กทม.เดินหน้าพัฒนาระบบระบายน้ำในคลองสายหลักย่านฝั่งธนบุรี แก้ปัญหาน้ำท่วมขัง

กรุงเทพฯ 1มิ.ย.62.-กทม.เดินหน้าพัฒนาระบบระบายน้ำในคลองสายหลักย่านฝั่งธนบุรี ปรับปรุงถนนพระราม 2 ซอย 82 พร้อมทดสอบระบบสถานีสูบน้ำคลองระหาญแห่งใหม่ แก้ปัญหาน้ำท่วมขังและน้ำทะเลหนุนพื้นที่ฝั่งธน


นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำและการจราจรในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ประกอบด้วย โครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำด้านใต้คลองภาษีเจริญถึงคลองสนามชัย (ก่อสร้างสถานีสูบน้ำและเขื่อนค.ส.ล.คลองระหาญ) เขตบางขุนเทียน และโครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 ซอย 82 เขตบางบอน โดยมีคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา สำนักงานเขตในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่กดปุ่มเปิดเดินเครื่องทดสอบระบบสถานีสูบน้ำคลองระหาญแห่งใหม่ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำดำเนินโครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำด้านใต้คลองภาษีเจริญถึงคลองสนามชัย (ก่อสร้างสถานีสูบน้ำและเขื่อนค.ส.ล.คลองระหาญ) ประกอบด้วย งานปรับปรุงสถานีสูบน้ำคลองระหาญ (สถานีสูบน้ำเดิม) ซ.บางกระดี่ 32 และงานก่อสร้างสถานีสูบน้ำคลองระหาญ (สถานีแห่งใหม่ด้านปากคลองระหาญบรรจบคลองสนามชัย) ซ.บางกระดี่ 34 หมู่บ้านสิรินดา ประกอบด้วย การก่อสร้างสถานีสูบน้ำคลองระหาญ สร้างอาคารควบคุมและที่พักเจ้าหน้าที่ งานโครงสร้างป้องกันดินพังและทำนบกั้นน้ำชั่วคราว ติดตั้งประตูระบายน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 3 ลบ.ม./วินาที จำนวน 3 เครื่อง ติดตั้งเครื่องเก็บขยะอัตโนมัติ ติดตั้งบานปิดทางเดียว (Flap Gate) ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าพร้อมมิเตอร์ ติดตั้งระบบควบคุมเครื่องสูบน้ำ ติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และติดตั้งตู้ควบคุมเครน ขณะนี้ผลงานที่ทำได้ 66.50% ที่ผ่านมาผู้รับจ้างได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและอุปกรณ์บริเวณสถานีสูบน้ำคลองระหาญ และปักเสาพาดสายพร้อมติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูง 


ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำติดตามโครงการอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งกำชับผู้รับจ้างให้เร่งดำเนินการติดตั้งมิเตอร์พร้อมเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าถาวร เพื่อให้ระบบระบายน้ำสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ  โดยวันนี้ผู้รับจ้างได้ทดลองเปิดเดินเครื่องทดสอบระบบสถานีสูบน้ำคลองระหาญแห่งใหม่ ซึ่งระบบระบายน้ำดังกล่าวสามารถใช้งานได้แล้ว สำหรับงานก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล. บริเวณคลองระหาญ ความยาวรวมทั้งสิ้น 8,200 ม. เป็นแนวเขื่อนเดิม 900 ม. ผู้รับจ้างต้องก่อสร้าง 7,300 ม. อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง 6,815 ม. ติดปัญหาอุปสรรค 535 ม. ผลงานที่ทำได้ 72.25% อย่างไรก็ตามในส่วนของการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.คลองระหาญเกิดความล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาผู้บุกรุกคลองระหาญ ได้แก่ จุดที่ 1 คลองระหาญช่วงซอยมิตรสัมพันธ์ มีแนวถนนที่รุกล้ำคลองสาธารณะ ความยาว 200 ม. สำนักการระบายน้ำได้แก้ไขแบบตัดลดปริมาณงาน จุดที่ 2 คลองระหาญช่วงถนนพระราม 2 ถึงซอย 83 แนวที่เจ้าของดินไม่ยินยอมให้ก่อสร้าง ความยาว 100 ม. อยู่ระหว่างดำเนินการตาม ปว.44 และแก้ไขแบบตัดลดปริมาณงาน จุดที่ 3 คลองระหาญช่วงถนนพระราม 2 แนวอาคารรุกล้ำคลองสาธารณะ จำนวน 10 หลัง ความยาว 185 ม. ซึ่งอาคารรุกล้ำ 5 หลัง สำนักงานเขตบางขุนเทียนได้ติดประกาศ ปว.44 แล้ว และอาคารรุกล้ำบางส่วน 5 หลัง ใช้อำนาจปกครองท้องถิ่นแจ้งให้รื้อถอนภายใน 30 วัน และแจ้งความดำเนินคดีแล้ว รอผลดำเนินการจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จุดที่ 4 ก่อสร้างพื้นดาดท้องคลองใต้สะพานถนนพระราม 2 ที่ผ่านมาผู้รับจ้างได้เข้าดำเนินการขุดลอกคลองระหาญ เพื่อก่อสร้างพื้นดาดท้องคลอง ความกว้าง 18 ม ความยาว 120 ม. ความลึก -2 ม.รทก. ขณะนี้ดำเนินการได้แล้วความยาว 32 ม. ผลงานที่ทำได้ 49.85% ซึ่งผู้รับจ้างยืนยันว่าการก่อสร้างดาดท้องคลองจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.62 เมื่อโครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำด้านใต้คลองภาษีเจริญถึงคลองสนามชัย (ก่อสร้างสถานีสูบน้ำและเขื่อนค.ส.ล.คลองระหาญ) แล้วเสร็จ จะสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ฝั่งธนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง ปรับปรุงสถานีสูบน้ำเชื่อมต่อระบบคลองผันน้ำลงแก้มลิงคลองมหาชัย-คลองสนามชัย “ในพื้นที่ฝั่งธนบุรีสำนักการระบายน้ำจะดูแลรับผิดชอบระบบระบายน้ำครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 450 ตร.กม. มีสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำ 171 แห่ง ระบบระบายน้ำส่วนใหญ่จะเป็นระบบคลอง ความยาวรวมทั้งหมด 1,013 กม. โดยจะมีคลองสายหลักในการระบายน้ำเริ่มจากคลองทางด้านเหนือลงมา ได้แก่ คลองมหาสวัสดิ์ คลองบางกอกน้อย คลองทวีวัฒนา คลองภาษีเจริญ คลองสนามชัย คลองพระยาราชมนตรี คลองบางบอน คลองหมื่นแช่ม คลองขุนราชพินิจใจ และคลองระหาญ โดยน้ำในคลองทั้งหมดจะไหลมารวมกันในพื้นที่กักเก็บน้ำ ซึ่งเป็นแก้มลิงในโครงการพระราชดำริคลองมหาชัย-คลองสนามชัย ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถรองรับปริมาณน้ำได้ 6 ล้านลบ.ม. ก่อนจะระบายน้ำที่เก็บไว้ลงสู่อ่าวไทย 

ที่ผ่านมาสำนักการระบายน้ำได้ดำเนินการพัฒนาระบบระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งธนบุรีหลายโครงการ เช่น โครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันน้ำทะเลหนุนของสถานีสูบน้ำคลองสนามชัย กำลังสูบรวม 45 ลบ.ม./วินาที โครงการปรับปรุงสถานีสูบน้ำคลองพระยาราชมนตรี กำลังสูบรวม 51 ลบ.ม./วินาที งานก่อสร้างสถานีสูบน้ำคลองระหาญแห่งใหม่ด้านปากคลองระหาญเชื่อมต่อคลองสนามชัย กำลังสูบ 9 ลบ.ม./วินาที โครงการพัฒนาแก้มลิงบึงรางเข้ และในอนาคตยังมีโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองทวีวัฒนา อย่างไรก็ตามเมื่อโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งธนบุรีแล้วเสร็จทั้งหมด จะเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำด้วยระบบคลอง เปิดทางน้ำไหลให้เชื่อมต่อถึงกัน เป็นการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ฝน เพิ่มขีดความสามารถในการระบายน้ำ ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำทะเลหนุน และน้ำท่วมขังในพื้นที่ฝั่งธนบุรีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” ขยายถนนพระราม 2 ซอย 82 รองรับผู้มาใช้บริการสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ 7 รอบ (บางบอน)


