กรมปศุสัตว์ยืนยัน จัดสรรนมโปร่งใส ขู่เทนมทิ้งอาจตัดสิทธิทันที

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – อธิบดีกรมปศุสัตว์ลั่นจัดสรรนมโรงเรียนไม่มีรับเงินหัวคิวแม้แต่สลึงเดียว ขู่กลับผู้ประกอบการ หากจัดตั้งม็อบประท้วงเทนมทิ้ง โดนตัดสิทธิทันที ชี้ผิดคุณสมบัติเงื่อนไขได้โควตานมโรงเรียน ระบุชัดต้องรับผิดชอบรับซื้อนมดิบเกษตรกร 365 วัน


นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เลขานุการคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มสหกรณ์โคนมขู่นำเกษตรกรมาประท้วงเทนมทิ้ง โดยอ้างว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม โควตาจำหน่ายนมโรงเรียนลดลง ส่งผลปริมาณน้ำนมดิบเหลือวันละ110ตันหรือเดือนละ 3,000 ตัน อีกทั้งชี้ว่า ระบบจัดสรรสิทธิใหม่เปิดกว้างมากเกินไปให้กระทรวงเกษตรฯ ทบทวน ซึ่งนายสัตวแพทย์สรวิศยืนยันว่าไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้รายใด ไม่รับเงินแม้แต่สลึงเดียวข้อครหาที่เคยมีในปีก่อนๆ ว่า การจัดสรรนมโรงเรียนมีการเรียกรับหัวคิวกล่องละ10-50 สตางค์ไม่มีแน่นอน ครั้งนี้ทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใสโดยเป็นไปตามแนวทางของนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ให้ปฏิรูปแนวทางบริหารจัดการโครงการนมโรงเรียนทั้งระบบ ซึ่งใช้งบ 14,000 ล้านบาทต่อปี เฉลี่ยต่อหัวเด็กนักเรียน 6 บาทต่อถุง (นมพาสเจอร์ไรส์และ 7 บาทต่อกล่อง (นมยูเอชที) ซึ่งเป็นไปตามการเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ให้แก้ปัญหาการทุจริต และมีผลประโยชน์ทับซ้อน จะเกิดปัญหาซ้ำรอยเหมือนโครงการจำนำข้าวได้ถ้าผู้มีหน้าที่รับผิดชอบละเลยไม่แก้ไข และจะต้องไม่มีผู้มีส่วนได้เสียนั่งเป็นคณะกรรมการบริหารโครงการนมโรงเรียน โดยรมว.เกษตรฯทำแผนปฏิรูปเสนอครม.ผ่านมติตั้งคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เพื่อแยกการบริหารจัดการนมโรงเรียน ออกจากคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด)ทั้งนี้ระบบใหม่นี้กระจายการจัดโควตาไปยัง 5 กลุ่มภูมิภาคที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานอนุกรรมการอาหารนมฯในพื้นที่มีเกษตกรเลี้ยงโคนมจำนวนมาก แทนการพิจารณาในมิลค์บอร์ด ซึ่งมีผู้แทนเกษตรกรและผู้แทนผู้ประกอบการเป็นกรรมการอยู่ เป็นการกระจายอำนาจหน้าที่จัดซื้อจัดจ้าง ไม่ให้รวมอยู่ที่เดียว รวมทั้งรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 กำหนดให้การค้าเป็นธรรมไม่ผูกขาด

นายสัตวแพทย์สรวิศกล่าวว่า คณะกรรมการอาหารนมฯ จัดสรรสิทธิโดยยึดประโยชน์เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ป้องกันไม่ให้เกษตรกรเดือดร้อนจากนมดิบล้นและเด็กนักเรียนเป็นหลัก ซึ่งในภาคเรียนนี้มีผู้ประกอบการได้โควตา 65 ราย ทุกรายได้โควตาลดลงเพราะจำนวนเด็กนักเรียนน้อยลงกว่าปีที่แล้วถึง 46,000 คน ก่อนหน้านี้ได้ชี้แจงกับผู้ประกอบการ สหกรณ์โคนม ศูนย์รวบรวมนมดิบ และเกษตรกรให้เข้าใจตามประกาศหลักเกณฑ์ใหม่ของคณะกรรมการอาหารนมฯอย่างชัดเจน โดยต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดคุณสมบัติ 7ข้อของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมจำหน่ายนมโรงเรียน คือ1. มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน2. มีใบอนุญาตผลิตอาหาร 3. มีใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับอาหาร หรือใบจดทะเบียนอาหาร 4.มีใบรับรอง GMP. จาก. อย. และมีผลผ่านการตรวจวิเคราะห์คุณภาพนมโรงเรียนจากกระทรวงสาธารณสุข 5.ใช้น้ำนมโคจากศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบที่ผ่าน. GMP. จากกรมปศุสัตว์. และน้ำนมโคต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานที่หลักเกณฑ์ฯ กำหนด 6. มีสัญญาซื้อขายระหว่างเกษตรกรกับศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ. และสัญญาซื้อขายระหว่างผู้ประกอบการกับศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ


และข้อ7.ต้องส่งแผนและคำรับรองในการบริหารจัดการน้ำนมโค. ที่มีแผนการตลาดรองรับปริมาณน้ำนมโคของศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบคู่สัญญาและของตนเอง. และรับผิดชอบน้ำนมโคของศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบคู่สัญญาตลอด 365 วัน โดยผู้ประกอบการทุกรายต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ได้รับโควตาไปแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันอย่างเต็มที่ทำให้เด็กนักเรียนได้ดื่มนมถึงร้อยละ 95 ในวันเปิดภาคเรียน จนกระทั่งครบทั้งประเทศในวันนี้ (23 พฤษภาคม)โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ซึ่งมีสหกรณ์โคนมและศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบน้อย ขณะนี้ได้รับนมแล้ว แม้โรงเรียนอยู่บนเกาะต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของนมโรงเรียน เมื่อเทียบกับหลายๆ ปีที่ผ่านมาซึ่งล่าช้าหลายสัปดาห์กว่านมจะไปถึงมือเด็กในพื้นที่ห่างไกล

นอกจากนี้ทั้งสหกรณ์โคนม ผู้ประกอบการ ศูนย์รวบรวมนมดิบต้องมีแผนล่วงหน้าในการบริหารนม หากนำนมมาเททิ้ง จะตรวจสอบว่านำนมมาจากแหล่งใด ผ่านคุณภาพหรือไม่ หากนมไม่มีคุณภาพจะพิจารณาลงโทษ อาจถึงขั้นตัดสิทธิเพราผิดสัญญาในเงื่อนไขคุณสมบัติที่เข้ารับโควตานมโรงเรียนทันที โดยสหกรณ์ต้องพัฒนาศักยภาพสามารถนำน้ำนมดิบไปเข้าตลาดนมพาณิชย์ได้ เพิ่มโอกาสช่องทางจำหน่ายนอกจากการส่งนมโรงเรียนด้วย และการรับซื้อน้ำนมดิบจากแหล่งที่มีคุณภาพดีผ่านการรับรองของกรมปศุสัตว์ ได้ตลอดทั้งปีจากเกษตรกรในมาตรการป้องกันนมดิบล้นตลาด โดยเด็กนักเรียนกว่า 7.4 ล้านคน ได้ดื่มนมทุกวันผลิตจากนมโคแท้ๆ 260 วันเป็นหัวใจหลักของโครงการนมโรงเรียน ในปีนี้ยังปรับแก้ให้นำพ.ร.บ. เกษตรพันธสัญญามาใช้บังคับในการทำที่ผู้ประกอบการรับซื้อน้ำนมจากกลุ่มเกษตรกร จากเดิมใช้การทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ซึ่งไม่มีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย หากผู้ประกอบการแจ้งปริมาณรับซื้อน้ำนมจากกลุ่มเกษตรกรเพื่อแลกโควตานำเข้านมผงในอัตราภาษีต่ำ รวมถึงไม่สามารถลงโทษได้ หากผู้ประกอบการไม่รับผิดชอบรับซื้อน้ำนมดิบตลอด 365 วัน

“ปริมาณน้ำนมดิบทั้งประเทศเฉลี่ย 3,300 ตันต่อวัน แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ นำเข้านมโรงเรียนประมาณ 1,100 ตัน ที่เหลือนไปผลิตนมพาณิชย์ และอีกส่วนหนึ่งบริษัทใหญ่รับซื้อน้ำนมดิบเพื่อนำไปแลกโควตานำเข้านมผงซึ่งมีราคาต่ำกว่าน้ำนมดิบ ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมกว่า 20,000 ราย โคนมกว่า 600,000 ตัว ซึ่งกลุ่มเกษตรกรจะส่งมาที่ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ 200 กว่าศูนย์ทั่วประเทศ ทั้งนี้กรมปศุสัตว์สุ่มตรวจทั่วประเทศเดือนละ1ครั้งเพื่อให้น้ำนมที่ใช้ผลิตนมโรงเรียนมีสารอาหารครบถ้วนและปลอดเชื้อก่อโรค ส่วนโครงนมโรงเรียนรัฐให้งบ7บาทเฉลี่ยต่อหัวเด็กนักเรียน/กล่อง/ถุง ผู้ประกอบการนมโรงเรียน ต้องมีสัญญากับศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ รับซื้อจากเกษตรกร” นายสัตวแพทย์สรวิศกล่าว


มีรายงานถึงที่มีการกล่าวอ้างว่า มิลค์บอดร์ดไม่พอใจผลการจัดสรรโควตานมโรงเรียน แล้วจะนำนมมาเททิ้งเพื่อประท้วงนั้น เป็นการให้ข่าวโดยผู้ประกอบการที่ไม่พอใจที่ได้รับการจัดสรรโควต้าลดลง โดยไม่ยอมรับว่า เด็กนักเรียนมีจำนวนลดลง ผู้ประกอบการบางรายศึกษาข้อกำหนดไม่ชัดเจน นำปริมาณน้ำนมดิบบางส่วนไปยื่นขอโควต้านอกพื้นที่จึงถูกตัดสิทธิที่ไปยื่นขอในกลุ่มพื้นที่อื่น ส่วนข้อเรียกร้องว่า ปริมาณน้ำนมที่จำหน่ายเพื่อขอโควต้านำเข้านมผงแล้วให้ตัดออก คณะอนุกรรมการจัดสรรสิทธิได้ปรับลดตามสัดส่วนอย่างเท่าเทียมกันทุกราย ผู้ประกอบการที่ไม่พึงพอใจนั้น บางรายเป็นกรรมการในมิลค์บอดร์ด แต่ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเป็นประธานมิลค์บอร์ดยืนยันว่า มิลค์บอร์ดยังไม่ได้มีการประชุมใดๆ และไม่เกี่ยวข้อง เป็นปัญหาของผู้ประกอบการที่ต้องการสิทธิเพิ่ม แล้วนำมิลค์บอร์ดมากล่าวอ้าง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

จุดผ่านแดน

ผบ.กกล.บูรพา แจ้งผู้ว่าฯ สระแก้ว ถือปฏิบัติเคร่งใน 5 จุดผ่านแดน-ผ่อนปรน

7 มิ.ย. – ผบ.กกล.บูรพา แจ้งผู้ว่าฯ สระแก้ว ถือปฏิบัติเคร่งใน 5 จุดผ่านแดน-ผ่อนปรน สั่งห้ามคนไทยไปเล่นการพนัน-ท่องเที่ยว ส่วนใครที่ใช้ Border pass ให้พิจารณาจาก 14 วัน เหลือ 7 วัน พร้อมห้ามรถบรรทุกสินค้า 6 ล้อขึ้นไปผ่าน ให้ไปใช้จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เท่านั้น เมื่อเวลา 19.10 น. พล.ต.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา (ผบ.กกล.บูรพา) ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เรื่องมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนการค้าในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว พร้อมแนบคำสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ 806 / 2568, คำสั่งกองทัพภาคที่ 1 (เฉพาะ) ที่ 878/68 และแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า ตามคำสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ 806/2568 เรื่องควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยกองทัพบกกำหนดมาตรการให้กองทัพภาคที่ […]

ทบ. แจง 4 ขั้นตอนแนวทางปฏิบัติควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย.-ทบ. แจงแนวทางปฏิบัติตามคำสั่งควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา ดำเนินการเป็นขั้นตอนตามสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจาก กรณีที่กองทัพบกได้ออกคำสั่งให้มีการควบคุมจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อรักษาอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงของชาติ การดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวมิได้เป็นการใช้มาตรการสูงสุดในทันที แต่เป็นแนวทางปฏิบัติแบบขั้นตอน โดยพิจารณาจากระดับความรุนแรงของสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ โดยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้ ขั้นที่ 1 จำกัดการผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่น ๆ โดยเพิ่มระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น นักพนัน หรือกลุ่มที่อาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย ขั้นที่ 2 ปรับลดช่วงเวลาในการเปิด–ปิดจุดผ่านแดน พร้อมทั้งกำหนดวัน–เวลาการเข้า–ออกอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมความเคลื่อนไหวของบุคคลและกิจกรรมในพื้นที่ชายแดน ขั้นที่ 3 ปิดจุดผ่านแดนบางจุด (Selective Closure) โดยพิจารณาจากจุดที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีข้อมูลด้านความมั่นคงที่อาจนำไปสู่การรุกล้ำ หรือการก่อเหตุจากฝ่ายตรงข้าม ขั้นที่ 4 ปิดจุดผ่านแดนตลอดแนวชายแดนในกรณีที่เกิดสถานการณ์วิกฤต หรือมีการรุกรานอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมสถานการณ์ในระดับสูงสุด โฆษกกองทัพบกย้ำว่า มาตรการดังกล่าวได้มอบอำนาจให้ กองกำลังบูรพา และ […]

กองทัพอิสราเอลพบร่างตัวประกันชาวไทยในฉนวนกาซา

เยรูซาเล็ม 7 มิ.ย. – นายอิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าววันเสาร์ว่า กองทัพอิสราเอลได้พบร่างของตัวประกันชาวไทยชื่อ นายณัฐพงษ์ ปินตา ที่ถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซาตั้งแต่การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 นายคัตซ์กล่าวว่า ร่างของณัฐพงษ์ อยู่กับกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ที่ชื่อว่า กองพลน้อยมูจาฮีดีน และถูกนำกลับมาจากพื้นที่ราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ในขณะที่ครอบครัวของเขาในประเทศไทยได้รับแจ้งแล้ว นายณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นคนงานภาคเกษตรกรรม ถูกลักพาตัวไปจาก คิบบุตซ์ นีร์ ออซ ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆ ใกล้ชายแดน ซึ่งเป็นจุดดที่หนึ่งในสี่ของประชากรถูกสังหารหรือถูกจับเป็นตัวประกันระหว่างการโจมตีที่นำโดยกลุ่มฮามาสในปี 2023 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า นายณัฐพงษ์ ถูกลักพาตัวไปในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และถูกสังหารโดยผู้ที่จับตัวเขาไป ซึ่งได้ลงมือสังหารและนำร่างของตัวประกันชาวอิสราเอล-อเมริกันอีกสองคนกลับไปยังฉนวนกาซาด้วย โดยร่างของทั้งสองคนนั้นก็เพิ่งได้กลับคืนมาได้ในสัปดาห์นี้.-813.-สำนักข่าวไทย

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]