กทม.เดินหน้าพัฒนาระบบระบายน้ำในคลองสายหลักย่านฝั่งธนบุรี แก้ปัญหาน้ำท่วมขัง

กรุงเทพฯ 1มิ.ย.62.-กทม.เดินหน้าพัฒนาระบบระบายน้ำในคลองสายหลักย่านฝั่งธนบุรี ปรับปรุงถนนพระราม 2 ซอย 82 พร้อมทดสอบระบบสถานีสูบน้ำคลองระหาญแห่งใหม่ แก้ปัญหาน้ำท่วมขังและน้ำทะเลหนุนพื้นที่ฝั่งธน


นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำและการจราจรในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ประกอบด้วย โครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำด้านใต้คลองภาษีเจริญถึงคลองสนามชัย (ก่อสร้างสถานีสูบน้ำและเขื่อนค.ส.ล.คลองระหาญ) เขตบางขุนเทียน และโครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 ซอย 82 เขตบางบอน โดยมีคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา สำนักงานเขตในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่กดปุ่มเปิดเดินเครื่องทดสอบระบบสถานีสูบน้ำคลองระหาญแห่งใหม่ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำดำเนินโครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำด้านใต้คลองภาษีเจริญถึงคลองสนามชัย (ก่อสร้างสถานีสูบน้ำและเขื่อนค.ส.ล.คลองระหาญ) ประกอบด้วย งานปรับปรุงสถานีสูบน้ำคลองระหาญ (สถานีสูบน้ำเดิม) ซ.บางกระดี่ 32 และงานก่อสร้างสถานีสูบน้ำคลองระหาญ (สถานีแห่งใหม่ด้านปากคลองระหาญบรรจบคลองสนามชัย) ซ.บางกระดี่ 34 หมู่บ้านสิรินดา ประกอบด้วย การก่อสร้างสถานีสูบน้ำคลองระหาญ สร้างอาคารควบคุมและที่พักเจ้าหน้าที่ งานโครงสร้างป้องกันดินพังและทำนบกั้นน้ำชั่วคราว ติดตั้งประตูระบายน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 3 ลบ.ม./วินาที จำนวน 3 เครื่อง ติดตั้งเครื่องเก็บขยะอัตโนมัติ ติดตั้งบานปิดทางเดียว (Flap Gate) ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าพร้อมมิเตอร์ ติดตั้งระบบควบคุมเครื่องสูบน้ำ ติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และติดตั้งตู้ควบคุมเครน ขณะนี้ผลงานที่ทำได้ 66.50% ที่ผ่านมาผู้รับจ้างได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและอุปกรณ์บริเวณสถานีสูบน้ำคลองระหาญ และปักเสาพาดสายพร้อมติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูง 


ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำติดตามโครงการอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งกำชับผู้รับจ้างให้เร่งดำเนินการติดตั้งมิเตอร์พร้อมเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าถาวร เพื่อให้ระบบระบายน้ำสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ  โดยวันนี้ผู้รับจ้างได้ทดลองเปิดเดินเครื่องทดสอบระบบสถานีสูบน้ำคลองระหาญแห่งใหม่ ซึ่งระบบระบายน้ำดังกล่าวสามารถใช้งานได้แล้ว สำหรับงานก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล. บริเวณคลองระหาญ ความยาวรวมทั้งสิ้น 8,200 ม. เป็นแนวเขื่อนเดิม 900 ม. ผู้รับจ้างต้องก่อสร้าง 7,300 ม. อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง 6,815 ม. ติดปัญหาอุปสรรค 535 ม. ผลงานที่ทำได้ 72.25% อย่างไรก็ตามในส่วนของการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.คลองระหาญเกิดความล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาผู้บุกรุกคลองระหาญ ได้แก่ จุดที่ 1 คลองระหาญช่วงซอยมิตรสัมพันธ์ มีแนวถนนที่รุกล้ำคลองสาธารณะ ความยาว 200 ม. สำนักการระบายน้ำได้แก้ไขแบบตัดลดปริมาณงาน จุดที่ 2 คลองระหาญช่วงถนนพระราม 2 ถึงซอย 83 แนวที่เจ้าของดินไม่ยินยอมให้ก่อสร้าง ความยาว 100 ม. อยู่ระหว่างดำเนินการตาม ปว.44 และแก้ไขแบบตัดลดปริมาณงาน จุดที่ 3 คลองระหาญช่วงถนนพระราม 2 แนวอาคารรุกล้ำคลองสาธารณะ จำนวน 10 หลัง ความยาว 185 ม. ซึ่งอาคารรุกล้ำ 5 หลัง สำนักงานเขตบางขุนเทียนได้ติดประกาศ ปว.44 แล้ว และอาคารรุกล้ำบางส่วน 5 หลัง ใช้อำนาจปกครองท้องถิ่นแจ้งให้รื้อถอนภายใน 30 วัน และแจ้งความดำเนินคดีแล้ว รอผลดำเนินการจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จุดที่ 4 ก่อสร้างพื้นดาดท้องคลองใต้สะพานถนนพระราม 2 ที่ผ่านมาผู้รับจ้างได้เข้าดำเนินการขุดลอกคลองระหาญ เพื่อก่อสร้างพื้นดาดท้องคลอง ความกว้าง 18 ม ความยาว 120 ม. ความลึก -2 ม.รทก. ขณะนี้ดำเนินการได้แล้วความยาว 32 ม. ผลงานที่ทำได้ 49.85% ซึ่งผู้รับจ้างยืนยันว่าการก่อสร้างดาดท้องคลองจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.62 เมื่อโครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำด้านใต้คลองภาษีเจริญถึงคลองสนามชัย (ก่อสร้างสถานีสูบน้ำและเขื่อนค.ส.ล.คลองระหาญ) แล้วเสร็จ จะสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ฝั่งธนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง ปรับปรุงสถานีสูบน้ำเชื่อมต่อระบบคลองผันน้ำลงแก้มลิงคลองมหาชัย-คลองสนามชัย “ในพื้นที่ฝั่งธนบุรีสำนักการระบายน้ำจะดูแลรับผิดชอบระบบระบายน้ำครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 450 ตร.กม. มีสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำ 171 แห่ง ระบบระบายน้ำส่วนใหญ่จะเป็นระบบคลอง ความยาวรวมทั้งหมด 1,013 กม. โดยจะมีคลองสายหลักในการระบายน้ำเริ่มจากคลองทางด้านเหนือลงมา ได้แก่ คลองมหาสวัสดิ์ คลองบางกอกน้อย คลองทวีวัฒนา คลองภาษีเจริญ คลองสนามชัย คลองพระยาราชมนตรี คลองบางบอน คลองหมื่นแช่ม คลองขุนราชพินิจใจ และคลองระหาญ โดยน้ำในคลองทั้งหมดจะไหลมารวมกันในพื้นที่กักเก็บน้ำ ซึ่งเป็นแก้มลิงในโครงการพระราชดำริคลองมหาชัย-คลองสนามชัย ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถรองรับปริมาณน้ำได้ 6 ล้านลบ.ม. ก่อนจะระบายน้ำที่เก็บไว้ลงสู่อ่าวไทย 

