กรุงเทพ ฯ 5 ธ.ค. – น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการด้านการวิจัยและคำปรึกษาระหว่างประเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ตลาดทุนโลกและตลาดทุนไทยในปี 2560 ยังคงมีความผันผวน เนื่องจากมีความไม่แน่นอนจากนโยบายของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ว่าจะปฏิบัติได้จริงตามการหาเสียงหรือไม่ และความคืบหน้าการเจรจาระหว่างสหราชอาณาจักร กับสหภาพยุโรป (อียู) จากผลการลงประชามติที่สหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากอียู (Brexit) รวมทั้งการเลือกตั้งในประเทศสหภาพยุโรปอีกหลายประเทศ ซึ่งกระแสข่าวที่ออกมาสร้างความผันผวนและทำให้นักลงทุนต้องตื่นตัวตลอดเวลา
นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะกระทบทำให้เงินทุนต่างชาติไหลออกจากประเทศไทย และ ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่กลับไปยังสหรัฐ ดังนั้นตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลง เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอีก
อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่ากองทุนต่างชาติ และ นักลงทุนต่างประเทศ ยังให้ความสนใจการลงทุนในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจยังมีความแข็งแกร่ง และ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ยังสูงถึงร้อยละ 5 ซึ่งประเทศไทยก็น่าจะได้รับอานิสงค์ด้วยเช่นกัน เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี2560 มีโอกาสขยายตัวร้อยละ 3.2 จากร้อยละ 3 ในปีนี้ โดยยังมีหลายปัจจัยบวก ทั้งการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาเที่ยวไทยยังเติบโตได้ดี และ เป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งภาคการส่งออกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยคาดการณ์การส่งออกปี 2560 จะขยายตัวร้อยละ 0-1
ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งหากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยจริงในอัตราที่ตลาดคาดการณ์ คาดว่าผลกระทบต่อตลาดหุ้นคงมีไม่มาก เพราะที่ผ่านมานักลงทุนรับทราบข่าวมามากแล้ว
นางเกศรา กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นโลก และ ตลาดหุ้นไทย ในปี 2560 อยู่ภายใต้ความผันผวน เนื่องจากปีหน้าเป็นปีของการเปลี่ยนแปลง ทั้งนโยบายการค้าของประเทศต่าง ๆ โดยพาะสหรัฐ ที่เน้นการปกป้องสินค้าในประเทศ มากกว่าการเปิดเสรีการค้า ซึ่งคงมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยแน่นอน แต่คาดว่าคงไม่มากนัก เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยลดสัดส่วนพึ่งพิงการส่งออก และ หันมาเน้นการบริโภคในประเทศมากขึ้น ประกอบกับการค้าระหว่างไทย กับ กลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ยังขยายตัวได้ดีมาทดแทนตลาดสหรัฐ จึงเชื่อว่าพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของไทยจะสามารถรับมือกับความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าได้-สำนักข่าวไทย