พรรคเพื่อไทย 30 เม.ย.-เพื่อไทยเดินหน้าเอาผิดชาญวิทย์ กก.บห.พปชร.ปมถือหุ้นสื่อ พร้อมร้องยุบพรรคพปชร.ด้วย เตรียมเสนอเรื่องให้กกต.พรุ่งนี้
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค แถลงกรณีการถือหุ้นสื่อของนายชาญวิทย์ วิภูศิริ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถือหุ้นสื่อ โดยนายปลอดประสพได้เซ็นเอกสารมอบอำนาจให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคไปดำเนินการกับนายชาญวิทย์ต่อหน้าสื่อมวลชน พร้อมแถลงว่า มี 5 ประเด็นหลักที่จะเสนอต่อสื่อมวลชน คือ 1.ฝ่ายรัฐบาลและทหารพูดเสมอว่าประเทศต้องปกครองภายใต้กฎหมาย จึงอยากจะจรรโลงสิ่งเหล่านี้ 2.อยากร้องเรียนเรื่องการตัดสินคดีต่าง ๆ ที่ไม่มีความเท่าเทียม ไม่ได้มาตรฐาน จึงอยากให้เกิดความมั่นใจในส่วนนี้
“3.จะร้องกรณีนายชาญวิทย์ถือหุ้นสื่อ 4.นายชาญวิทย์ และคณะกรรมการบริหารพรรคพปชร.ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในลักษณะยอมรับแล้วว่าถือหุ้นสื่อจริง และ 5.ตนและพรรคได้หารือกันแล้ว โดยพรรคมอบหมายให้ตนดำเนินการให้จบสิ้นกระบวนความ โดยการไปร้องนายชาญวิทย์ทั้งในสถานะส่วนตัวและในฐานะกรรมการบริหารพรรคพปร. ซึ่งการร้องเรียนนี้อาจทำให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ และการที่นายชาญวิทย์เป็นกรรมการบริหารพรรคอาจส่งผลต่อพรรคพปชร. ซึ่งผมจะยื่นร้องต่อกกต.ให้จัดเลือกตั้งใหม่ และให้กกต.พิจารณากรณีถือหุ้นสื่อ หากกกต.เห็นว่ามีความผิดจริงให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพปชร. โดยผมได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายพรรคไปยื่นเรื่องต่ออกกต.ในวันพรุ่งนี้(1 พ.ค.) เวลา 10.00 น.” นายปลอดประสพ กล่าว
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีข้อพิสูจน์แล้ว คือ 1.ขณะรับสมัครรับเลือกตั้งนายชาญวิทย์เป็นเจ้าของและถือหุ้นในบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการสื่อทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 42(3) ดังนั้น นายชาญวิทย์ถือเป็นบุคคลเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามกฏหมาย และ 2.บุคคลใดที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งนายชาญวิทย์ในฐานะกรรมการบริหารพรรคจะต้องเซ็นรับรองด้วย แสดงว่ากรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็น รับรู้ และส่งผู้สมัครโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ถือว่ากรรมการบริหารพรรคกระทำผิดกฎหมายเสียเอง
“ด้วยเหตุนี้กรรมการบริหารพรรคจะต้องรับผิดชอบในทางกฎหมายด้วย ดังนั้นหากกกต.วินิจฉัยว่ามีความผิด กกต.มีอำนาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยใช้ยุบพรรค โดยระหว่างนั้นกกต.จะต้องเพิกถอน สิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลนั้นเป็นการชั่วคราว และหากผู้สมัครมีโอกาสได้รับเลือกตั้งหรือมีคะแนนเป็นอันดับหนึ่งต้องระงับการประกาศผลการเลือกตั้งและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่” นายชูศักดิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
