กรมปศุสัตว์ยืนยัน จัดสรรนมโปร่งใส ขู่เทนมทิ้งอาจตัดสิทธิทันที

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – อธิบดีกรมปศุสัตว์ลั่นจัดสรรนมโรงเรียนไม่มีรับเงินหัวคิวแม้แต่สลึงเดียว ขู่กลับผู้ประกอบการ หากจัดตั้งม็อบประท้วงเทนมทิ้ง โดนตัดสิทธิทันที ชี้ผิดคุณสมบัติเงื่อนไขได้โควตานมโรงเรียน ระบุชัดต้องรับผิดชอบรับซื้อนมดิบเกษตรกร 365 วัน


นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เลขานุการคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มสหกรณ์โคนมขู่นำเกษตรกรมาประท้วงเทนมทิ้ง โดยอ้างว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม โควตาจำหน่ายนมโรงเรียนลดลง ส่งผลปริมาณน้ำนมดิบเหลือวันละ110ตันหรือเดือนละ 3,000 ตัน อีกทั้งชี้ว่า ระบบจัดสรรสิทธิใหม่เปิดกว้างมากเกินไปให้กระทรวงเกษตรฯ ทบทวน ซึ่งนายสัตวแพทย์สรวิศยืนยันว่าไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้รายใด ไม่รับเงินแม้แต่สลึงเดียวข้อครหาที่เคยมีในปีก่อนๆ ว่า การจัดสรรนมโรงเรียนมีการเรียกรับหัวคิวกล่องละ10-50 สตางค์ไม่มีแน่นอน ครั้งนี้ทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใสโดยเป็นไปตามแนวทางของนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ให้ปฏิรูปแนวทางบริหารจัดการโครงการนมโรงเรียนทั้งระบบ ซึ่งใช้งบ 14,000 ล้านบาทต่อปี เฉลี่ยต่อหัวเด็กนักเรียน 6 บาทต่อถุง (นมพาสเจอร์ไรส์และ 7 บาทต่อกล่อง (นมยูเอชที) ซึ่งเป็นไปตามการเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ให้แก้ปัญหาการทุจริต และมีผลประโยชน์ทับซ้อน จะเกิดปัญหาซ้ำรอยเหมือนโครงการจำนำข้าวได้ถ้าผู้มีหน้าที่รับผิดชอบละเลยไม่แก้ไข และจะต้องไม่มีผู้มีส่วนได้เสียนั่งเป็นคณะกรรมการบริหารโครงการนมโรงเรียน โดยรมว.เกษตรฯทำแผนปฏิรูปเสนอครม.ผ่านมติตั้งคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เพื่อแยกการบริหารจัดการนมโรงเรียน ออกจากคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด)ทั้งนี้ระบบใหม่นี้กระจายการจัดโควตาไปยัง 5 กลุ่มภูมิภาคที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานอนุกรรมการอาหารนมฯในพื้นที่มีเกษตกรเลี้ยงโคนมจำนวนมาก แทนการพิจารณาในมิลค์บอร์ด ซึ่งมีผู้แทนเกษตรกรและผู้แทนผู้ประกอบการเป็นกรรมการอยู่ เป็นการกระจายอำนาจหน้าที่จัดซื้อจัดจ้าง ไม่ให้รวมอยู่ที่เดียว รวมทั้งรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 กำหนดให้การค้าเป็นธรรมไม่ผูกขาด

นายสัตวแพทย์สรวิศกล่าวว่า คณะกรรมการอาหารนมฯ จัดสรรสิทธิโดยยึดประโยชน์เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ป้องกันไม่ให้เกษตรกรเดือดร้อนจากนมดิบล้นและเด็กนักเรียนเป็นหลัก ซึ่งในภาคเรียนนี้มีผู้ประกอบการได้โควตา 65 ราย ทุกรายได้โควตาลดลงเพราะจำนวนเด็กนักเรียนน้อยลงกว่าปีที่แล้วถึง 46,000 คน ก่อนหน้านี้ได้ชี้แจงกับผู้ประกอบการ สหกรณ์โคนม ศูนย์รวบรวมนมดิบ และเกษตรกรให้เข้าใจตามประกาศหลักเกณฑ์ใหม่ของคณะกรรมการอาหารนมฯอย่างชัดเจน โดยต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดคุณสมบัติ 7ข้อของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมจำหน่ายนมโรงเรียน คือ1. มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน2. มีใบอนุญาตผลิตอาหาร 3. มีใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับอาหาร หรือใบจดทะเบียนอาหาร 4.มีใบรับรอง GMP. จาก. อย. และมีผลผ่านการตรวจวิเคราะห์คุณภาพนมโรงเรียนจากกระทรวงสาธารณสุข 5.ใช้น้ำนมโคจากศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบที่ผ่าน. GMP. จากกรมปศุสัตว์. และน้ำนมโคต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานที่หลักเกณฑ์ฯ กำหนด 6. มีสัญญาซื้อขายระหว่างเกษตรกรกับศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ. และสัญญาซื้อขายระหว่างผู้ประกอบการกับศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ


และข้อ7.ต้องส่งแผนและคำรับรองในการบริหารจัดการน้ำนมโค. ที่มีแผนการตลาดรองรับปริมาณน้ำนมโคของศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบคู่สัญญาและของตนเอง. และรับผิดชอบน้ำนมโคของศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบคู่สัญญาตลอด 365 วัน โดยผู้ประกอบการทุกรายต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ได้รับโควตาไปแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันอย่างเต็มที่ทำให้เด็กนักเรียนได้ดื่มนมถึงร้อยละ 95 ในวันเปิดภาคเรียน จนกระทั่งครบทั้งประเทศในวันนี้ (23 พฤษภาคม)โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ซึ่งมีสหกรณ์โคนมและศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบน้อย ขณะนี้ได้รับนมแล้ว แม้โรงเรียนอยู่บนเกาะต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของนมโรงเรียน เมื่อเทียบกับหลายๆ ปีที่ผ่านมาซึ่งล่าช้าหลายสัปดาห์กว่านมจะไปถึงมือเด็กในพื้นที่ห่างไกล

นอกจากนี้ทั้งสหกรณ์โคนม ผู้ประกอบการ ศูนย์รวบรวมนมดิบต้องมีแผนล่วงหน้าในการบริหารนม หากนำนมมาเททิ้ง จะตรวจสอบว่านำนมมาจากแหล่งใด ผ่านคุณภาพหรือไม่ หากนมไม่มีคุณภาพจะพิจารณาลงโทษ อาจถึงขั้นตัดสิทธิเพราผิดสัญญาในเงื่อนไขคุณสมบัติที่เข้ารับโควตานมโรงเรียนทันที โดยสหกรณ์ต้องพัฒนาศักยภาพสามารถนำน้ำนมดิบไปเข้าตลาดนมพาณิชย์ได้ เพิ่มโอกาสช่องทางจำหน่ายนอกจากการส่งนมโรงเรียนด้วย และการรับซื้อน้ำนมดิบจากแหล่งที่มีคุณภาพดีผ่านการรับรองของกรมปศุสัตว์ ได้ตลอดทั้งปีจากเกษตรกรในมาตรการป้องกันนมดิบล้นตลาด โดยเด็กนักเรียนกว่า 7.4 ล้านคน ได้ดื่มนมทุกวันผลิตจากนมโคแท้ๆ 260 วันเป็นหัวใจหลักของโครงการนมโรงเรียน ในปีนี้ยังปรับแก้ให้นำพ.ร.บ. เกษตรพันธสัญญามาใช้บังคับในการทำที่ผู้ประกอบการรับซื้อน้ำนมจากกลุ่มเกษตรกร จากเดิมใช้การทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ซึ่งไม่มีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย หากผู้ประกอบการแจ้งปริมาณรับซื้อน้ำนมจากกลุ่มเกษตรกรเพื่อแลกโควตานำเข้านมผงในอัตราภาษีต่ำ รวมถึงไม่สามารถลงโทษได้ หากผู้ประกอบการไม่รับผิดชอบรับซื้อน้ำนมดิบตลอด 365 วัน

“ปริมาณน้ำนมดิบทั้งประเทศเฉลี่ย 3,300 ตันต่อวัน แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ นำเข้านมโรงเรียนประมาณ 1,100 ตัน ที่เหลือนไปผลิตนมพาณิชย์ และอีกส่วนหนึ่งบริษัทใหญ่รับซื้อน้ำนมดิบเพื่อนำไปแลกโควตานำเข้านมผงซึ่งมีราคาต่ำกว่าน้ำนมดิบ ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมกว่า 20,000 ราย โคนมกว่า 600,000 ตัว ซึ่งกลุ่มเกษตรกรจะส่งมาที่ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ 200 กว่าศูนย์ทั่วประเทศ ทั้งนี้กรมปศุสัตว์สุ่มตรวจทั่วประเทศเดือนละ1ครั้งเพื่อให้น้ำนมที่ใช้ผลิตนมโรงเรียนมีสารอาหารครบถ้วนและปลอดเชื้อก่อโรค ส่วนโครงนมโรงเรียนรัฐให้งบ7บาทเฉลี่ยต่อหัวเด็กนักเรียน/กล่อง/ถุง ผู้ประกอบการนมโรงเรียน ต้องมีสัญญากับศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ รับซื้อจากเกษตรกร” นายสัตวแพทย์สรวิศกล่าว


มีรายงานถึงที่มีการกล่าวอ้างว่า มิลค์บอดร์ดไม่พอใจผลการจัดสรรโควตานมโรงเรียน แล้วจะนำนมมาเททิ้งเพื่อประท้วงนั้น เป็นการให้ข่าวโดยผู้ประกอบการที่ไม่พอใจที่ได้รับการจัดสรรโควต้าลดลง โดยไม่ยอมรับว่า เด็กนักเรียนมีจำนวนลดลง ผู้ประกอบการบางรายศึกษาข้อกำหนดไม่ชัดเจน นำปริมาณน้ำนมดิบบางส่วนไปยื่นขอโควต้านอกพื้นที่จึงถูกตัดสิทธิที่ไปยื่นขอในกลุ่มพื้นที่อื่น ส่วนข้อเรียกร้องว่า ปริมาณน้ำนมที่จำหน่ายเพื่อขอโควต้านำเข้านมผงแล้วให้ตัดออก คณะอนุกรรมการจัดสรรสิทธิได้ปรับลดตามสัดส่วนอย่างเท่าเทียมกันทุกราย ผู้ประกอบการที่ไม่พึงพอใจนั้น บางรายเป็นกรรมการในมิลค์บอดร์ด แต่ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเป็นประธานมิลค์บอร์ดยืนยันว่า มิลค์บอร์ดยังไม่ได้มีการประชุมใดๆ และไม่เกี่ยวข้อง เป็นปัญหาของผู้ประกอบการที่ต้องการสิทธิเพิ่ม แล้วนำมิลค์บอร์ดมากล่าวอ้าง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยา

คนไข้เผยรับยาส่งต่อให้นายหน้า ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

มีคนไข้ รพ.ทหารผ่านศึก เพียง 50 คน จากกว่า 100 คน ตอบรับเข้าให้ข้อมูลตำรวจ คดีขบวนการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ ขณะที่หนึ่งในคนไข้ เผยเข้ารักษาเพื่อยาส่งต่อให้นายหน้ารับซื้อยา ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

จับครบ 10 คนแล้ว แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวายบาดเจ็บ

จับครบตามหมายจับ 10 คน แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวายบาดเจ็บก่อนวันบลูเดย์ ทั้งหมดยังปากแข็งให้การภาคเสธ ตำรวจพบพฤติการณ์วางแผนครึ่งเดือน ถอดเสื้อมือยิง มีรอยแผลเป็นฟันเฟือง 4 อัน

จับแล้ว! มือยิง นศ.อุเทนก่อนวันบลูเดย์ พบทำเป็นขบวนการ

จับแล้ว! กลุ่มมือยิง นศ.อุเทนฯ ก่อนวันบลูเดย์ พบพฤติการณ์ทำงานเป็นทีม มีคนชี้เป้าให้ยิง มีคนพาแยกย้ายหลบหนี เร่งล่าอีก 1 คาดได้ตัวเร็วๆนี้

ข่าวแนะนำ

คนไทยเจ็บ 4 เหตุเครื่องบินรบเกาหลีใต้ทิ้งระเบิดพลาดขณะซ้อมรบ

โฆษก กต. เผยเหตุเครื่องบินรบเกาหลีใต้ทิ้งระเบิดพลาดในการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้-สหรัฐ มีคนไทยได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เตรียมเข้าผ่าตัด 1 คน พรุ่งนี้ (7 มี.ค.68) ส่วนอีก 3 คน บาดเจ็บเล็กน้อย

ล่าคนร้ายขว้างไปป์บอมบ์ถล่มป้อมรถไฟยะลา เจ็บ 6

คนร้ายป่วน จ.ยะลา 2 รอบ ขว้างไปป์บอมบ์ ชาวบ้านเจ็บระนาว ก่อนวางระเบิดซ้ำหน้าวัดขณะจัดงานบวช ผู้การยะลา สั่งยกระดับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ขั้นสูงสุด ไล่ล่าคนร้าย

คุมตัว 2 แม่ลูก ทำแผนฆ่าสามีใหม่ ลูกชายรับแค้นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่

ตำรวจคุมตัวสองแม่ลูกทำแผนฆ่าสามีใหม่ สารภาพรัดคอปลิดชีพ ก่อนนำศพไปทิ้งอำพราง ส่วนแรงจูงใจก่อเหตุ ลูกชายยอมรับแค้นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่

ยกหูคุยนายกฯ มาเลเซีย ร่วมแก้น้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก

นายกฯ ยกหูจากเยอรมนีคุย “นายกฯ มาเลเซีย” เตรียมความพร้อมร่วมมือแก้ปัญหาน้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก ผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตัม คาดเสร็จภายใน ต.ค.นี้