กกต. 17 พ.ค.- “ปิยบุตร” อ้างมีจดหมายน้อยแฉมีการเร่งรัด กกต. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ “ธนาธร” เรียกร้องเร่งคดีอื่นบนบรรทัดฐานเดียวกัน พร้อมเทียบเคียงคดีอื่นศาลไม่เคยสั่งใครยุติปฏิบัติหน้าที่
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ว่า ไม่แน่ใจว่า กกต.ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนายธนาธร ในฐานะที่เป็นผู้สมัคร ส.ส. หรือ ส.ส. ถ้าตรวจสอบในฐานะผู้สมัคร ก็ทำไม่ได้ เพราะเขาเป็น ส.ส.แล้ว
นายปิยบุตร กล่าวว่า จากเอกสารข่าว 6 บรรทัด พบว่า กกต.ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะตอนเป็น ส.ส.แล้ว ดังนั้น สถานะ ส.ส. นายธนาธรเริ่มต้นวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งเรื่องโอนหุ้นเสร็จสิ้นไปก่อนหน้านั้นแล้ว หรือแม้ว่าจะเป็นผู้สมัคร ก็ยืนยันว่าการโอนหุ้นตั้งแต่ 8 ม.ค.แล้ว เพราะทราบเรื่องคุณสมบัติการสมัคร ส.ส.เป็นอย่างดี จึงได้จัดการไปเรียบร้อย แต่เมื่อ กกต.ยื่นเรื่องแล้ว ก็พร้อมที่จะไปสู้ในชั้นศาล ยืนยันว่านายธนาธรมีความตั้งใจที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง
“ถ้าจะเล่นกันแบบนี้ ก็ขอให้ กกต.ใช้มาตรฐานเดียวกัน คือมาตรฐานข้อเท็จจริงแบบเดียวกัน เพราะมี ส.ส.จำนวนมาก มีปัญหาเรื่องการถือหุ้นสื่อ จะส่งศาลรัฐธรรมนูญให้หมดเลยหรือไม่ เพราะเกือบครึ่งสภา นอกจากนี้ เรื่องระยะเวลาควรเร่งรัดของคนอื่นเหมือนนายธนาธรด้วย” นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวว่า มีผู้หวังดี ทั้งโทรศัพท์ ส่งข้อความ และส่งจดหมายน้อยมาเตือนว่า มีการเข้ามากดดัน กกต.ให้เร่งรัดคดีนี้ แต่ไม่เชื่อจึงไม่ได้ออกมาชี้แจง คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่นายธนาธรเคยมาให้ถ้อยคำยังระบุว่า ให้ชี้แจงเพิ่มเติมได้ จึงไม่คิดว่า กกต.เร่งพิจารณา แม้ว่า กกต.และศาลรัฐธรรมนูญสามารถใช้อำนาจหน้าที่ได้ตามกฎหมาย แต่ควรระมัดระวัง เพราะอยู่ในสายตาสาธารณชน
ส่วนกรณีที่หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง แล้วจะสั่งให้นายธนาธรยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที จนไม่อาจเข้าร่วมรัฐพิธีได้นั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า เรื่องนี้หากเทียบเคียงกรณีที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่เคยสั่งให้ใครยุติการปฏิบัติหน้าที่ อย่างกรณีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประกาศ ก็ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น หากจะสั่งให้นายธนาธรก็ต้องมีเหตุผล ..- สำนักข่าวไทย