เปิดรับฟังความเห็นระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

รร.รามาการ์เดนส์ 19 ส.ค.-รมว.สาธารณสุข เปิดประชุมรับฟังความเห็นหลักประกันสุขภาพประจำปี 59 ย้ำชัดไม่มีล้มระบบหลักประกันสุขภาพ


 

นพ.ปิยะสกล  สกลสัตยาทร  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  เป็นประธานเปิดการประชุม“รับฟังความเห็นระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปี 2559” เน้นความร่วมมือทุกภาคส่วน สู่การพัฒนา “ประชาชนสุขภาพดี ระบบสุขภาพยั่งยืน” ใช้กลยุทธ์สร้างความเป็นเลิศ 4 ด้าน พร้อมย้ำชัด ไม่มีล้มระบบหลักประกันสุขภาพ ขณะที่บรรยากาศเวทีรับฟังความเห็นคึกคัก ทั้งตัวแทนผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ อปท. นักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ และภาคประชาชนเข้าร่วมกว่า 450 คน


 

โดยวัตถุประสงค์สำคัญในการรวบรวมความเห็นเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพมาตรฐานสาธารณสุข และพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยมี นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา รักษาการเลขาธิการ สปสช. พร้อมด้วยตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตัวแทนผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ อนุกรรมการระดับเขต และภาคประชาชน

 


 

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เริ่มต้นขึ้นในปี 2545 หรือ15 ปีมาแล้วและเมื่อมาถึงจุดนี้คงต้องดูสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงปัจจุบัน โดยเหลียวหลังศึกษาสิ่งที่ผ่านมา เพื่อมองอนาคตและมุ่งไปข้างหน้า ซึ่งเป้าหมายทั้งกระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. คือ “ประชาชนสุขภาพดี ระบบสุขภาพยั่งยืน” และไม่เคยมีคำกล่าวล้มระบบหลักประกันสุขภาพ ไม่มีการยึดระบบหลักประกันสุขภาพเพราะเป็นระบบของประชาชนไม่มีใครมายึดหรือล้มได้หากเข้าใจร่วมกัน ขณะที่คำว่า “ก้าวไกลไปด้วยกัน” คือสิ่งที่เราต้องทำร่วมกันอย่างวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้ซื้อบริการ หรือผู้ให้บริการ ซึ่งต่างทำหน้าที่เพื่อความสมดุลนำไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อดูแลสุขภาพประชาชน

 

ขณะนี้ประเทศไทยมีนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ในแง่ของระบบสุขภาพ คือ การดำเนินการระบบสุขภาพบนพื้นฐานของการสร้างคุณค่า ซึ่งปัจจุบันค่าใช้จ่ายสุขภาพประเทศอาจสูงถึง 4 แสนล้านบาท และนับวันยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ดังนั้นทำอย่างไรให้เกิดการดูแลสุขภาพอย่างมีคุณค่าและทำประโยชน์โดยเฉพาะให้กับประชาชนได้มากที่สุด แต่ใช้ค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีด้านการแพทย์รุดหน้าจนตามไม่ทัน ขณะที่ประเทศไทยถือเป็นกลุ่มประเทศรายได้ปานกลาง ดังนั้นหากทุกคนช่วยกัน เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่า และทำให้ค่าใช้จ่ายสุขภาพจำนวน 4 แสนล้านบาทเพียงพอได้ ซึ่งการรับฟังความคิดเห็นในวันนี้ เป็นเวทีหนึ่งที่จะทำให้ทุกคนหันหน้าเข้าหากันและพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์ได้

 

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า จากนโยบายที่ชัดเจนทั้งกระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. คือ ประชาชนสุขภาพดี ระบบสุขภาพยั่งยืน ถือเป็นข้อความสำคัญ โดยมีกลยุทธ์ของการนำไปสู่ความสำเร็จ คือการพัฒนาความเป็นเลิศระบบสุขภาพใน 4 ด้าน คือ1.ความเป็นเลิศด้านการป้องกันและสร้างเสริมสุขภาพ ที่เป็นหัวใจสำคัญระบบสุขภาพของประเทศ โดยเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตทุกลุ่มวัย ทั้งด้านอาหาร การจัดการสิ่งแวดล้อม การพัฒนาคุณภาพสถานบริการทั้งหมด รวมถึงทำให้ประชาชนเกิดความตระหนักในการดูแลสุขภาพตนเอง

 

2.ความเป็นเลิศด้านการรักษา แม้ว่าจะมีการป้องกันและสร้างเสริมสุขภาพที่ดี แต่ในที่สุดย่อมต้องเกิดความเจ็บป่วย จึงต้องมีระบบบริการรักษาพยาบาลเพื่อรองรับ โดยต้องมีการพัฒนาและสร้างภาคีเครือข่ายการบริการที่ชัดเจน โดยจับมือกับหน่วยบริการทุกสังกัดเพื่อไม่ให้เกิดอุปสรรคต่อการเข้าถึงการรักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน ที่ต้องเดินไปด้วยกันที่เรียกว่า “ประชารัฐ”

 

  1. ความเป็นเลิศด้านบุคลากรสุขภาพ ซึ่งต้องเดินควบคู่กับความเป็นเลิศด้านการรักษาพยาบาล ที่ต้องมีแผนการพัฒนาและผลิตที่ชัดเจน เพื่อให้เพียงพอต่อการบริการประชาชน โดยเฉพาะระบบแพทย์ปฐมภูมิซึ่งถูกกำหนดในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อย่างชัดเจน และที่ผ่านมาได้มีนโยบายการเพิ่มแพทย์เวชศาสตร์ครอบครังลงไปถึงระดับตำบล โดยมีเป้าหมาย 1 ต่อประชากร 10,000 คน

 

  1. ความเป็นเลิศด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ที่ผ่านมามีความพยายามใช้ราคากลางเป็นเกณฑ์ในการจ่ายค่ารักษาพยาบาล (Fee schedule) จนถึงวันนี้เริ่มมองเห็นความเป็นไปได้ ซึ่งหากมีความร่วมมือจากโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนทั้งหมด จะทำให้เป็นระบบที่ดีและมีประสิทธิภาพอย่างมากในการดูแลประชาชนในช่วงวิกฤตฉุกเฉิน

 

“การดำเนินการเพื่อพัฒนาความเป็นเลิศทั้ง 4 ด้านนี้ จะเดินหน้าไปได้ ต้องมีการบริหารจัดการที่ดี มีธรรมาภิบาล และโปร่งใสตรวจสอบได้ ดังนั้นจึงหวังว่าการรับฟังความเห็นในปีนี้จะนำระบบสุขภาพไปสู่เป้าหมายได้ และหากต่างฝ่ายเปิดใจพูดคุยกัน เชื่อว่าไม่มีทางที่ระบบสุขภาพของประเทศจะถึงทางตัน” รมว.สาธารณสุข กล่าว

 

ด้าน นพ.จรัล ตฤณวุฒิพงษ์ ประธานอนุกรรมการสื่อสารสังคมและรับฟังความคิดเห็นจากผู้ให้และผู้รับบริการ สปสช. กล่าวว่า การประชุมรับฟังความคิดเห็นทั่วไปจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการระดับประเทศ มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพมาตรฐานสาธารณสุข การปรับหลักเกณฑ์กำหนดค่าใช้จ่ายหน่วยบริการ และการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งกระบวนการรับฟังความเห็นปี 2559 นี้ ได้ดำเนินมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม 2559 ครอบคลุมทั่วประเทศทั้ง 13 เขต มีผู้แสดงความเห็นทั้งสิ้น 8,929 คน ในการประชุมวันนี้จะเป็นการเปิดรับฟังความเห็นในระดับประเทศอีกครั้ง และจะมีการสรุปรวมรวมความเห็นทั้งหมด เพื่อนำเสนอต่อ บอร์ด สปสช. ในการปรับปรุงระบบบต่อไป

 

สำหรับการรับฟังความเห็นต่อระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า แบ่งเป็น 7 ด้าน ได้แก่ 1.ประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุขที่จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิต 2.มาตรฐานบริการสาธารณสุข 3.การบริหารจัดการสำนักงาน 4.การบริหารจัดการกองทุนฯ 5.การบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ 6.การมีส่วนร่วมของประชาชน และ 7.การรับรู้และคุ้มครองสิทธิ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]