ที่ผ่านมาสำนักการระบายน้ำได้ดำเนินการพัฒนาระบบระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งธนบุรีหลายโครงการ เช่น โครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันน้ำทะเลหนุนของสถานีสูบน้ำคลองสนามชัย กำลังสูบรวม 45 ลบ.ม./วินาที โครงการปรับปรุงสถานีสูบน้ำคลองพระยาราชมนตรี กำลังสูบรวม 51 ลบ.ม./วินาที งานก่อสร้างสถานีสูบน้ำคลองระหาญแห่งใหม่ด้านปากคลองระหาญเชื่อมต่อคลองสนามชัย กำลังสูบ 9 ลบ.ม./วินาที โครงการพัฒนาแก้มลิงบึงรางเข้ และในอนาคตยังมีโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองทวีวัฒนา อย่างไรก็ตามเมื่อโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งธนบุรีแล้วเสร็จทั้งหมด จะเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำด้วยระบบคลอง เปิดทางน้ำไหลให้เชื่อมต่อถึงกัน เป็นการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ฝน เพิ่มขีดความสามารถในการระบายน้ำ ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำทะเลหนุน และน้ำท่วมขังในพื้นที่ฝั่งธนบุรีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” ขยายถนนพระราม 2 ซอย 82 รองรับผู้มาใช้บริการสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ 7 รอบ (บางบอน)


นอกจากนี้สำนักการโยธาได้ดำเนินโครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 ซอย 82 เขตบางบอน เริ่มต้นสัญญาวันที่ 20 พ.ย.61 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 12 พ.ค.63 ระยะเวลาดำเนินการ 540 วัน โดยขยายผิวจราจร จาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร เขตทางกว้างประมาณ 20 ม. โดยการปรับปรุงเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) ความหนา 0.25 ม. ความกว้าง 12.00-13.00 ม. ความยาว 1,850 ม. พร้อมปรับปรุงทางแยก ทางเท้า ระบบระบายน้ำ และระบบไฟฟ้าแสงสว่าง เพื่อความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในการเดินทางสัญจร และผู้ที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว ตลอดจนรองรับผู้มาใช้บริการสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ 7 รอบ (บางบอน) ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา และห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ บางบอน อีกทั้งรองรับปริมาณการจราจรบริเวณถนนพระราม 2 ซอย 82 เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายถนนในซอยและถนนสายหลัก เช่น ถนนพระราม 2 ซอยรางโพธิ์ ถนนเอกชัย ขณะนี้ผลงานที่ทำได้ 12.51% ประกอบด้วย งานเตรียมพื้นที่ก่อสร้างฝั่งซ้ายและฝั่งขวาทางโซน 1 และโซน 2 งานวางบ่อพักและงานวางท่อระบายน้ำค.ส.ล. งานสร้างกำแพงกันดิน ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้สำนักการโยธาพิจารณาหาแนวทางในการปรับรูปแบบถนน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และเกิดประสิทธิภาพในการใช้งาน พร้อมทั้งประสานหน่วยงานสาธารณูปโภคในการรื้อย้ายเสาไฟฟ้า นอกจากนี้ได้ให้คำแนะนำแก่ผู้รับจ้างในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่ส่งผลกระทบต่อโครงการ โดยให้แบ่งการทำงานออกเป็น 3 โซน เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนงานที่วางไว้ รวมถึงกำชับผู้รับจ้างให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันฝุ่นและความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายหรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้พักอาศัยในบริเวณดังกล่าว เมื่อโครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 ซอย 82 แล้วเสร็จ จะอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้ที่เดินทางมาใช้บริการสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ 7 รอบ (บางบอน) สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณถนนพระราม 2 ซอย 82 อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจราจร ซึ่งเป็นเส้นทางลัดเชื่อมต่อถนนเอกชัย ซอย 109 ซอย 131 และถนนในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]