กรุงเทพฯ 22 เม.ย. – พื้นที่ภาคเหนือยังครองแชมป์จังหวัดร้อนที่สุดในประเทศ มีมากถึง 4 จังหวัดที่อุณหภูมิทะลุ 40 องศาฯ สูงสุดอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ ขณะที่มีผู้โพสต์ภาพมือถือระเบิดในรถจากอากาศร้อนจัด
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศสถิติอุณหภูมิสูงสุดของประเทศ วันนี้ (22 เม.ย.) ยังอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ณ เวลา 16.00 น. พื้นที่ร้อนสุดอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ 41.5 องศาเซลเซียส รองลงมา จ.แม่ฮ่องสอน 41.1 องศาเซลเซียส, แพร่ 41 องศาเซลเซียส, พิจิตร 40 องศาเซลเซียส และตาก 39.6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอีสาน อุณหภูมิในภาพรวมลดลงจากเมื่อวาน พื้นที่ร้อนสุดอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ 39 องศาเซลเซียส รองลงมา จ.สุรินทร์ 38.6 องศาเซลเซียส, ศรีสะเกษ เลย ขอนแก่น อุดรธานี 38.5 องศาเซลเซียส, หนองบัวลำภู 37.7 องศาเซลเซียส และนครราชสีมา 37.5 องศาเซลเซียส
อากาศร้อนจัดจนมีผู้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กภาพเหตุการณ์กระจกหน้ารถกระบะสีดำ ฝั่งที่นั่งข้างคนขับ มีลักษณะคล้ายถูกอะไรบางอย่างระเบิดใส่จนแตกเป็นรูใหญ่ โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “บทลงโทษคนขี้ลืม พังหมดเลย” และได้ตอบคอมเมนต์ใต้โพสต์ว่า สาเหตุเกิดจากลืมโทรศัพท์มือถือไว้ในรถที่จอดตากแดด
กรณีนี้ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ บอกว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจเกิดจากมือถือระเบิด หากจอดรถทิ้งไว้กลางแดดร้อนจัด ไม่ติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ หรือปิดกระจกมิดชิด ซึ่งจากภาพที่ปรากฏ รถคันดังกล่าวมีการติดฟิล์มกันความร้อน แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพฟิล์มที่ใช้ด้วย จากสภาพอากาศในช่วงนี้ อาจทำให้อุณหภูมิในรถสูงถึง 55-60 องศาเซลเซียส และหากแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือเสื่อม หรือมีคุณภาพต่ำ เมื่อเจอความร้อน ตัวฉนวนที่ป้องกันความร้อนอาจฉีกขาดไม่สามารถป้องกันได้ ทำให้เกิดการช็อต ประกอบกับตัวลิเธียมไอออนในแบตเตอรี่ติดไฟได้ จึงอาจทำให้เกิดการระเบิดขึ้นได้
นอกจากนี้ ยังมีไฟแช็ก สเปรย์กระป๋อง และลูกโป่งสวรรค์อัดแก๊สไฮโดรเจน ซึ่งมีเชื้อเพลิงภายใน หากโดนความร้อนสูง อาจบวมและเกิดการระเบิดได้เช่นกัน พร้อมแนะเลี่ยงจอดรถกลางแดด ไม่วางสิ่งของเหล่านี้ไว้ด้านหน้าคอนโซลรถ ควรเก็บสิ่งของต่างๆ ไว้ที่กระโปรงท้ายรถ เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย