ร้อยเอ็ด 20 พ.ค.-โจรงัดตู้บริจาควัดบ้านอ้น จ.ร้อยเอ็ด ขณะช่างกำลังทดสอบกล้องวงจรปิด จึงแจ้งพระในวัดทราบแล้วโทรแจ้งตำรวจเพื่อจับกุม แต่คนร้ายไหวตัวทันหลบหนีไปได้
วันนี้ เวลา 13.00 น. ตำรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ด เดินทางไปที่วัดบ้านอ้น ต.ดงลาน อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด หลังจากได้รับแจ้งว่า มีคนร้าย 2 คน (หญิง-ชาย) ทำทีเข้าไปไหว้พระในวิหารร่มเย็นภายในวัดบ้านอ้น ฝ่ายชายพยายามที่จะงัดตู้บริจาคภายในวัดโดยให้ฝ่ายหญิงออกมาขอดูต้นทางอยู่นอกวิหาร แต่ช่างกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งกล้องหลายตัวรอบๆ วัด รวมทั้งภายในวิหารร่มเย็นพบว่าคนร้าย พยายามงัดตู้บริจาคจึงแจ้งให้พระและแม่ชีในวัดทราบแล้วโทรแจ้งตำรวจเพื่อจับกุมคนร้าย
แต่ปรากฏว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังไม่ถึง คนร้ายหญิงชายทั้ง 2 คนก็ไหวตัวออกมาจากวิหาร ขับขี่รถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน ขพต.171 อุดรธานี ซึ่งทั้งคู่ขับขี่มาจอดที่หน้าวัดหลบหนีไป ทางด้าน พระใบฎีกา ณัฏฐ์ขวัญ ขันติโก รองเลขาฯ พระมหาอุดร ธัมมปัญโญ เจ้าอาวาส วัดบ้านอ้น ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า คนร้าย 2 คน น่าจะเป็นสามีภรรยา เดินทางมามาที่วัดในขณะปลอดคน ด้วยการถือพวงมาลัยมาคนละพวง ไม่มีใครเอะใจอะไร เพราะคิดว่ามาทำบุญตามปกติ ก็ปล่อยให้เขาไปในวิหาร เพียงลำพัง 2 คน แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นไม่นานก็ได้รับแจ้งจากช่างติดตั้งวงจรปิดในวัด แจ้งว่า พบว่าทั้งคู่มีพฤติกรรมน่าสงสัยคล้ายๆ กับฝ่ายชายกำลังจะงัดตู้บริจาคภายในวิหารในขณะที่ ฝ่ายหญิง ออกไปอยู่ข้างนอก วิหารคล้ายๆจะคอยไปดูต้นทาง
หลังจากทราบพฤติกรรมน่าสงสัยดังกล่าว จึงรีบเข้าไปเพื่อที่จะตรวจสอบแต่ปรากฏว่าทั้งคู่เกิดไหวตัวทัน ไหว้พระเสร็จแล้วออกมายืนถ่ายภาพเซลฟี่ทั้งในและนอกวิหาร แล้วฉวยโอกาสที่ทุกคนกำลังตรวจสอบตู้บริจาคอยู่นั้น รีบขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปและก็ตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้ใช้เลื่อย ตัดสายยูที่ตู้บริจาคจนเกือบขาด ในลักษณะพยายามลักเงินในตู้บริจาค จึงโทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุและดูภาพของคนร้ายและบันทึกทั้งคลิปและภาพนิ่งของคนร้ายทั้ง 2 คน ซึ่งตามตำหนิรูปพรรณ ฝ่ายหญิงอ้วนท้วม มีรอยสักที่ไหล่ซ้าย และฝ่ายชายเป็นคนร่างสูงผอมสูง มีลักษณะเหมือนเกย์ ซึ่งรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตา เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
ในขณะที่แม่ชีเปรมกมลในวัดบ้านอ้น กล่าวว่ารู้สึกคุ้นๆ กับหน้าตาของทั้งคู่เพราะก่อนหน้านี้เมื่อ 2 คนนี้มาที่วัดเมื่อ 2 ครั้งก่อนตู้บริจาคในวัดก็โดนงัดโดยครั้งแรกได้เงินไป 300 บาท ครั้งที่ 2 ก็โดนงัดได้เงิน 800 บาท และครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ที่มางัดอีกครั้ง แต่มีคนเห็นในกล้องวงจรปิดเสียก่อน จึงไม่ได้เงินไป และทำให้มั่นใจว่า เหตุที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ 2 ครั้งก็น่าจะเป็นคนร้าย 2 คนนี้ที่มางัดตู้บริจาคภายในวัดแล้วลักเงินไป และจากการนึกย้อนกลับไปในเหตุการณ์ 2 ครั้งที่ผ่านมาทั้งคู่ก็ขี่รถจักรยานยนต์คันเดิมนี้มาก่อเหตุแล้วก็มาในเวลาหลังจากเที่ยงวันทุกครั้ง
ทางด้าน นายพิชิต สระสุศรี เจ้าของร้านรับติดตั้งวงจรปิด ซึ่งนำพนักงาน 3 คน มาตรวจสอบความเรียบร้อยของการติดตั้งกล้องวงจรปิดต่อจากเมื่อวานนี้ ด้วยการเช็คมุมของการติดตั้งกล้องวงจรปิด ภายในวัดและภายในวิหารกล่าวว่าตนเองว่าติดตั้งกล้องวงจรปิดตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่งานไม่เสร็จ และวันนี้ ก็มาเซ็ตระบบ
นายพิชิต เล่าว่าขณะที่คนร้ายหลบหนี ได้สั่งให้พนักงานที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดใช้โทรศัพท์บันทึกภาพผู้ก่อเหตุขณะที่เดินออกมาจากวิหาร พ้นมุมกล้องวงจรปิดแล้ว ด้วยการใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพรถจักรยานยนต์ของคนร้ายไว้ด้วยเพื่อมอบให้กับพนักงานสอบสวนติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
พนักงานสอบสวน กล่าวว่าจากการสอบสวนปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ ทุกคนเชื่อมั่นว่าคนร้ายทั้ง 2 รายนี้น่าจะเป็นผู้ก่อเหตุในการงัดตู้บริจาคของวัดไปแล้วเมื่อ 2 ครั้งที่ผ่านมาด้วย.-สำนักข่าวไทย