“ธนาธร-พงศ์เทพ” พร้อมตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้น

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 14 มิ.ย.-รัฐศาสตร์ มธ. จัดเสวนา “ทิศทางการเมืองไทยภายใต้รัฐบาลใหม่”  โดยตัวแทนพรรคฝ่ายค้านเห็นพ้อง แม้หมด คสช. แต่ยังมีร่างทรงทำงานต่อ ระบุจะเดินหน้าตรวจสอบการทำงานอย่างเข้มข้น ด้านฝ่ายรัฐบาลขอทุกฝ่ายเปิดโอกาสให้ผู้เห็นต่างแสดงความคิดเห็น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงาน 70 ปี สถาปนา คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ “วิชาการเพื่อราษฎร์ ศาสตร์เพื่อประชาธิปไตย” โดยมีการจัดงานเสวนาในหัวข้อ “ทิศทางการเมืองไทยภายใต้รัฐบาลใหม่ การเมืองของความหวัง หรือ จุดเริ่มต้นของวิกฤตครั้งต่อไป” โดยมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  , นางพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรคเพื่อไทย , นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และ นายโกวิย์ พวงงาม สมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไทย ร่วมเสวนา

นายธนาธร กล่าวว่า สิ่งที่เราเป็นอยู่ไม่ใช่วิกฤติครั้งใหม่ แต่เป็นวิกฤติเดิมที่มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ 19 กันยายน 2549 เป็นวิกฤติเดียวกันตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ ซึ่งใจกลางปัญหา ไม่ได้อยู่ที่บุคลิกหน้าตา หรือท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่อยู่ที่อำนาจในประเทศนี้เป็นของใคร  20 ปีที่ผ่านมา เรามีรัฐธรรมนูญ 5 ฉบับ เป็นการบอกว่าเราตกลงกันไม่ได้ว่าอำนาจของประเทศอยู่ที่ใคร  มีฝั่งหนึ่งยืนยันหนักแน่นว่าอำนาจของประเทศนี้เป็นของประชาชน ขณะที่อีกฝั่งมีผู้สนับสนุนน้อยกว่า แต่เชื่อว่าอำนาจในประเทศนี้เป็นของอภิสิทธิชน เพียงไม่กี่คน แต่คนกลุ่มนี้มีอำนาจปืน มีรถถัง ถือตราชั่งทางกฎหมาย นี่คือปัญหาใจกลางของสังคมไทยที่ยังแก้ไม่ได้


“นี่คือการเข้าสู่เฟสใหม่ระหว่าง 2 ชุดความคิด สมรภูมิความคิดเป็นสมรภูมิเดิม แต่สมรภูมิทางการเมืองเปลี่ยนไป โดยไม่มีองค์กรที่ชื่อว่า คสช.จากการที่มีรัฐบาลใหม่ แต่ระบอบคสช.จะยังอยู่กับเรา และ 2 วันที่ผ่านมา มีการเคลื่อนตัวทางความคิดขนาดใหญ่ของสังคม จากอนุรักษนิยม มาฝั่งที่เชื่อว่าอำนาจเป็นของประชาชน เห็นได้จากพานไหว้ครู ซึ่งน่าเหลือเชื่อมากว่าการตื่นตัวทางสังคมและการเมือง ถูกปลุกขึ้นแล้ว โอกาสที่ตัดมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ ผมนึกไม่ออกเลยว่าฝ่ายที่เชื่อว่าอำนาจมาจากประชาชนจะแพ้ได้อย่างไร ทุกปีมีคนบรรลุนิติภาวะปีละ 700,000 คน ซึ่งพวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่า สิ่งที่เขาเห็นคืออะไร และได้แสดงออกมาแล้ว” นายธนาธร กล่าว

ด้าน นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เมื่อจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้วเสร็จ ม.44 จะหมดไป แม้ คสช.จะหมดไปแล้ว แต่ร่างทรงและวิญญาณของ คสช.ยังอยู่ และพรรคเพื่อไทย อนาคตใหม่ จะตรวจสอบร่างทรง คสช.อย่างเข้มข้น ที่ผ่านมาเรามีข้อสงสัยไปพึ่งองค์กรอิสระก็ไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ในสภาฯ ข้อสงสัยของประชาชนจะได้รับการเปิดเผย ผ่านการตั้งกระทู้ทุกสัปดาห์ 

“ความยุติธรรมไม่มี ความสามัคคีไม่เกิด ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดสองมาตรฐานทั้งในองค์กรอิสระและองค์กรตุลาการ ถ้ามีมาตรฐานเดียวรับรองว่าความขัดแย้งไม่เกิด อนาคตของสังคมไทย ภายใต้รัฐบาลผสม 19 พรรค แค่จัดทำนโยบายก็น่าเป็นห่วงแล้ว การทำงานต้องดูว่าจะมีเอกภาพหรือไม่” นายพงศ์เทพ กล่าว


ขณะที่นายโกวิทย์ กล่าวว่า การทำให้ประเทศเดินหน้า ต้องทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นได้ ซึ่งการเดินหน้าไปสู่ความหวังหรือวิกฤตินั้น ต้องพิจารณาในหลายปัจจัย โดยเฉพาะเสียงสนับสนุนแต่ละฝ่ายในสภาฯ และการยอมรับความเห็นที่แตกต่างกัน , หน้าตาของคณะรัฐมนตรี ตามบุคคลที่ถูกเสนอนั้น จะได้รับการยอมรับและเชื่อถือจากประชาชนหรือไม่ โดยเฉพาะฝีมือในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่เห็นประโยชน์พรรคหรือตัวบุคคล ในลักษณะที่หลายฝ่ายมองว่าคือการถอนทุนคืน นอกจากนั้นคือนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะเรียกศรัทธากับประชาชนได้หรือไม่ ส่วนตัวมองว่าทางออกของวิกฤติการเมือง คือ นักการเมืองต้องร่วมมือทำงานในสภา 

“พรรคพลังท้องถิ่นไทพร้อมสนับสนุนทุกฝ่าย ทุกพรรค ต่อการผลักดันการแก้ปัญหา อาทิ กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ลดการผูกขาดอำนาจรวมศูนย์ เพื่อทำให้การเมืองเป็นความหวัง แต่หากการเมืองจะเป็นวิกฤติ คือ ไม่สามารถผลักดันการแกัปัญหาเชิงนโยบายได้ ส่วนจะมีผลกระทบต่อความรู้สึกประชาชนหรือไม่ ต้องพิจารณาผลระยะยาว อยากบอกนายกฯ เหมือนกันว่าต้องมีเรื่องกระจายอำนาจเขียนไว้ในนโยบายกระจายอำนาจร่วมด้วย และต้องให้ประชาชนมีโอกาสตรวจสอบรัฐบาลได้ด้วย เพื่อให้เป็นนายกฯ ในระบอบประชาธิปไตย วางท่าทีที่ตรงกับความเป็นประชาธิปไตย” นายโกวิทย์ กล่าว

นายนายวิเชียร กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่เกิดขั้นมาได้เพียง 6-7 เดือนก่อนการเลือกตั้ง โดยมีความมุ่งหมายที่เกี่ยวเนื่องกับทิศทางการเมือง ประเทศไทยเป็นประเทศที่แปลก ทั้งที่มีประชาธิปไตยตั้งแต่ปี 2475 นำมาสู่การเลือกตั้ง การปฏิวัติ วนเวียนอยู่เช่นนี้ ที่สำคัญคือปี 2516 หลังมีการปฏิวัติ เรามีความรู้สึกว่า มันคือความหวังอันรุ่งโรจน์ และเป็นความเฟื่องฟูของประชาธิปไตย แต่เวลานี้หลังจากที่หยุดไป 5 ปีหลังจากการเลือกตั้ง กลับมีความรู้สึกเฟื่องฟูอีกครั้ง ขณะที่รัฐธรรมนูญปี 2560 นั้นไม่ได้ให้สิทธิสภาฯ หรือประชาชนมีอำนาจเหมือนปี 2540 แต่มีทั้งสภาฯ และองค์กรอิสระ ที่มาทำหน้าที่ตรงนี้ เป็นลูกผสมกับระบอบประธานาธิบดีไปในตัว

นายวิเชียร กล่าวอีกว่า ผลการเลือกตั้งออกมา พรรคพลังประชารัฐได้ 9 ล้านกว่าเสียง มีเพียง 5 พรรคเท่านั้นที่เกิน 1 ล้านเสียง 9 พรรคเกินแสนคะแนน แต่ไม่ถึงล้านคะแนน และมี 62 พรรคที่ได้คะแนนในการเลือกตั้ง แต่บรรยากาศการเมืองที่น่ากลัวเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องผลการเลือกตั้ง คะแนนปริ่มน้ำ เท่ากับการโจมตีกล่าวหา แต่บรรยาการทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งนี้ดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะพูดใส่ร้ายกันน้อยที่สุด หลังจากนี้เป็นเรื่องของการต่อสู้กันในสภาฯ และคิดว่าสิ่งที่จะดีต่อระบบประชาธิปไตยคือการเปิดโอกาสให้ผู้ที่คิดต่างได้แสดงความคิดเห็น เรื่องความขัดแย้งไม่ได้มาจากแค่เรื่องการเมืองเท่านั้น แต่มาจากชีวิตและสังคมของคนไทย ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาไม่สามารถลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ดี หากเรายังมีนายทุนที่เข้าถึงทรัพยากรได้มากกว่า การที่เกิดมาไม่ได้มีทุนเหมือนคนอื่น ย่อมก่อให้เกิดความคับแค้น และความเหลื่อมล้ำ ซึ่งสิ่งนี้คือต้นเหตุแห่งปัญหาที่นำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]