นอกจากนี้สำนักการโยธาได้ดำเนินโครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 ซอย 82 เขตบางบอน เริ่มต้นสัญญาวันที่ 20 พ.ย.61 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 12 พ.ค.63 ระยะเวลาดำเนินการ 540 วัน โดยขยายผิวจราจร จาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร เขตทางกว้างประมาณ 20 ม. โดยการปรับปรุงเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) ความหนา 0.25 ม. ความกว้าง 12.00-13.00 ม. ความยาว 1,850 ม. พร้อมปรับปรุงทางแยก ทางเท้า ระบบระบายน้ำ และระบบไฟฟ้าแสงสว่าง เพื่อความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในการเดินทางสัญจร และผู้ที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว ตลอดจนรองรับผู้มาใช้บริการสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ 7 รอบ (บางบอน) ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา และห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ บางบอน อีกทั้งรองรับปริมาณการจราจรบริเวณถนนพระราม 2 ซอย 82 เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายถนนในซอยและถนนสายหลัก เช่น ถนนพระราม 2 ซอยรางโพธิ์ ถนนเอกชัย ขณะนี้ผลงานที่ทำได้ 12.51% ประกอบด้วย งานเตรียมพื้นที่ก่อสร้างฝั่งซ้ายและฝั่งขวาทางโซน 1 และโซน 2 งานวางบ่อพักและงานวางท่อระบายน้ำค.ส.ล. งานสร้างกำแพงกันดิน ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้สำนักการโยธาพิจารณาหาแนวทางในการปรับรูปแบบถนน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และเกิดประสิทธิภาพในการใช้งาน พร้อมทั้งประสานหน่วยงานสาธารณูปโภคในการรื้อย้ายเสาไฟฟ้า นอกจากนี้ได้ให้คำแนะนำแก่ผู้รับจ้างในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่ส่งผลกระทบต่อโครงการ โดยให้แบ่งการทำงานออกเป็น 3 โซน เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนงานที่วางไว้ รวมถึงกำชับผู้รับจ้างให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันฝุ่นและความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายหรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้พักอาศัยในบริเวณดังกล่าว เมื่อโครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 ซอย 82 แล้วเสร็จ จะอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้ที่เดินทางมาใช้บริการสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ 7 รอบ (บางบอน) สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณถนนพระราม 2 ซอย 82 อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจราจร ซึ่งเป็นเส้นทางลัดเชื่อมต่อถนนเอกชัย ซอย 109 ซอย 131 และถนนในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม JBC

จับตาประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” คลายปมร้อนชายแดน

14 มิ.ย. – จับตาการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” เจรจาลดความตึงเครียดชายแดน โดยฝ่ายไทยเดินทางถึงกรุงพนมเปญแล้ว มุ่งใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ขณะที่ “ภูมิธรรม” หวังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและมีข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย พร้อมคณะฝ่ายไทยเดินทางถึงกรุงพนมเปญ เพื่อเข้าร่วมการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 โดยมีนาย Khum Ponnaban อธิบดีกรม Technique of Border Affairs General Department หน่วยงาน State Secretariat of Border Affairs (เทียบเท่ากระทรวง) ของกัมพูชา ให้การต้อนรับที่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพนมเปญ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หวังการประชุม JBC จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและมีข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อความเป็นมิตรและการรักษาประโยชน์ร่วมของไทยและกัมพูชาให้กลับมาสู่ภาวะปกติ .-สำนักข่าวไทย

เตือนไทยตอนบนฝนตกหนัก-พายุหวู่ติบ ขึ้นฝั่งจีนวันนี้

กทม. 14 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนลดลง ขณะที่พายุ “หวู่ติบ” ขึ้นฝั่งจีนวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “หวู่ติบ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในวันนี้ (14 มิ.ย. 68) โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย