้ำหนักออกได้มาก มิจฉาชีพจะพัฒนากลโกงอยู่เสมอ เมื่อถูกจับตาว่าใช้เท้าเหยียบหรือดันตาชั่ง ก็หาเทคนิคไม่ให้เจ้าของหมูมองเห็น เมื่อเกรงว่าเกษตรกรจะชวนเพื่อนบ้านมาช่วยดู ก็มักมาล่าช้า ให้ผิดแผนที่เตรียมรับมือไว้
ร้านขายอาหารสัตว์แห่งหนึ่งให้ข้อมูลว่า เคยมีมิจฉาชีพเข้ามาเสนอผลประโยชน์ โดยขอช่วยจับหมูของเกษตรกรที่เป็นลูกค้า หมู 5-6 ตัว ตอบแทน 2,000-5,000 บาท หากมี 15 ตัวขึ้นไป จ่ายทันที 10,000 บาท แต่ได้ปฏิเสธไป เพราะรู้ทันว่าเป็นแก๊งโกงตาชั่งที่จะสร้างความเสียหายให้ทั้งลูกค้าและทางร้าน
เมื่อเห็นเทคนิคแพรวพราวของกลุ่มคนร้าย ยากที่เกษตรกรจะรับมือ แม้จะสังเกตเห็นความผิดปกติ และทักท้วงก็ตาม เจ้าหน้าที่จึงแนะนำขายให้เฉพาะพ่อค้าที่คุ้นเคย ไว้ใจได้ เพราะหากปล่อยให้พ่อค้าเร่แปลกหน้าเข้าถึงตัวหมู ก็ยากที่เกษตรกรจะรอดจากการถูกฉ้อโกง.-สำนักข่าวไทย