กาญจนบุรี 23 พ.ค.-วินาที! เจ้าหน้าที่จับกุมนายพรานกะเหรี่ยงใช้อาวุธสงครามล่าสัตว์ป่าอุทยานแห่งชาติไทรโยค หนีไปได้ 2 คน เร่งตามจับ
วานนี้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี บุกจับกุมนายซาตู ไม่มีนามสกุล อายุ 26 ปี ชาวกะเหรี่ยงที่ลักลอบเข้ามาล่าสัตว์ในป่าเหมืองเดวิด หมู่ที่ 8 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ห่างชายแดนไทย-พม่า ระยะประมาณ 3 กิโลเมตร โดยพบของกลางทั้งอาวุธปืน M16A2 ปืนลูกซอง และปืนแก็ป พร้อมกระสุน และซากหมีขอรมควัน 21 ชิ้น ซากลิงกังรมควัน 24 ชิ้น และเครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายซาตู พร้อมของกลาง ส่งให้ตำรวจ สภ.ไทรโยค ดำเนินคดีใน 7 ข้อหา 1.ร่วมกันนำสัตว์ออกไป หรือทำประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ 2.ร่วมกันเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาต 3.ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาต 4.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต 5.รวมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต 6.ความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน และ 7.ความผิดฐานคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อม พ.อ.ชูพงษ์ สายอุบล รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ร่วมประชุมรับฟังความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีนี้
โดย พ.ต.ท.บัญญัติ ไชนโกฏ รอง ผกก.(สอบสวน) รายงานว่า การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 22 พฤษภาคม ระหว่างเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคตรวจพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค บริเวณป่าเขาเลาะ บริเวณเหมืองเดวิด หมู่ 8 ต.วังกระแจะ ห่างจากชายแดนไทยเมียนม่าประมาณ 3 กม. พบร่องรอยการตัดไม้ จึงแกะรอยติดตามเจอชาย 3 คนนอนในเพิงพักชั่วคราวจึงปิดล้อมตรวจสอบ แต่ 2 คน หลบหนีได้ จึงจับกุมได้เพียง นายซาตู ตรวจค้นภายในเพิงพักชั่วคราว พบซากสัตว์หมีขอรมควัน จำนวน 21 ชิ้น รวม 3 กิโลกรัม ซากลิงกังรมควันจำนวน 24 ชิ้น รวม 2 กิโลกรัมและ อาวุธปืนหนึ่งอาวุธปืนกลมืออัตโนมัติยี่ห้อColt AR 15 ขนาด 5.56 มม. กระบอกแม็กกาซีนขนาด 5.56 มม. กระสุนขนาด 5.56 มม.จำนวน 38 นัด อาวุธปืนยาวลูกซองเดียวยี่ห้อ Baikalเบอร์ 12 พร้อมกระสุน อาวุธปืนแก๊ป 1 กระบอก
สอบสวนนายซาตู โดยใช้ล่ามภาษากะหร่าง ทราบว่า นายซาตู เป็นชาวบ้านบ้านเคาะป้อก จ.ทวาย เป็นพรานล่าสัตว์ ไม่ใช่ทหารกะเหรี่ยง KNU โดยเมื่อวันที่ 20 พ.ค.62 ได้เดินทางออกจากบ้านพักในหมู่บ้านเคาะป้อกเพื่อล่าสัตว์นำกลับไปเป็นอาหาร โดยขี่จักรยานยนต์มาพร้อมเพื่อนอีก 2 คน ที่หลบหนีไปได้คือ นายซาปุ้ย อายุ 20 ปี และนายพอลลา อายุ 50 ปี ใช่เวลาครึ่งวันถึงชายแดนไทย พบว่าสัตว์ในเมียนมาน้อยมาก จึงเดินเท้าไปเรื่อยๆ อีกครึ่งวันจึงมาถึงที่เกิดเหตุและได้ล่าสัตว์เป็นเวลา 1 วัน โดยได้หมีขอ 1 ตัว กับลิงกัง 1 ตัว ส่วนอาวุธปืนเป็นของเพื่อนที่หลบหนีไปได้
พล.ต.ต.สุวิทย์ สั่งการให้เร่งออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาที่หลบหนี ส่วนปืนและลูกกระสุนของกลางส่งให้พิสูจน์หลักฐานภาค 7 และซากสัตว์ส่งให้นิติวิทยาศาสตร์กรมอุทยานฯ ตรวจสอบเพื่อนำข้อมูลประกอบสำนวนสอบสวน คาดใช้เวลา 1 เดือน และเร่งสอบปากคำผู้ต้องหาและนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรีต่อไป
มีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงชายแดนด้านจังหวัดกาญจนบุรีได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดประสานงานชายแดนประจำบ้านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี และบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง ได้ประสานงานกับกลุ่มชาติพันธุ์กระเหรี่ยง KNU. ที่อาศัยอยู่แนวตะเข็บชายแดน เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อมูลของนายซาตู ได้รับการแจ้งตอบจาก KNU.ว่า นายซาตูไม่ใช่ทหารของ KNU.
ด้านนายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค เผย เจ้าหน้าที่ได้ทำการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ หรือ Smart Patrol ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ตามปกติ สำหรับจุดเกิดเหตุอยู่ติดแนวชายแดน ซึ่งทางอุทยานฯ พยายามจะเข้าไปลาดตระเวนให้ครอบคลุมพื้นที่ ทั้งนี้ในอนาคตจะได้มีการประสานกับกองกำลังสุรสีห์ เพื่อร่วมกันลาดตระเวน ในภาพรวมของสถานการณ์การกระทำผิดในพื้นที่อุทยานฯ ทั้งการล่าสัตว์ และตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มลดลง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการล่าเพื่อนำไปประกอบอาหาร ทั้งนี้ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ที่ชนกลุ่มน้อยกองกำลังติดอาวุธ KNU เข้ามาลักลอบล่าสัตว์ จากการลาดตระเวนมักจะพบชนกลุ่มน้อยที่เดินข้ามฝั่งไป-มา โดยส่วนหนึ่งก็เข้ามาหาญาติ และบางส่วนก็มารับจ้างทำงานในฝั่งประเทศไทย แต่การเข้ามาในลักษณะกองกำลังติดอาวุธในครั้งนี้นั้นถือเป็นครั้งแรก.-สำนักข่าวไทย