กทม. 26 เม.ย.- เจ้าของนาฬิกาหรู”ริชาร์ด มิลล์”ให้การเพิ่ม บอกถ้าเอามาคืนไม่ติดใจเอาความ ตำรวจได้ภาพคนร้ายแล้วจ่อขอหมายจับ
ความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์นาฬิกายี่ห้อหรู ริชาร์ด มิลล์ (Richard Mille) มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ระหว่างผู้เสียหายนำมาให้ลูกค้าในคราบคนร้ายดูในโรงแรมย่านสุทธิสาร เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา
ผู้เสียหายวัย 43 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว เปิดเผยหลังเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ สน.สุทธิสาร ว่า มาให้ปากคำเพิ่มเติมเรื่องเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี มุ่งหน้าไปทางห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งตำรวจได้นำภาพของผู้ต้องสงสัย 2 คนมาให้ดูเบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใช่หรือไม่ โดยคนร้ายมีรูปพรรณสัณฐานเป็นชายสูงประมาณ 180 เซนติเมตร ผิวขาวเหลือง อายุ 20 ปลายๆ พูดภาษาไทยชัดเจน
ผู้เสียหายย้อนเรื่องราวให้ฟังว่า ได้ประกาศขายนาฬิกายี่ห้อ Richard Mille รุ่น 011-03 TI ตัวเรือนสีบรอนซ์ สายสีเหลือง มูลค่า 5.28 ล้านบาท ผ่านทางเพจในเฟซบุ๊ค และวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา คนร้ายได้ใช้ชื่อเฟซบุ๊คปลอม ชื่อ Polamet Arleen ติดต่อมาสอบถามราคาและนัดดูสินค้า ตนจึงนัดในวันเกิดเหตุช่วง 3 ทุ่ม และเริ่มสังเกตและตรวจสอบประวัติเลยคิดว่าน่าจะไม่ได้มาซื้อนาฬิกาจริงๆเลยไม่ไปตามนัดในเวลา 3ทุ่ม แต่คนร้ายได้โทรมาบ่อยครั้ง จึงให้มาดูนาฬิกาอีกครั้งที่ล็อบบี้โรงแรมที่ตนพักในเวลาประมาณตี 1 เมื่อคนร้ายมาถึงตนก็ยื่นนาฬิกาให้ตรวจสอบ เพียง 2 นาที คนร้ายก็ชักอาวุธปืนขึ้นมา ก่อนวิ่งหนีออกจากโรงแรมไปขึ้นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีเเดงดำ ไม่ทราบทะเบียน จอดทิ้งไว้หน้าปากซอยลาดพร้าว 4 ตนวิ่งตามไป โดยไม่เกรงกลัวกระสุนที่คนร้ายยิงข่มขู่เพราะอยากได้นาฬิกาคืน หากคนร้ายนำนาฬิกามาคืนตนก็ไม่ติดใจเอาความ และเชื่อว่าในประเทศ ไม่มีใครกล้ารับซื้อเพราะมีมูลค่าสูงและต้องมีใบประกัน ถ้าขายต้องนอกประเทศเท่านั้น ทั้งนี้ยอมรับว่าเกิดจากความประมาทของตนที่ไม่ได้ตรวจสอบประวัติผู้ติดต่อขอซื้ออย่างละเอียดเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมาและผิดวิสัยที่จะนัดหมายซื้อนาฬิกาในช่วงเวลาดังกล่าว
ด้านพันตำรวจเอกชุมพล ชาญชนะโยธิน รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยแนวทางการสืบสวนโดยคาดว่า คนร้ายที่ก่อเหตุมีเพียงคนเดียว อยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐาน บริเวณจุดเกิดเหตุ ไล่ไปตามเส้นทางที่ใช้หลบหนี ส่วนพฤติกรรมคนร้ายที่ลงมือยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นมืออาชีพ หรือเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาก่อนหรือไม่
ล่าสุดมีรายงานว่า ตำรวจได้ภาพคนร้ายที่ก่อเหตุ จากวงจรปิดในจุดเกิดเหตุแล้ว อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติศาลออกหมายจับชายคนดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย