เชียงใหม่ 3 มิ.ย.-ชาวเชียงใหม่แห่เก็บ “แมงมัน” ที่ออกจากรูใต้ดินกันอย่างคึกคัก เก็บกันตั้งแต่เย็นจนมืดค่ำ เพราะจะเอาไปปรุงก็ได้หลายเมนู จะขายก็ได้ราคาดีกิโลกรัมละ 2,000 บาท มีให้รับประทานแค่เพียงปีละครั้ง
ชาวบ้านเชียงใหม่ พากันไปเก็บแมงมัน ที่ออกจากรูใต้ดิน เพื่อออกมาผสมพันธุ์ บริเวณป่าละเมาะและใต้ต้นไม้ ภายในศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ และบริเวณป่าใกล้บ้าน กันอย่างคึกคัก หลังจากมีฝนตกหนักและแดดออก บางคนเตรียมอุปกรณ์ไปนั่งรอ เก็บตั้งแต่ช่วงเย็น ไปจนถึงกลางคืน เตรียมทั้งเทียนไข และไฟฉายมาพร้อม แต่ละตัว ก็จะไต่ออกจากรูทีละตัว ชาวบ้านบางราย พบมีจำนวนหลายรู ก็จะโทรศัพท์เรียกญาติพี่น้อง ภรรยาหรือสามี และลูกหลานมาช่วยนั่งเก็บ เพื่อนำไปปรุงอาหารรับประทาน ได้ทั้งเมนูน้ำพริก หรือคั่วเกลือรับประทาน รสชาติเค็มมันๆ หรือหากนำไปขาย ราคากิโลกรัมละ 2,000 บาท หากแบ่งขาย ขีดละ 250 บาท เป็นอาหารตามฤดูกาล ที่แพงมากๆ 1 ปี มีให้รับประทาน แค่ครั้งเดียว เหตุที่ราคาแพง เพราะหายาก และเวลาเก็บ ลำบากมากๆ หากถูกแม่แมงมันที่ตัวคล้ายมดกัด จะแสบๆคันๆ และยังต้องใช้เวลานั่งเก็บนานหลายชั่วโมง ทำให้ชาวบ้าน ที่พาครอบครัว มาเก็บหลายคน เมื่อเก็บรวมกันได้จำนวนมาก ก็จะนำไปขาย ถือเป็นเมนูยอดนิยม ของชาวบ้านภาคเหนือ ที่นิยมรับประทาน.-สำนักข่าวไทย
ส่วนชาวบ้านหลายพื้นที่ของ จ.น่าน ออกจับแมงมันกันอย่างคึกคักหลังฝนตก เพราะ 1 ปี จะมีครั้งเดียว ที่แมงมันออกจากรูใต้ดินตามธรรมชาติ มาผสมพันธุ์เป็นจำนวนมาก โดยชาวบ้านจะไปซุ่มรอตามจุดต่างๆ เช่น ริมถนน ตามพุ่มไม้ ริมแม่น้ำ หรือแหล่งที่เคยเป็นผืนนาเก่า เฝ้ารอแมงมันออกจากรู บางรายก็ใช้มือจับใส่ขวด บางรายใช้ไซครอบรูมันไว้ นำหลอดไฟฟ้า หรือเทียนไขไปส่องให้แสงสว่าง แล้วเก็บแมงมันมาปรุงอาหารสารพัดเมนู ทั้งนำไปทอด คั่วกับเกลือ หรือตำน้ำพริก จิ้มกินกับข้าวเหนียวร้อนๆ ถือเป็นสุดยอดเมนู อาหารภาคเหนือ ซึ่งหารับประทานได้ยาก เพราะใน 1 ปี จะได้ลิ้มรสเพียงครั้งเดียว โดยรสชาติของแมงมันจะโดดเด่น มีความหอมมันไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังขายต่อให้พ่อค้าแม่ค้า ในราคาขีดละ 200 บาท หรือ กิโลกรัมละ 2,000 บาท เลยทีเดียว
ส่วนแมงมันแดง หรือแมงมันตัวผู้ ตัวจะเป็นสีแดงส้ม ยาวประมาณครึ่งนิ้ว รับประทานได้เช่นกัน แต่ไม่เป็นที่นิยม ชาวบ้านนำไปเป็นอาหารไก่แทน.-สำนักข่าวไทย