สำนักข่าวไทย 26 พ.ค.- นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์
เห็นว่าผลการเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรชี้ให้เห็นว่าจะได้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ
ก้ำกึ่งกัน ทำให้ทำงานยาก เพราะจะมีการต่อรองกันตลอด และกระทบความเชื่อมั่น แต่ยังเชื่อว่ารัฐบาลใหม่อยู่ได้ข้ามปี
พร้อมชี้ตั้งรัฐบาลครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ต่อรองได้มากกว่าคนอื่น
รองศาสตราจารย์ สุขุม นวลสกุล
อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ให้สัมภาษณ์”สำนักข่าวไทย”ถึงผลการเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรว่าผลที่ออกมาทำให้เห็นฃัดว่าเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำ
และแน่นอนว่าจะถูกเล่นเกมส์นับองค์ประชุมตลอดเวลา ดังนั้นจะขาดประชุมไม่ได้เลย และคงต้องมีการต่อรองกันทุกครั้งที่รัฐบาลหวังผลในสภา
ซึ่งคำว่าต่อรองนี้ถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง เพราะการเมืองคือเรื่องต่อรอง
แต่ต้องรอดูว่าจะก่อให้เกิดผลเสียหายหรือไม่ หรืออาจจะต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ
อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่ารัฐบาลจะอยู่ได้ข้ามปี 2562นี้
ส่วนเสียงที่เลือกประธานสภาฯ กับรองประธานฯ ที่ลดลงนั้น
นายสุขุม กล่าวว่า เป็นเพราะองค์ประชุมลดลง แต่ไม่น่าจะมีนัยอะไร
เนื่องจากเสียงไม่ได้ห่างกันมาก แต่เห็นว่าในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้
พรรคประชาธิปัตย์จะได้กำไรมากกว่าพรรคการเมืองอื่น
เพราะสามารถวางเกมจนกระทั่งได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร แม้จะมีคะแนนเสียงส.ส.อันดับ
4 และมองว่าผลการเลือกประธานและรองประธานสภาฯที่ออกมาทำให้เห็นชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องร่วมรัฐบาล
ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่คิดมานานแล้ว เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะฝ่ายค้านอิสระไม่มีอยู่จริง
เมื่อไม่สามารถร่วมกับพรรคเพื่อไทย ก็ต้องเลือกทำงานกับพรรคพลังประชารัฐ
“ก็ลองดูไปในเมื่อรัฐบาลตัดสินใจว่าเสียงปริ่มน้ำก็เอา
ก็คงจะมองเห็นทางข้างหน้าว่ามีทางที่จะปรับเปลี่ยนให้การบริหารงานราบรื่นก็ได้ ลองดูฝีมือรัฐบาลไป
แต่ถ้าดูตามฟอร์มที่เกิดขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพ
คนจะไม่เชื่อ ตรงนี้จะเป็นจุดเสียของรัฐบาลเช่นกัน ถ้าถูกมองว่าไม่น่าเชื่อถือ
ดังนั้นต้องรอดู แม้เสียงปริ่มน้ำ แต่ถ้าขยันขันแข็ง
เริ่มงานไปแล้วไม่มีปัญหาอุปสรรค เช่น ไม่เคยสภาล่ม
แม้เสียงปริ่มน้ำผ่านไปสักสมัยประชุมหนึ่งก็อาจจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้คนได้
แต่ในเบื้องต้นเขาคงยังไม่เชื่อมั่น”นายสุขุม กล่าว.- สำนักข่าวไทย