อย. 28 เม.ย..-อย.จัดประชุมจับคู่ระหว่างสถาบันการศึกษา กับกลุ่มที่คาดว่ามีกำลังการผลิต สารสกัดกัญชา และโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้มีรูปแบบหรือโมเดลของคณะเภสัชศาสตร์จุฬาฯ ที่ทำร่วมกับ อ.เดชา โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นรูปแบบกลาง ย้ำแจ้งการครอบครองกัญชาวันสุดท้าย ตรงกับวันที่ 21 พฤษภาคม นี้
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยภายหลังการประชุมประสานความร่วมมือดำเนินการเกี่ยวกับการผลิตกัญชาทางการแพทย์และการศึกษาวิจัย เพื่อประสานความร่วมมือระหว่างภาคการผลิต การวิจัย และการใช้ประโยชน์ เพื่อให้เกิดการผลิตและการนำไปใช้ประโยชน์โดยเร็ว อย่างมีคุณภาพและปลอดภัย หรือการจับคู่ ระหว่างมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลและกลุ่มที่คาดว่ามีกำลังการผลิตกัญชา เพื่อให้เกิดความร่วมมือภายในพื้นที่ โดยมี องค์การเภสัชกรรม กรมการแพทย์ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ขอนแก่น ม.เชียงใหม่ ม.สงขลานครินทร์ ม.นเรศวร ม.วลัยลักษณ์ ม.มหิดล ม.รังสิต สภาเกษตรกรแห่งชาติ และหน่วยงานที่สนับสนุนการวิจัย เป็นต้น โดยลักษณะของการจับคู่จะเป็นการจับกันในพื้นที่ ระหว่างสถาบันการศึกษา/ กลุ่มที่คาดว่ามีกำลังการผลิต /และภาคบริการคือโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้มีรูปแบบหรือโมเดลของคณะเภสัชศาสตร์จุฬาฯ ที่ทำร่วมกับ อ.เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี เป็นรูปแบบกลาง ซึ่งจะส่งให้แต่ละแห่งดูเป็นตัวอย่างในการจับคู่ แต่หากจะจับคู่ในรูปแบบอื่นก็สามารถดำเนินการได้ หากจับคู่ออกมาในรูปแบบคล้าย ๆ กันในลักษณะของการวิจัย ก็จะได้ข้อมูลผู้ป่วยที่ใช้อยู่ทั้งประเทศในภาพรวม ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการทำโครงการต่อไป รวมถึงเป็นวิธีช่วยให้ผู้ป่วยที่มีการใช้ยากัญชาอยู่แล้ว ได้ใช้ยาต่อไปในรูปแบบของการมาร่วมวิจัยโดยไม่ต้องขาดยา นอกจากนี้ทางสภาเกษตรกรแห่งชาติแจ้งว่ากลุ่มสภาเกษตรกร รวมถึงวิสาหกิจชุมชนย่อยที่มีกำลังการผลิต 10 กว่าแห่ง ยินดีที่จะร่วมจับคู่ด้วย ซึ่งหากเกิดการจับคู่กับหน่วยงานภาครัฐที่ขออนุญาตไปแล้วก็สามารถร่วมมือกันได้ทันที โดยทาง อย. ยินดีที่จะเป็นพี่เลี้ยงให้
นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการมาแจ้งครอบครองกัญชาโดยไม่ต้องรับโทษขณะนี้ มีประมาณ 6 พันกว่าคน ซึ่งจำนวนผู้มาแจ้งครอบครองกัญชาจะเป็นตัวเลขพื้นฐานที่ใช้ในการเตรียมระบบและเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ เพื่อเตรียมยาไว้สำหรับคนกลุ่มนี้ ดังนั้น การมาแจ้งครอบครองจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยจะหมดเขตแจ้งครอบครองกัญชาทางการแพทย์ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 แต่เนื่องจากวันที่ 19 พฤษภาคม ตรงกับวันหยุดราชการ ดังนั้น จึงให้มาแจ้งการครอบครองได้ในวันทำการถัดไป ซึ่งจะตรงกับวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 นี้ จึงขอให้รีบมาแจ้งครอบครอง โดยด่วน
สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพ ทั้งแผนปัจจุบันและแผนไทย ที่จะใช้ยาที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ ต้องได้รับการอบรมหลักสูตรจากกระทรวงสาธารณสุข หรือหลักสูตรที่กระทรวงสาธารณสุขให้การรับรอง ซึ่งปัจจุบันมีเฉพาะกรมการแพทย์ และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเท่านั้น แพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกร อบรมกับกรมการแพทย์ ส่วนแพทย์แผนไทย แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้าน อบรมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ส่วนการอบรมในหลักสูตรอื่นๆ ที่กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ให้การรับรอง จะไม่สามารถนำมาใช้ประกอบการขออนุญาตเพื่อใช้กัญชากับผู้ป่วยได้.-สำนักข่าวไทย