พ่อแม่เครียดเปิดเทอมใหม่ ค่าใช้จ่ายสูงรอบด้าน

กทม.13 พ.ค.-เปิดเทอมใหม่ ค่าใช้จ่ายประจำวัน-ค่าเล่าเรียน-ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ทำพ่อแม่เครียด อยากให้รัฐช่วยค่าเทอม ชุดอุปกรณ์การเรียนและเรียนฟรี พร้อมแก้ปัญหาเรื่องรถติดและค่าใช้จ่าย 


สถาบันวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอยูโพล) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่องเปิดเทอมใหม่2562 กรณีศึกษา : ตัวอย่างประชาชนอายุ 25 ปีขึ้นไปที่มีบุตรศึกษาอยู่ในระดับอนุบาล-มัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช.ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น1,216 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 27 เม.ย.–10 พ.ค.2562 ที่ผ่านมา พบว่า พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ (ร้อยละ92.69) มีบุตรที่กำลังเรียนอยู่ในระดับอนุบาล-มัธยมปีที่ 6/ปวช.จำนวน1-2 คน มีบางส่วน (ร้อยละ 7.31) มีบุตรที่กำลังเรียนอยู่ ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 82.30)อาศัยอยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ผู้ปกครอง อีกร้อยละ 24.12 อาศัยอยู่กับญาติ สำหรับเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนของบุตรนั้น ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 60.86) ระบุว่าตนและคู่สมรสร่วมกันร้บผิดชอบ อีกร้อยละ 32.89 ระบุตนเป็นผู้รับผิดชอบคนเดียว ที่เหลือระบุญาติเป็นผู้รับผิดชอบ 


ส่วนเงินที่นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนของบุตร พบว่าเก็บเงินเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว(ร้อยละ 67.05)บ้างก็รอเงินเดือนงวดล่าสุด (ร้อยละ 60.36) บางคนต้องนำทรัพย์สินไปจำนำ (ร้อยละ 17.59) และบางคนต้องหยิบยืมจากญาติพี่น้อง (ร้อยละ 12.63) เพื่อมาจ่ายเป็นค่าเล่าเรียนบุตร เป็นต้น 


สำหรับค่าใช้จ่ายในการเรียนหลักๆ ได้แก่ ค่าเทอม (ร้อยละ 95.23) ค่าชุดนักเรียน/เครื่องแบบ (ร้อยละ 81.41) ค่ากระเป๋า/อุปกรณ์การเรียน (ร้อยละ 64.64) ค่าเรียนพิเศษ (ร้อยละ 62.75) ค่าหนังสือเรียน (ร้อยละ 61.18) และค่ารองเท้า (ร้อยละ 60.20) เป็นต้น โดยครอบครัวส่วนใหญ่เตรียมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียนของบุตรทุกคนในช่วงเปิดเทอมนี้ไว้โดยเฉลี่ย 20,035 บาท

ด้านปัญหาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเรียนของบุตร ใน 5 อันดับแรก พบว่า มีค่าใช้จ่าย/ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น (ร้อยละ 76.01) ค่าเล่าเรียนสูงขึ้น (ร้อยละ70.89) ชุดนักเรียน/อุปกรณ์การเรียนแพงขึ้น (ร้อยละ 65.18) เงินอุดหนุนจากรัฐไม่เพียงพอ (ร้อยละ 22) และมีลูกที่ต้องเข้าเรียนเพิ่มขึ้น (ร้อยละ 20.02) เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้พ่อแม่ผู้ปกครองเกือบครึ่ง (ร้อยละ 48.48) มีความเครียดในเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียนของบุตรมากถึงมากที่สุด

เมื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองเปรียบเทียบสภาพการศึกษาของไทยในปัจจุบันกับที่ผ่านมา พบว่า ประมาณครึ่งหนึ่ง(ร้อยละ 49.42) มองว่าดีกว่าในอดีต อีกร้อยละ38.55 ระบุพอ ๆ กับในอดีต และเมื่อให้เปรียบเทียบมาตรฐานการ ศึกษาของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน พบว่าร้อยละ 40.17 เห็นว่าดีกว่าประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียน อีกร้อยละ 41.32 ระบุพอๆ กับประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียน รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ (ร้อยละ 42.33) ยังมั่นใจมากถึงมากที่สุดว่านโยบายและระบบการศึกษาของไทยจะช่วยพัฒนาบุตรของตนได้เป็นอย่างดี

ในแง่ของการส่งเสริมการเรียนและทักษะต่างๆ ให้แก่บุตรพบว่าร้อยละ 38.46 ให้เรียนพิเศษในโรงเรียนเพราะอยากให้อยู่ในการดูแลของครู ประหยัดค่าใช้จ่ายและช่วยเพิ่มความรู้ เป็นต้น อีกร้อยละ40 ให้เรียนพิเศษนอกโรงเรียนเพราะสถาบันติวมีคุณภาพ ครูมีความเชี่ยวชาญและให้บุตรมีสังคมใหม่ๆเป็นต้น ที่เหลือร้อยละ21.51 ยังไม่ได้วางแผน ส่วนทักษะที่ควรเสริมให้เด็กไทยใน 5 อันดับแรก ได้แก่ ด้านภาษา (ร้อยละ 93.39) ด้านอารมณ์ (ร้อยละ 43.19) ด้านคุณธรรม (ร้อยละ 31.30) ด้านการเข้าสังคม (ร้อยละ 29.64)และด้านกีฬา (ร้อยละ 29.15) เป็นต้น

ส่วนเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรหลาน ได้แก่ ช่วยเหลือค่าเล่าเรียนหรือลดค่าเล่าเรียน (ร้อยละ 77.33) เพิ่มเงินช่วยค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน (ร้อยละ 52.93) ให้เรียนฟรี โดยที่ผู้ปกครองไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม (ร้อยละ 50.43) เป็นต้น 

ส่วนปัญหาในช่วงเปิดเทอมที่อยากให้รัฐบาลช่วยแก้ไขคือปัญหาการ จราจร (ร้อยละ 66.50)  และค่าใช้จ่ายในการเรียนสูง (ร้อยละ 35.80)  เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย