นักลงทุนจีนพบนายกฯ เชื่อมั่นการเมืองไทย

ทำเนียบฯ 10 มิ.ย. – นักลงทุนจีนพบนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นการเมืองไทย หวังเดินหน้าลงทุนอีอีซี
ต่างชาติเริ่มทยอยหารือหาช่องทางเข้ามาลงทุนในประเทศ มองไทยเป็นศูนย์กลางลงทุนสำคัญอาเซียน
ขณะที่ “สมคิด” แนะคัดเลือกคนดี คนเก่ง หนุ่มสาวเข้ามาเป็น ครม.บริหารประเทศ


นายลี้ ชี เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้ง
เข้าหารือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ระหว่างเดินทางเยือนประเทศไทย
เพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างไทย-จีน การเดินทางมาครั้งนี้ได้นำกลุ่มนักธุรกิจชั้นนำจากมณฑลกวางตุ้ง
สาธารณรัฐประชาชนจีนเกือบ 200 คน เข้ามาหาช่องทางการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(อีอีซี) 
และหวังส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทย-จีน เชื่อมโยงนโยบาย
Belt and Road Initiative (BRI) เชื่อมกับภูมิภาค GBA (กวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า)
กับอาเซียน และอีอีซีของไทย  มณฑลกวางตุ้งเป็นเมืองการค้าและการส่งออกอันดับ
1 ของจีน มีการพัฒนารองรับอุตสาหกรรมสมัยใหม่ 
การใช้เทคโนโลยีชั้นสูงด้านวิทยาศาสตร์ 
โรงงานอุตสาหกรรมใช้หุ่นยนต์ผลิต 
การใช้ระบบไอที สื่อสารผ่านระบบ 5 จี เน้นการลงทุนวิจัยและพัฒนา (
R&D)
สูงที่สุดในจีน



นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า เมื่อนักลงทุนจีนมีความเชื่อมั่นต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของไทย
ขณะที่เอกชนของจีนเดินทางมาครั้งนี้นับว่าเป็นรายใหญ่เป็นดาวรุ่งของโลกจำนวนมาก   แสดงให้เห็นความสำคัญของไทยในสายตาต่างชาติโดยเฉพาะจีน
ซึ่งไม่เคยสอบถามเกี่ยวกับการเมืองของไทย
เพราะเป็นพันธมิตรอันดีต่อกันมายาวนาน 
และมีความเชื่อมั่นต่อการเมืองไทย นับเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทย
รวมถึงประเทศอื่น เพราะเร็ว ๆ นี้ยังจะมีต่างชาติเข้ามาหารือเพิ่มเติม
ทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และญี่ปุ่นเตรียมเดินทางเข้ามาเจรจาเดินหน้าการลงทุนในประเทศเพิ่มเติม
หลังจากนี้ทัพนักลงทุนต่างชาติจะทยอยเข้ามาติดต่อการลงทุนสูงมาก



ขณะที่การจัดครั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ เป็นหน้าที่โดยตรงของ พล.อ.ประยุทธ์
ในการเลือกบุคคลเข้าดำรงตำแหน่ง จึงอยากให้แต่ละพรรคร่วมรัฐบาลส่งบุคคลที่มีความรู้
ความสามารถ คนหนุ่มสาวไฟแรง
เพื่อเลือกบุคคลที่ดีที่สุดเข้ามาเป็นรัฐมนตรีร่วมทำงาน  ผู้ใหญ่เมื่ออายุมากควรเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา
และเมื่อได้นายกรัฐมนตรีคนเดิมสะท้อนความต่อเนื่องเชิงนโยบายโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ขณะนี้ทั้งจีน
ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาต่างหันมาลงทุนในประเทศไทย จึงต้องแสดงให้เห็นว่าไทยมีศักยภาพมีเอกภาพ

เดือนหน้าผมอายุย่างเข้า 67 ปีแล้ว และยังมีปัญหาสุขภาพ ไม่ได้หวงตำแหน่งอะไร
แต่หากต้องเข้าเป็นทีมเศรษฐกิจร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ ต้องดูว่าจะทำประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง
ไม่มีโควต้า ไม่ได้รับใช้ใคร มาทำเพื่อบ้านเมือง และการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์
เพราะมองว่าท่านดูแลประเทศไทยได้ และประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่จุดที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ
จึงอยากให้ทุกฝ่ายสามัคคีกัน และทุกพรรคต่างหวังดีต่อประเทศ
มองว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
นายสมคิด กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