แนะ 5 วิธีรับมือช่วงหน้าร้อน ลดอุณภูมิใจ

กรมสุขภาพจิต 23 เม.ย.-กรมสุขภาพจิต ห่วงประชาชนเกิดความเครียดในช่วงหน้าร้อน แนะ 5 วิธีรับมือ ‘มีสติรู้ตัวจัดการกับความเครียดได้-ไม่ปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ-ทานอาหารมีประโยชน์-พักผ่อนเพียงพอ-หลีก เลี่ยงการอยู่กลางแดดร้อนจัด’


นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสภาพอากาศร้อนในขณะนี้ ว่า มีความเป็นห่วงปัญหาสุขภาพจิตของประชาชน ซึ่งในช่วงอากาศร้อนย่อมส่งผลต่อสภาพจิตใจ โดยเฉพาะผู้มีความเครียดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความเครียดเพิ่มในใจได้ไม่ว่าจะเครียดจากเรื่องการเงิน การงาน การเรียน ปัญหาสุขภาพหรือปัญหาส่วนตัว หากไม่มีวิธีการจัดการกับความเครียดที่ดี เมื่อเจอสภาพอากาศที่ร้อนเข้าไปอีก ย่อมเพิ่มความเครียดให้สูงขึ้นได้ ทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียว โมโหง่ายขึ้น ทนต่อความเครียดน้อยลง เครียดง่ายกว่าปกติหากมีอะไรมากระตุ้นกับจิตใจและอาจตัดสินใจโดยไม่ยั้งคิด ทำให้เกิดการกระทบกระทั่ง ทะเลาะเบาะแว้ง และอาจใช้ความรุนแรง เนื่องจากไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้


อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า กรมสุขภาพจิตมีข้อแนะนำในการรับมือเพื่อลดอุณภูมิใจไม่ให้เครียด ช่วงหน้าร้อน ด้วย 5 วิธี ดังนี้ 1.มีสติรู้ตัว รู้วิธี การจัดการกับอารมณ์และความเครียดที่เกิดขึ้น ย่อมช่วยลดอุณภูมิใจไม่ให้สูงขึ้นไปกับสภาพอากาศที่ร้อนได้ 2.ไม่ปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว 3.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลี่ยงอาหารรสจัด และเผ็ดร้อน 4.พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อยวันละ6-8ชั่วโมง 5.หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดร้อนจัด และหากต้องอยู่กลางแดดร้อนจัดติดต่อกันนาน ควรสวมหมวกหรือกางร่ม สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบายระบายความร้อนได้ดี ใส่แว่นตากันแดด ทาครีมกันแดด สลับกับการพักเป็นระยะในที่ร่ม เพื่อลดอารมณ์หงุดหงิดจากอุณภูมิที่ร้อนจัด


นอกจากนี้ ขอให้หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากการมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์จะทำให้ขาดสติ ทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมได้ง่าย หากประชาชนยังมีความเครียด ไม่สบายใจ โทรศัพท์ขอรับคำปรึกษาได้   ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]