สทนช.ถกรับมือน้ำหลากฤดูฝน

กรุงเทพฯ 27 พ.ค. – สทนช.เร่งหารือหน่วยงานเกี่ยวข้อง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำฤดูฝน สั่งย้ำการจัดการภาวะฉุกเฉิน พร้อมกำหนดเงื่อนไขหลักเกณฑ์ระดับภัย เพื่อเปิดศูนย์บัญชาการลดผลกระทบแต่ละช่วงภัย หวังเพิ่มประสิทธิภาพป้องผลกระทบวิกฤติน้ำครอบคลุมรอบด้าน


นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 6/2562 ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือติดตามแนวโน้มการคาดการณ์สภาพภูมิอากาศ สถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ ในปัจจุบัน สภาพน้ำท่า รวมถึงการบริหารจัดการน้ำและการเพาะปลูกพืชในช่วงฤดูฝน ปี 2562 ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อซักซ้อม ทำความเข้าใจของทุกหน่วยงานร่วมกันในการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะแนวทาง เงื่อนไข การแจ้งเตือน รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลภายใต้ระบบฐานข้อมูลและรูปแบบเดียวกัน ซึ่งจากการวิเคราะห์ คาดการณ์สถานการณ์ฝนขณะนี้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า จะเริ่มมีฝนตกหนักตลอดสัปดาห์นี้บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน  อาทิ แพร่ เชียงใหม่ อุตรดิตถิ์ น่าน ที่จะเกิดฝนตกหนัก และมีภูเขาหัวโล้นอยู่มาก ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และแจ้งเตือนพื้นที่ประสบภัยดินโคลนถล่มจากน้ำไหลหลากฉับพลัน โดยอ้างอิงข้อมูลปริมาณน้ำของของกรมทรัพยากรน้ำที่สถานีวัดน้ำฝนครอบคลุมกว่า 1,000 แห่ง ซึ่งต้องเฝ้าระวังตั้งแต่เดือนนี้ถึงมิถุนายนที่อาจจะเกิดผลกระทบได้

นายสมเกียรติ กล่าวว่า จากการคาดการณ์แนวโน้มฝนตกภาพรวมจะมีปริมาณฝนไม่มาก จะตกหนักเพียงบางจุดและปริมาณฝนมากเป็นช่วง ๆ โดยตั้งแต่ช่วงนี้ถึงกลางมิถุนายนจะตกหนักบริเวณภาคเหนือ ขณะที่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมต่อเนื่องถึงสิงหาคม ก็จะเป็นภาคอีสาน และภาคกลางเล็กน้อย สถานการณ์ที่จะมีน้ำท่วมหนัก ก็ไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากแนวโน้มฝนน้อยกว่าปี 2560 และ 2561 รวมถึงแหล่งน้ำต่าง ๆ ยังสามารถรองรับปริมาณฝนได้อีกมาก โดยปริมาณน้ำในภาพรวมของประเทศขณะนี้น้อยกว่าปีที่ผ่านมาถึง 5,000–6,000 ล้าน ลบ.ม. ดังนั้น เหตุการณ์ที่จะมีน้ำล้นสปริลเวย์โอกาสจะเกิดขึ้นได้น้อย ยกเว้นกรณีเกิดพายุ ซึ่งได้มีการคาดการณ์พายุจะเกิดในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายนประมาณ 1-2 ลูก แต่เพื่อให้กลไกการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันกรณีหากเกิดภาวะวิกฤติจากน้ำ ระหว่างนี้ สทนช.ได้มีการหารือเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงานที่ชัดเจนของหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงการรวบรวมข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนให้เป็นรูปแบบเดียวกัน และกำหนดผู้ประสานงานของหน่วยงานที่ชัดเจน เมื่อมีสถานการณ์หรือเหตุบ่งบอกว่าจะเข้าสู่ภาวะวิกฤติ เช่น มีแนวโน้มการก่อตัวของพายุ หรือปริมาณฝนตกต่อเนื่อง 3 วันมากกว่า 200 มม. ก็จะร่วมกันทำงานภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งคาดว่าศูนย์ฯ จะเปิดในช่วงเดือนกรกฎาคม โดยจะทำงานสอดคล้องกับการป้องกันสาธารณภัยของ ปภ.ควบคู่กันด้วย 


ส่วนประเด็นที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือ ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ โดยเฉพาะที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ของความจุ โดยเฉพาะภาคอีสาน สทนช.จึงได้เน้นย้ำหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งกรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ติดตามสถานการณ์ฝนอย่างใกล้ชิด หากปริมาณน้ำฝนน้อยอาจสุ่มเสี่ยงน้ำไหลเข้าอ่างน้อยก็อาจจะกระทบกับปริมาณน้ำต้นทุนในอนาคตได้ ต้องประสานกรมฝนหลวงขึ้นปฏิบัติการช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกทางด้วย 

สำหรับข้อกังวลในเรื่องของสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงบางพื้นที่ในช่วงเดือนกรกฎาคมนั้น ที่ประชุมคาดการณ์ว่าในเขตชลประทานไม่น่าจะมีปัญหา เนื่องจากช่วงนี้เร่งเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด ขณะที่ภาคเกษตรการปลูกพืชฤดูแล้งก็มีการเก็บเกี่ยวไปแล้วกว่า 90% มีการวางแผนการจัดสรรน้ำให้พ้นช่วงแล้งของหน่วยงานเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ขณะที่การเพาะปลูกข้าวฤดูฝนก็มีการปลูกแล้วเกือบ 2 ล้านไร่ แต่ในพื้นที่นอกเขตชลประทานยังคงต้องมีการติดตามเฝ้าระวังเพื่อป้องกันผลกระทบอย่างใกล้ชิดด้วย 

นายสมเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แม้สถานการณ์ภัยแล้งหลายพื้นที่จะบรรเทาลง เนื่องจากประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ฤดูฝนปี 2562 อย่างเป็นทางการแล้ว แต่จากปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังอ่อนที่ยังคงลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบให้บางพื้นที่ยังมีปัญหาภัยแล้ง ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัยแล้ง 8 จังหวัด 18 อำเภอ 62 ตำบล 456 หมู่บ้าน ได้แก่ พิษณุโลก ร้อยเอ็ด ศรีษะเกษ นครราชสีมา มหาสารคาม ตราด ชลบุรี รวมถึงติดตามเฝ้าระวังบางจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค และที่ สทนช. ได้คาดการณ์พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพิ่มเติม โดยใช้เกณฑ์พิจารณาจากการคาดการณ์ปริมาณฝน 3 เดือน ปริมาณน้ำแหล่งน้ำขนาดเล็กน้อยกว่า 30% และปริมาณความชื้นในดิน โดย สทนช.ได้ประสานแจ้งข้อมูลพื้นที่ และขอให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมมาตรการแก้ไขปัญหาพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเชิงป้องกันเพื่อลดความรุนแรง ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงฝนทิ้งช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม และเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือพื้นที่เสี่ยง และให้หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณแก้ไขปัญหาภัยแล้งเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]