คาดเงินสะพัดวันแรงงานปีนี้ 2.2 พันล้านบาท

กรุงเทพฯ 29 เม.ย. –  ม.หอการค้าไทยคาดวันแรงงานปีนี้มีการใช้จ่ายกว่า 2,200 ล้านบาท แต่พบส่วนใหญ่มีหนี้สินเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 158,000 บาทต่อครัวเรือน 


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ทำการสำรวจ “สถานภาพแรงงานไทย : กรณีศึกษาผู้มีรายได้ ต่ำกว่า 15,000 บาท” จาก 1,200 ตัวอย่างทั่วประเทศ ในกลุ่มอาชีพข้าราชการ รับจ้าง พนักงานเอกชนรัฐวิสาหกิจ และรับจ้างรายวัน พบว่า ส่วนใหญ่จะมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 10,000 -15,000 บาท โดยสัดส่วนร้อยละ 86.2 ไม่มีเงินออม ทำให้แรงงานถึงร้อยละ 95 มีภาระหนี้สินจากการกู้ยืมมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ที่อยู่อาศัย และยานพาหนะ โดยเฉลี่ยจำนวนหนี้สินต่อครัวเรือนประมาณ 158,000 บาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ยังมีสัดส่วนการกู้เงินในระบบสูงกว่า ซึ่งต้องผ่อนชำระประมาณเดือนละ 7,200 บาท และในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ยังคงเจอปัญหาผิดนัดชำระหนี้ เพราะมีคาใช้จ่ายเดือนชนเดือน และรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย จากราคาสินค้าและค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมทั้งยังมองว่าเศรษฐกิจในประเทศยังทรงตัว ทั้งนี้ แรงงานส่วนใหญ่ เห็นว่าค่าจ้างขั้นต่ำปัจจุบัน มีความเหมาะสมในระดับปานกลางเท่านั้น จึงอยากให้มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แม้จะไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ แต่อย่างน้อยก็ปรับเพิ่มให้เท่ากับค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง และราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น

ส่วนกิจกรรมในช่วงวันแรงงาน จะไปท่องเที่ยวตามสถานที่จัดงานแรงงาน ดูหนัง  สังสรรค์และไปซื้อของ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 2,164 บาท ทำให้คาดว่ามูลค่าการใช้จ่ายในวันแรงงานปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2,232 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยยังต้องติดตามประเด็นภาระหนี้ต่อครัวเรือน ที่แม้จะยังมีสัดส่วนการกู้ยืมในระบบที่สูงกว่า แต่เริ่มมีการกู้นอกระบบมากขึ้นจากปีก่อนหน้า ที่ร้อยละ 34 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 41.8 ในปีนี้ เนื่องจากแรงงานมีการกู้ในระบบเต็มแล้ว จากปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่รายได้ยังพอดีกับรายจ่าย หรือรายได้ยังน้อยกว่ารายจ่าย ทำให้ยังต้องกู้ยืมเงิน ซึ่งรัฐบาล ควรแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ เช่น การปรับโครงการธงฟ้าเฉพาะในกลุ่มที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อแรงงาน 


อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจแรงงานที่ออกมาถือว่าปีนี้แม้ลูกจ้างยังต้องการค่าจ้างแรงงานเพิ่ม แต่ทุกคนก็เข้าใจนายจ้างมากขึ้น เพราะหากปรับค่าจ้างแรงงานเพิ่มจะกระทบต่อนายจ้างและไม่เป็นผลดีกับลูกจ้างหากให้ออกจากงานการหางานใหม่จะลำบากมากในช่วงนี้ แต่ก็อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ที่คาดว่าจะได้ภายในสิ้นปีนี้ช่วยดูแลเรื่องค่าแรงงานและสวัสดิการอื่น ๆ ดังนั้น หลายปัจจัยที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกน่าจะเติบโตเพียงร้อยละ 3.2-3.3 ซึ่งอยู่ในช่วงซึมลงจากหลายสาเหตุ ทำให้คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย โดยใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น แต่เมื่อทุกอย่างดีขึ้นครึ่งปีหลังมีรัฐบาลใหม่เศรษฐกิจน่าจะเติบโตถึงร้อยละ 4 ทำให้เศรษฐกิจไทยโดยรวมทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ 3.5-3.8 และยังมองว่าประเทศไทยยังจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านด้านการท่องเที่ยวและภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยผ่านมาตรการต่าง ๆ อย่างเหมาะสมกันต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน

ย้อนรอยเส้นทางชีวิต “บิ๊กโจ๊ก”

เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่เส้นทางตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ต้องยุติลง หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ จากนี้ชะตาชีวิต “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ว่าจะได้กลับมาสวมชุดตำรวจอีกหรือไม่

“ปานเทพ” เปิดหลักฐานสัญญาชัด 71 ล้านเป็นชื่อ “มาดามอ้อย”

“อ.ปานเทพ” เปิดหลักฐานหนังสือสัญญาบอกชัด 71 ล้านบาท เป็นชื่อ “มาดามอ้อย” เปิด 3 รายชื่อให้เร่งตรวจสอบ หวั่นโยกย้ายทรัพย์สิน