สธ. 30 พ.ค.-อภ.ลงนามความร่วมมือกรมการแพทย์ ผลิตน้ำมันกัญชาเพื่อผู้ป่วยให้ตรงความต้องการ ย้ำแต่ละโรคต้องการสารสกัดกัญชาแตกต่าง กัน เช่น ลมชักต้องการน้ำมันกัญชาที่มีCBD สูง ร้อยละ 99 แต่กัญชาไทย ยังไม่ตอบโจทย์ เล็งนำเข้า หากมีความต้องการมาก ขณะที่ ม.แม่โจ้ เสนอตัวขอร่วมปลูกกัญชาส่งป้อน อภ.
นพ.โสภณ เมฆธน ประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรม (อภ.)นพ.สมศักดิ์ อรรฆศักดิ์ อธิบดีกรมการแพทย์ และนพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.เภสัชกรรม (อภ.) ลงนามความร่วมมือ วิจัยสารกัญชาทางการแพทย์เพื่อผู้ป่วยมะเร็ง,โรคลมชัก ปลอกประสาทเสื่อมแข็ง และภาวะปวดประสาท เพื่อให้เกิดการผลิตสารสกัดกัญชา (น้ำมันกัญชา)ตรงตามความต้องการ โด อภ.จะผลิต และพัฒนาสารสกัดกัญชา ควบคู่กับการศึกษาวิจัย โดยการผลิตสารสกัดน้ำมันกัญชา หยดใต้ลิ้น 3 สูตรด้วยกัน ประกอบด้วย สูตร1 มีสาร THC สูงกว่า CBD ,สูตร 2.CBD สูงกว่า THC และสูตร 3 สัดส่วน THC และ CBD แบบ 1 ต่อ 1 ใน ขนาด 5 มิลลิลิตร จำนวน 2,500 ขวด
นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า สำหรับแนวคิดการนำเข้าสารสกัดกัญชาจากต่าง ประเทศนั้น ขณะนี้ขอให้เป็นทางเลือกสุดท้าย แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องการสารสกัดน้ำมันกัญชา ที่มีสาร CBD สูง ก็อาจพิจารณานำเข้า เนื่องจาก โรคบางชนิด อย่างลมชักในเด็ก ต้องการน้ำมันกัญชา ที่มี CBD สูง ถึงร้อยละ 99 ซึ่งสารพันธุ์ของกัญชาไทย ให้สาร CDB น้อยกว่า 8 เท่า ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ หลังจากได้ลงนามกับกรมการแพทย์ก็จะพิจารณาผลิตน้ำมันกัญชาตามความต้องการต่อไปในล็อตที่ 2 ส่วน ล็อต แรก ที่จะได้ในเดือนกรกฎาคม ก็จะกระจายตามความต้องการของกรมการแพทย์
นพ.สมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีหลายฝ่าย ห่วงกังวลกับความต้องการน้ำมันกัญชาอาจไม่เพียงพอ ซึ่งมีแนวตคิดอาจมีความร่วมมือ 3 ฝ่าย ระหว่าง อภ. กรมการแพทย์ และ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในการผลิตกัญชาป้อนให้กับ อภ. ตามมาตรฐาน เพื่อใช้ในทางการแพทย์ แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน .-สำนักข่าวไทย