นนทบุรี 13 พ.ค. – เกษตรกรชาวสวนทุเรียน จ.นนทบุรี ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำเสียและน้ำเค็มรุกพื้นที่นานหลายเดือน ต้องลงทุนใช้น้ำประปารดต้นทุเรียนแทนน้ำจากคลองหรือร่องสวน หวั่นหากไร้การแก้ไขที่ยั่งยืน ทุเรียนพันธุ์ดั้งเดิมและเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดจะสูญพันธุ์
สวนทุเรียนของลุงสมนึก ทิมคำ ประธานกลุ่มอนุรักษ์ทุเรียนนนท์ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี กำลังเผชิญกับปัญหาน้ำเสียและน้ำเค็ม จากคลองบางรักใหญ่ ซึ่งเป็นคลองสาขาที่ไหลจากแม่น้ำเจ้าพระยา รุกมานานหลายเดือน ทำให้ทุเรียนที่ปลูกไว้ 80 ต้น บางต้นมีใบเหลือง เริ่มไหม้
ค่าความเค็มของน้ำจากร่องสวน พบว่าอยู่ที่ 0.37 พีพีที ส่วนน้ำคลองบางรักใหญ่ อยู่ที่ 0.34 พีพีที ซึ่งเกินมาตรฐานทั้ง 2 แห่ง ไม่สามารถนำมารดต้นทุเรียนได้ ปกติน้ำที่นำมาใช้ได้ต้องไม่เกิน 0.25 พีพีที ต้องแก้ปัญหาด้วยการใช้น้ำประปาแทน
เจ้าหน้าที่จากสำนักสิ่งแวดล้อมภาคที่ 6 นนทบุรี ลงพื้นที่ตรวจวัดคุณภาพน้ำคลองบางรักใหญ่ที่ไหลผ่านสวนลุงสมนึก พบว่า ดัชนีคุณภาพน้ำมีค่าออกซิเจนละลายน้ำ อยู่ที่ 3.28 มิลลิกรัม/ลิตร ซึ่งจัดอยู่ในประเภทที่ 2 คือ คุณภาพน้ำเสื่อมโทรม
แม้สวนทุเรียนใน จ.นนทบุรี ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำเสียและน้ำเค็มรุก แต่กลุ่มอนุรักษ์ทุเรียนนนท์ ซึ่งมีสมาชิกกว่า 200 คน ยืนยันจะสู้ต่อ เพื่อรักษาทุเรียนที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดไว้ แต่หากไร้การแก้ไขอย่างยั่งยืน ทุเรียนพันธุ์ดั้งเดิมของเมืองนนท์ อาจสูญพันธุ์ได้. – สำนักข่าวไทย