กทม.เดินหน้าพัฒนาระบบระบายน้ำในคลองสายหลักย่านฝั่งธนบุรี แก้ปัญหาน้ำท่วมขัง

กรุงเทพฯ 1มิ.ย.62.-กทม.เดินหน้าพัฒนาระบบระบายน้ำในคลองสายหลักย่านฝั่งธนบุรี ปรับปรุงถนนพระราม 2 ซอย 82 พร้อมทดสอบระบบสถานีสูบน้ำคลองระหาญแห่งใหม่ แก้ปัญหาน้ำท่วมขังและน้ำทะเลหนุนพื้นที่ฝั่งธน


นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำและการจราจรในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ประกอบด้วย โครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำด้านใต้คลองภาษีเจริญถึงคลองสนามชัย (ก่อสร้างสถานีสูบน้ำและเขื่อนค.ส.ล.คลองระหาญ) เขตบางขุนเทียน และโครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 ซอย 82 เขตบางบอน โดยมีคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา สำนักงานเขตในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่กดปุ่มเปิดเดินเครื่องทดสอบระบบสถานีสูบน้ำคลองระหาญแห่งใหม่ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำดำเนินโครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำด้านใต้คลองภาษีเจริญถึงคลองสนามชัย (ก่อสร้างสถานีสูบน้ำและเขื่อนค.ส.ล.คลองระหาญ) ประกอบด้วย งานปรับปรุงสถานีสูบน้ำคลองระหาญ (สถานีสูบน้ำเดิม) ซ.บางกระดี่ 32 และงานก่อสร้างสถานีสูบน้ำคลองระหาญ (สถานีแห่งใหม่ด้านปากคลองระหาญบรรจบคลองสนามชัย) ซ.บางกระดี่ 34 หมู่บ้านสิรินดา ประกอบด้วย การก่อสร้างสถานีสูบน้ำคลองระหาญ สร้างอาคารควบคุมและที่พักเจ้าหน้าที่ งานโครงสร้างป้องกันดินพังและทำนบกั้นน้ำชั่วคราว ติดตั้งประตูระบายน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 3 ลบ.ม./วินาที จำนวน 3 เครื่อง ติดตั้งเครื่องเก็บขยะอัตโนมัติ ติดตั้งบานปิดทางเดียว (Flap Gate) ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าพร้อมมิเตอร์ ติดตั้งระบบควบคุมเครื่องสูบน้ำ ติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และติดตั้งตู้ควบคุมเครน ขณะนี้ผลงานที่ทำได้ 66.50% ที่ผ่านมาผู้รับจ้างได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและอุปกรณ์บริเวณสถานีสูบน้ำคลองระหาญ และปักเสาพาดสายพร้อมติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูง 


ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำติดตามโครงการอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งกำชับผู้รับจ้างให้เร่งดำเนินการติดตั้งมิเตอร์พร้อมเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าถาวร เพื่อให้ระบบระบายน้ำสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ  โดยวันนี้ผู้รับจ้างได้ทดลองเปิดเดินเครื่องทดสอบระบบสถานีสูบน้ำคลองระหาญแห่งใหม่ ซึ่งระบบระบายน้ำดังกล่าวสามารถใช้งานได้แล้ว สำหรับงานก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล. บริเวณคลองระหาญ ความยาวรวมทั้งสิ้น 8,200 ม. เป็นแนวเขื่อนเดิม 900 ม. ผู้รับจ้างต้องก่อสร้าง 7,300 ม. อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง 6,815 ม. ติดปัญหาอุปสรรค 535 ม. ผลงานที่ทำได้ 72.25% อย่างไรก็ตามในส่วนของการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.คลองระหาญเกิดความล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาผู้บุกรุกคลองระหาญ ได้แก่ จุดที่ 1 คลองระหาญช่วงซอยมิตรสัมพันธ์ มีแนวถนนที่รุกล้ำคลองสาธารณะ ความยาว 200 ม. สำนักการระบายน้ำได้แก้ไขแบบตัดลดปริมาณงาน จุดที่ 2 คลองระหาญช่วงถนนพระราม 2 ถึงซอย 83 แนวที่เจ้าของดินไม่ยินยอมให้ก่อสร้าง ความยาว 100 ม. อยู่ระหว่างดำเนินการตาม ปว.44 และแก้ไขแบบตัดลดปริมาณงาน จุดที่ 3 คลองระหาญช่วงถนนพระราม 2 แนวอาคารรุกล้ำคลองสาธารณะ จำนวน 10 หลัง ความยาว 185 ม. ซึ่งอาคารรุกล้ำ 5 หลัง สำนักงานเขตบางขุนเทียนได้ติดประกาศ ปว.44 แล้ว และอาคารรุกล้ำบางส่วน 5 หลัง ใช้อำนาจปกครองท้องถิ่นแจ้งให้รื้อถอนภายใน 30 วัน และแจ้งความดำเนินคดีแล้ว รอผลดำเนินการจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จุดที่ 4 ก่อสร้างพื้นดาดท้องคลองใต้สะพานถนนพระราม 2 ที่ผ่านมาผู้รับจ้างได้เข้าดำเนินการขุดลอกคลองระหาญ เพื่อก่อสร้างพื้นดาดท้องคลอง ความกว้าง 18 ม ความยาว 120 ม. ความลึก -2 ม.รทก. ขณะนี้ดำเนินการได้แล้วความยาว 32 ม. ผลงานที่ทำได้ 49.85% ซึ่งผู้รับจ้างยืนยันว่าการก่อสร้างดาดท้องคลองจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.62 เมื่อโครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำด้านใต้คลองภาษีเจริญถึงคลองสนามชัย (ก่อสร้างสถานีสูบน้ำและเขื่อนค.ส.ล.คลองระหาญ) แล้วเสร็จ จะสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ฝั่งธนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง ปรับปรุงสถานีสูบน้ำเชื่อมต่อระบบคลองผันน้ำลงแก้มลิงคลองมหาชัย-คลองสนามชัย “ในพื้นที่ฝั่งธนบุรีสำนักการระบายน้ำจะดูแลรับผิดชอบระบบระบายน้ำครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 450 ตร.กม. มีสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำ 171 แห่ง ระบบระบายน้ำส่วนใหญ่จะเป็นระบบคลอง ความยาวรวมทั้งหมด 1,013 กม. โดยจะมีคลองสายหลักในการระบายน้ำเริ่มจากคลองทางด้านเหนือลงมา ได้แก่ คลองมหาสวัสดิ์ คลองบางกอกน้อย คลองทวีวัฒนา คลองภาษีเจริญ คลองสนามชัย คลองพระยาราชมนตรี คลองบางบอน คลองหมื่นแช่ม คลองขุนราชพินิจใจ และคลองระหาญ โดยน้ำในคลองทั้งหมดจะไหลมารวมกันในพื้นที่กักเก็บน้ำ ซึ่งเป็นแก้มลิงในโครงการพระราชดำริคลองมหาชัย-คลองสนามชัย ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถรองรับปริมาณน้ำได้ 6 ล้านลบ.ม. ก่อนจะระบายน้ำที่เก็บไว้ลงสู่อ่าวไทย 

ที่ผ่านมาสำนักการระบายน้ำได้ดำเนินการพัฒนาระบบระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งธนบุรีหลายโครงการ เช่น โครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันน้ำทะเลหนุนของสถานีสูบน้ำคลองสนามชัย กำลังสูบรวม 45 ลบ.ม./วินาที โครงการปรับปรุงสถานีสูบน้ำคลองพระยาราชมนตรี กำลังสูบรวม 51 ลบ.ม./วินาที งานก่อสร้างสถานีสูบน้ำคลองระหาญแห่งใหม่ด้านปากคลองระหาญเชื่อมต่อคลองสนามชัย กำลังสูบ 9 ลบ.ม./วินาที โครงการพัฒนาแก้มลิงบึงรางเข้ และในอนาคตยังมีโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองทวีวัฒนา อย่างไรก็ตามเมื่อโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งธนบุรีแล้วเสร็จทั้งหมด จะเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำด้วยระบบคลอง เปิดทางน้ำไหลให้เชื่อมต่อถึงกัน เป็นการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ฝน เพิ่มขีดความสามารถในการระบายน้ำ ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำทะเลหนุน และน้ำท่วมขังในพื้นที่ฝั่งธนบุรีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” ขยายถนนพระราม 2 ซอย 82 รองรับผู้มาใช้บริการสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ 7 รอบ (บางบอน)


นอกจากนี้สำนักการโยธาได้ดำเนินโครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 ซอย 82 เขตบางบอน เริ่มต้นสัญญาวันที่ 20 พ.ย.61 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 12 พ.ค.63 ระยะเวลาดำเนินการ 540 วัน โดยขยายผิวจราจร จาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร เขตทางกว้างประมาณ 20 ม. โดยการปรับปรุงเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) ความหนา 0.25 ม. ความกว้าง 12.00-13.00 ม. ความยาว 1,850 ม. พร้อมปรับปรุงทางแยก ทางเท้า ระบบระบายน้ำ และระบบไฟฟ้าแสงสว่าง เพื่อความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในการเดินทางสัญจร และผู้ที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว ตลอดจนรองรับผู้มาใช้บริการสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ 7 รอบ (บางบอน) ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา และห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ บางบอน อีกทั้งรองรับปริมาณการจราจรบริเวณถนนพระราม 2 ซอย 82 เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายถนนในซอยและถนนสายหลัก เช่น ถนนพระราม 2 ซอยรางโพธิ์ ถนนเอกชัย ขณะนี้ผลงานที่ทำได้ 12.51% ประกอบด้วย งานเตรียมพื้นที่ก่อสร้างฝั่งซ้ายและฝั่งขวาทางโซน 1 และโซน 2 งานวางบ่อพักและงานวางท่อระบายน้ำค.ส.ล. งานสร้างกำแพงกันดิน ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้สำนักการโยธาพิจารณาหาแนวทางในการปรับรูปแบบถนน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และเกิดประสิทธิภาพในการใช้งาน พร้อมทั้งประสานหน่วยงานสาธารณูปโภคในการรื้อย้ายเสาไฟฟ้า นอกจากนี้ได้ให้คำแนะนำแก่ผู้รับจ้างในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่ส่งผลกระทบต่อโครงการ โดยให้แบ่งการทำงานออกเป็น 3 โซน เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนงานที่วางไว้ รวมถึงกำชับผู้รับจ้างให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันฝุ่นและความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายหรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้พักอาศัยในบริเวณดังกล่าว เมื่อโครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 ซอย 82 แล้วเสร็จ จะอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้ที่เดินทางมาใช้บริการสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ 7 รอบ (บางบอน) สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณถนนพระราม 2 ซอย 82 อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจราจร ซึ่งเป็นเส้นทางลัดเชื่อมต่อถนนเอกชัย ซอย 109 ซอย 131 และถนนในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย