สาววัย 32 ขอบริจาคเงินสู้คดีพนง.แบงก์ปลอมลายเซ็นกู้เงิน



ลำปาง 23 ส.ค.- สาววัย 32 ลูกจ้าง อบจ.ลำปาง นั่งขอรับบริจาคเพื่อนำไปเงินไปสู้คดี หลังถูกพนักงานแบงก์ปลอมลายเซ็นกู้เงิน หนี้โผล่ร่วมแสนบาท


23-8-2559 23-37-03 23-8-2559 23-37-36

วันนี้ ( 23 ส.ค.) ที่บริเวณหน้ามุขศาลากลางจังหวัดลำปาง น.ส.วรณัน ณ ลำพูน อายุ 32 ปี ซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว อบจ.ลำปาง นำกระป๋อง และป้ายขอความเป็นธรรมและขอรับบริจาคเงินรวม 100,000 บาท เพื่อใช้ในการต่อสู้คดีเนื่องจากจะถูกยึดบ้าน ซึ่งเป็นหนี้ที่ตนเองไม่ได้ก่อขึ้น

น.ส.วรณัน ณ ลำพูน เปิดเผยถึงสาเหตุมานั่งขอบริจาคเงินในครั้งนี้ว่า เนื่องจากตนเองถูกพนักงานธนาคารปลอมลายเซ็นในการเปิดบัตรเครดิตซึ่งมียอดเกือบ 80,000 บาท และปลอมเอกสารเพื่อขอกู้เงินอีกถึง 60,000 บาท โดยที่ตนเองไม่ทราบเรื่องมาก่อน แต่ยอมรับว่าเคยไปขอสมัครเปิดบัตรวีซ่าจริง แต่ทางธนาคารไม่เคยติดต่อมา ตนเองจึงคิดว่าทางธนาคารไม่อนุมัติจึงไม่ได้สนใจใดๆ อีก จนกระทั่งมีหนังสือจากทางธนาคารมาถึงว่าให้ไปชำระค่าบัตรดังกล่าว จึงได้ไปตรวจสอบเอกสารต่างๆ ซึ่งพบว่าพนักงานของธนาคารปลอมเอกสารการสมัครบัตรเครดิต


นส.วรณัน กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้ไปเปิดสมุดบัญชีของธนคารรัฐแห่งหนึ่งเพื่อทางหน่วยงาน คือ อบจ.ลำปาง ใช้ในการโอนเงินเดือนต่างๆ ผ่านบุญชีธนาคาร และได้ไปขอสินเชื่อบัตรเครดิตไว้แต่ก็ไม่มีการตอบกลับมาของธนาคารซึ่งตนเองคิดว่าธนาคารคงไม่อนุมัติแล้วจึงไม่ได้ติดใจอะไร หลังจากนั้นก็มีเงินโอนเข้าบัญชีซึ่งก็มีทั้งเงินเดือน เงินโอทีและอื่นๆ ซึ่งตนเองไม่รู้ว่าเป็นเงินค่าอะไรบ้าง ต่อมาปรากฎภายหลังว่าธนาคารมีการโอนเงินเข้าบัญชีให้ 10,000 บาท ซึ่งตนเองก็ยินยอมชำระเพราะได้นำเงินทั้งหมดไปใช้แล้วเนื่องจากไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นเงินที่ธนาคารโอนมาให้ และหลังจากนั้นก็แปลกใจว่าทำไมมีการหักเงินในบัญชีโดยไม่ทราบว่าเหตุ

ก่อนหน้าที่จะไปแจ้งความร้องทุกข์ทางธนาคารได้ติตต่อผ่านทางผู้บริหารของ อบจ.ลำปาง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงเพื่อพูดคุยในเรื่องนี้ โดยพนักงานธนาคารได้ยอมรับว่าการที่ปลอมลายมือชื่อเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเท่านั้น ซึ่งตนเองขอให้พนักงานธนาคารรับผิดชอบเงินที่ธนาคารฟ้องพร้อมค่าใช้จ่ายรวม 80,000 บาท และก็รอสุดท้ายก็ไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ออกมาอีกเลย จึงตัดสินใจแจ้งความ และหลังจากนั้นตนเองได้ถวายฎีกาไปแล้ว และสำนักราชเลขาได้มีหนังสือมายังอัยการเพื่อให้ดูแลและให้ความเป็นธรรมกับตนเอง แต่จนถึงขณะนี้ปีกว่าแล้วยังไม่มีความคืบหน้า

“ตนเองไม่มีเงินสู้คดีเป็นเพียงพนักงานจ้างชั่วคราวซึ่งจะหมดสัญญาในเดือน ก.ย.นี้ และก็ยังไม่ทราบว่าทาง อบจ.ลำปาง จะต่อสัญญาอีกหรือไม่ เกรงจะถูกยึดบ้าน ซึ่งเป็นทรัพย์สินของพ่อแม่ที่เหลืออยู่เพียงชิ้นสุดท้ายเท่านั้น แต่ก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายทั้งๆ ที่ตนเองไม่ใช่ผู้ก่อหนี้ ผู้ที่กระทำกลับลอยนวลไม่ได้รับผิดชอบใดๆ เลย ตนเองหมดหนทางแล้วจึงได้มานั่งขอทานเพื่อหาเงินไปใช้ต่อสู้คดีในครั้งนี้” นส.วรณัน กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง