หั่นเป้าส่งออกปีนี้เหลือร้อยละ 3

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – “สมคิด” รับเป้าส่งออกปีนี้ โตร้อยละ 3 เชื่อมั่นสินค้าไทยยังส่งออกได้ดี แนะพาณิชย์ร่วมมือบีโอไอ ท่องเที่ยว เจรจาการค้าดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติงานให้แก่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศจากทั่วโลก 53 แห่ง ว่า สถานการณ์ทางการค้าโลก ล้วนได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งแน่นอนไทยก็ได้รับผลกระทบไปด้วย แต่อยากให้มองวิกฤติเป็นโอกาส โดยเฉพาะตลาดสหรัฐจะกลายเป็นโอกาสสำคัญที่จะต้องให้ข้อมูล และการช่วยเหลือภาคเอกชนไทย รวมถึงตลาดใหญ่อย่างอินเดีย ที่เศรษฐกิจยังโตสูงถึงร้อยละ 7 ที่ควรจะมีแผนการผลักดันส่งออกชัดเจน


ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ต้องร่วมทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ใช้นโยบายการค้าควบคู่กับการลงทุน และการท่องเที่ยว หากมีนักท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้นก็จะส่งผลดีต่อการซื้อสินค้าในประเทศด้วย ขณะเดียวกันต้องเร่งช่วยเหลือเกษตรกรในการพัฒนาคุณภาพสินค้า ช่องทางการตลาดโดยเฉพาะอี-คอมเมิร์ซ เพื่อยกระดับราคาสินค้าเกษตรไทย  

อย่างไรก็ตาม ได้ฝากให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันอย่างจริงจังและรักษาระดับไว้ แม้จะมีอุปสรรคบ้าง แต่เชื่อว่าจากแนวทางที่นำเสนอถ้าทุกฝ่ายทำงานเป็นหนึ่งเดียวก็จะดันเป้าส่งออกเป็นบวกแน่นอน แม้ว่าเป้าส่งออกปีนี้ที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์จะเป็นบวกร้อยละ 3 ตามสถานการณ์ปัจจัยลบจากสงครามการค้าสหรัฐกับจีน ถือว่ารับได้และเป็นไปตามที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมประเมินกับภาคเอกชนทุกกลุ่มสินค้า ยังเชื่อว่าแม้หลายประเทศที่ได้รับผลกระทบ แต่ยังมีอีกหลายประเทศที่ไทยจะสามารถเข้าไปเจาะตลาดโดยเฉพาะตลาดสหรัฐ อินเดียและอีกหลายประเทศด้วยกัน


น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่าจากการประเมินตัวเลขส่งออกเมื่อเดือนตุลาคม 2561 จากเป้าหมายขยายตัวสูงถึงร้อยละ 8 มูลค่า 270,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยอมรับว่าจากตัวเลขการส่งออกในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ยังติดลบร้อยละ 1.9 แต่ยังมั่นใจความร่วมมือจากหลายฝ่ายจะทำให้การส่งออกในช่วง 8 เดือนที่เหลือโตได้ร้อยละ 5 หรือเฉลี่ยต่อเดือน 21,000-22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ภาพรวมปี 2562 การส่งออกของไทยยังขยายตัวได้ร้อยละ 3 หรือมีมูลค่ากว่า 260,184 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ได้มีการประเมินการเจาะตลาดสำคัญในช่วงเวลาที่เหลือปีนี้ โดยตลาดจีนจะบวกร้อยละ 3 ญี่ปุ่นร้อยละ 2 อาเซียนร้อยละ 5.2 กลุ่ม CLMV ร้อยละ 7.9 แอฟริการ้อยละ 4 ตะวันออกกลางร้อยละ 2 รัสเซียร้อยละ 1 ซึ่งยังเชื่อว่าจะสามารถทำได้แน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS

“แพทองธาร” นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS ขับเคลื่อนความร่วมมือสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต การพัฒนาคุณภาพชีวิต และความกินดีอยู่ดีของประชาชนในภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