กรุงเทพฯ 7 พ.ย.-นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์เชื่อก้าวไกลเพิ่งขับ”สส.ปูอัด” ไม่ถือว่าสายเกินไป ชี้เรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องธรรมชาติ เรื่องส่วนบุคคล ไม่ถึงขั้นทำคนนเสื่อมศรัทธาพรรค มอง “สส.แจ้” เพิ่งทุจริตเพราะขัดกัน เข้าข่ายถ้าเป็นเพื่อนกันปกปิดได้
นายสุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลมีมติขับนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตร สส.กทม.ออกจากพรรค ว่า แม้พรรคก้าวไกลเพิ่งมีมติเรื่องนี้ในการพิจารณารอบที่ 2 ไม่ถือว่าช้าไป เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ เมื่อรอบแรกได้เสียงขับไม่ถึง 3 ใน 4 ก็ต้องเป็นไปตามกติกาและเชื่อว่า ไม่ได้ทำให้พรรคเสียหายถึงขั้นจะเสียคะแนนจนทำลายพรรค เพราะต้องถือว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล ไม่ใช่เป็นพฤติกรรมของพรรค ซึ่งคนไทยถือว่าเป็นเรื่องของชาวบ้านแต่ถ้าก้าวไกลพยายามยกมาตรฐานจริยธรรมของพรรคให้สูง จึงถูกนำมาเป็นจุดโจมตี ซึ่งมองว่าพฤติกรรมลักษณะนี้ในส่วนของพรรคการเมืองอื่นก็มีหนักกว่านี้ด้วยซ้ำ
“ถือว่าอาจจะกระทบฐานเสียงของพรรคบ้างแต่ไม่ถึงขั้น ทำให้พรรคล้มหายตายจาก มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ เพียงแต่ว่าพรรคก้าวไกลพยายามวางตัวว่าเป็นพรรคที่มีมาตรฐานสูงกว่าจรรยาบรรณที่เขากำหนดกันไว้ แม้ว่าหนแรกจะลงโทษตามมาตรฐานที่ตกลงกันไว้ ก็มองว่าจะต้องมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น จึงเกิดปัญหาขึ้น นึกถึงเรื่องนี้อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตันของสหรัฐก็เคยโดนถอดถอนเรื่องลูวินสกี้ แต่พอคะแนนไม่ถึงก็จบ ของเราพอจบแล้วก็มีคำถามอีกว่าทำไมไม่รับผิดชอบเพิ่มล่ะ ก็เลยดูว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ซึ่งผมว่าไม่ใช่ขนาดนั้น ผมว่ามันกระทบฐานเสียงบ้าง สำหรับคนที่เคร่งจรรยาบรรณ แต่ไม่ถึงขั้นทำให้คะแนนของพรรคนี้หายฐานหายไปหมด มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เพราะเรื่องเซ็กส์คนถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ มันเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่มาตรฐานของพรรค ไม่ใช่ว่าจะมีใครสักคนเป็นแบบนี้อยู่ในพรรคนี้แล้วคนจะเลิกศรัทธาพรรคนั้นเลย” นายสุขุม กล่าว
ส่วนเรื่องการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องที่สังคมไทยไม่ยอมรับ นายสุขุม กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สังคมไทยไม่ยอมรับ แต่ยังมีพฤติกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นในสังคม ถ้าใครทำพฤติกรรมเช่นนี้ คนก็เลิกศรัทธาคนนั้นไป
สำหรับกรณีที่นายวุฒิพงษ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรีอีกคนที่ถูกขับออกจากพรรค ออกมาแฉว่ามีไอ้โม่งอยู่เบื้องหลัง โครงการบ่อขยะ จะส่งผลกระทบต่อพรรคก้าวไกลหนักขึ้นหรือไม่ นายสุขุม กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบต่อพรรค แต่กระทบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นพฤติกรรมของนักการเมืองหรือไม่ ที่หากยังเป็นปกติกันก็ไม่แฉ แต่ถ้ามีเรื่องกันเมื่อไหร่ก็ออกมาแฉ ซึ่งอาจจะมองได้ว่าพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ค่อยดี ถ้าเป็นเพื่อนกันก็ปกปิดได้ เมื่อไหร่เป็นศัตรูกันฉันก็เปิด
นายสุขุม กล่าวว่า พรรคการเมืองใดก็ตามที่รับ 2 สส.ที่ถูกขับไป ก็ไม่น่าจะได้รับผลกระทบอะไรมากนัก นอกจากได้สส.เพิ่ม เชื่อว่าประชาชนจะตัดสินในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากใครมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเช่นนี้คนก็อาจจะไม่เลือก และทั้งสองคนคงไม่ไปพรรคที่มีคนเลือกเยอะอยู่แล้ว เพราะเชื่อว่าถ้าไปพรรคเหล่านั้นก็คงไม่รับ.-สำนักข่าวไทย