รวมมิตรเศรษฐกิจเรื่องร้อน รวมเรื่องปวดใจคนไทย

กรุงเทพฯ 22 เม.ย.-บ่นกันระงมค่าโดยสารรถสาธารณะขยับขึ้นวันนี้ แถมค่าไฟแพงเปิดแอร์บรรเทาร้อน โซเชียลแชร์บิดเบือนระบุค่าเอฟทีขึ้น 4 บาท/หน่วย รัฐมนตรีพลังงานแจงขึ้นแค่ 4 สตางค์เศษเท่านั้น


วันนี้นับเป็นวันที่เรื่องราวทางข่าวเศรษฐกิจร้อนแรงไม่แพ้อุณหภูมิอากาศที่ร้อนจะมีหลากหลายเรื่องจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น  ศาลปกครองสูงสุด ได้อ่านคำพิพากษายกคำร้อง กรณีให้เพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ คดีโฮปเวลล์ และให้ กระทรวงคมนาคม โดยรฟท. ต้องจ่ายคืนเงินค่าก่อสร้างแก่บริษัทโฮปเวลล์รวม 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 180 วัน โครงการนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2533 แต่เกิดปัญหาต้มยำกุ้งโครงการหยุดก่อสร้งปี 40-41 ทั้งโฮปเวลล์ต่างโทษกันไปมาว่าเป็นความผิดของแต่ละฝ่าย ต่างคนต่างฟ้องศาล ปี 51 อนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้กระทรวงคมนาคมต้องจ่ายค่าเสียหายให้โฮปเวลล์,ปี 2557 ศาลปกครองกลางเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ ,โฮปเวลล์ยื่นอุทธณ์ และศาลปกครองสูงสุดก็ได้มีคำพิพากในวันนี้ ซึ่งที่ผ่านมาตอม่อโฮปเวลล์ที่ตั้งอยู่ริมถนนวิภาวดี-รังสิตเป็นเหมือนอนุสาวรีย์เตือนความจำยาวนานมาเกือบ 30 ปี แต่มาวันนี้ถูกรื้อถอนไปแล้ว เพื่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง แต่สิ่งที่บาดลึกในวันนี้ คือคนไทยต้องจ่ายกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจากโครงการโฮปเวลล์นี้เลย โดยวันพรุ่งนี้ทั้ง ครม. และบอร์ดการรถไฟก็จะมีการหารือในประเด็นแนวทางปฏิบัติ ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด


วันนี้ก็เป็นวันขึ้นค่าโดยสารรถสาณะทั้งรถเมล์ รถบขส. และรถร่วมเป็นวันแรกหากไปดูในโซเชียลมีเดียก็บ่นกันระงม บางคนโยงไปการเมืองตอนก่อนเลือกตั้งไม่ขึ้นราคา มีการหาเสียงช่วยค่าครองชีพแต่หลังเลือกตั้งก็ขึ้นราคาแสนแสนแพง ซึ่งทางสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไปยื่นฟ้องคัดค้านและศาลปกครองกลางนัดไต่สวนวันนี้ แต่ยังไม่มีคำสั่ง เนื่องจากศาลฯ ขอข้อมูลต้นทุนการเดินรถจาก ขสมก. และ บขส. เพื่อพิจารณาประกอบก่อนจะมีคำสั่งวันที่ 24 เมษายนนี้ 


นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง กล่าวว่า การขึ้นค่าโดยสารมีความจำเป็น เพราะต้นทุนการเดินรถผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระอย่างหนัก และจากข้อมูลกรมการขนส่งทางบก ระบุว่าผู้ประกอบการต้องเลิกการเดินรถประมาณ 500 คัน แต่ข้อเท็จจริงขอยืนยันว่าผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงราคาก๊าซที่ปรับสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหยุดเดินรถไปแล้ว 2,000 คัน และหากครั้งนี้ไม่ได้ปรับอีกผู้ประกอบการอีกกว่า 1,000 คันต้องออกจากอาชีพ

ซึ่งเรื่องราคาก๊าซเอ็นจีวีนั้น นายศิริ จิระพงพษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ชี้แจงว่า ราคาปัจจุบันปตท.จำหน่ายแก่รถสาธารณะด้วยวงเงินอุดหนุน 6 บาท/กก. โดยราคาขายทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 16 บาท/กก. แต่ขายรถสาธารณะทั้งแท็กซี่ รถตู้ รถร่วมบริการที่ 10.60 บาท/กก. อย่างไรก็ตาม การขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะวันนี้ ตามมติคณะกรรมขนส่งทางบกกลางกันนั้น ได้มีการคำนวณรวมราคาเอ็นจีวีที่ลอยตัว หรือพูดง่ายๆคือ สะท้อนราคารถสาธารณะที่จะต้องรับภาระ ราคาเอ็นจีวีที่ขึ้น 6 บาท/กก. คือปรับจาก 10.60 บาท/กก.เป็น 16 บาท/กก.แล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อร่วมลดภาระของผู้ประกอบการขนส่งให้มีกำไรเหลือบ้าง

ทาง คณะกรรมการนโยบายพลังงาน หรือ กบง.ประชุมเมื่อวันศุกร์จึงมีมติให้ ทยอยปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีรถสาธารณะ คือทยอยปรับขึ้นครั้งละ 1 บาท/กก. รวม 3 บาท/กก. ภายในเวลา 8 เดือน คือจะเริ่มขึ้นวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ แล้วอีก 4 เดือนก็ปรับขึ้นอีก 1 บาท และหลังจากนั้นอีก 4 เดือนก็ปรับขึ้นอีก 1 บาท รวมแล้วก็จะขยับจาก 10.60 บาท/กก. เป็น 13.60 บาท/กก. ในกลางเดือนมกราคมปีหน้า โดยในส่วนต่างกับราคาลอยตัว อีก 3 บาท/กก.นี้ ทาง บมจ.ปตท.ก็จะเป็นผู้รับภาระไปก่อน 

รมว.พลังงาน ยังระบุด้วยว่า มติ กบง. เมื่อวันศุกร์ยังเห็นชอบให้ประกาศมาตรฐานน้ำมันไบโอดีเซล บี 10 และปั๊มทั่วไปจะเริ่มขายตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. ในราคาต่ำกว่า บี 7 ที่ 1 บาท/ลิตร ซึ่งรถค่ายญี่ปุ่นและเชฟโรเล็ตยอมรับมาตรฐานบี 7 แล้ว แต่ค่ายรถยุโรปยังไม่ยอมรับ เพราฉะนั้นปั๊มทั่วไปก็จะสามารถเลือกการจำหน่ายบี 7 ,บี10 และบี 20 ซึ่งรัฐมนตรีพลังงานก็คาดว่าด้วยราคาน้ำมันที่ต่ำก็จะดึงดูดให้เกิดการใช้บี 10 มากกว่า บี 7 และภาพรวมแล้ว จะทำให้การใช้น้ำมันปาล์มดิบ หรือซีพีโอในการผลิตน้ำมันสูงถึง 2.5 ล้านตัน/ปี ช่วยดึงราคาปาล์มให้สูงขึ้น พร้อมทั้งเผยว่า กฟผ.ได้ซื้อซีพีโอผลิตไฟฟ้าครบแล้ว 1.6 แสนตัน และกำลังพิจารณาว่าจะซื้อเพิ่มหรือไม่โดยเป็นทางเลือกควบคู่กับแนวทางการส่งออกบี 100 ของ ปตท.รวมแล้วอาจซื้อซีพีโอมาเพื่อผลิตพลังงานอีก 1 แสนตัน ซึ่งภาพรวมการเร่งซื้อดังกล่าวก็ทำให้ราคาซีพีโอขยับขึ้นมาอยู่ที่15.25-15.75 บาท/กก. และผลปาล์มดิบขยับขึ้นจาก 2 บาท/กก.มาอยู่ที่ประมาณ 2.40-2.50 บาท/กก. นับเป็นราคาที่ยังต่ำกว่าคาดจึงต้องเร่งนำมาผลิตบี10 และบี20 โดยด่วน

เรื่องร้อนๆ อีกเรื่องอันเนื่องมาจากอากาศร้อน คนก็เปิดแอร์ดับร้อนเพิ่มขึ้น ค่าไฟฟ้าก็แพงขึ้นไปด้วย เพราะค่าไฟฟ้าเป็นอัตราก้าวหน้า ยิ่งใช้มากก็จ่ายแพง แต่ก็มีโซเชียลออกมาระบุว่าค่าไฟฟ้าแพงขึ้นเพราะค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือเอฟทีงวดนี้ ขยับขึ้น 4.30 บาท/หน่วย รัฐมนตรีพลังงาน ต้องออกมาชี้แจงบอกว่าไม่จริง อัตราที่ขึ้นตามต้นทุนเชื้อเพลิงคือ 4.30 สตางค์/หน่วยเท่านั้น พร้อมแนะว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้ามีส่วนสำคัญที่ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าตามมาตรการ ปิด-ปรับ-ปลด-เปลี่ยน โดยปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศมาอยู่ที่ระดับ 26-27 องศาเซลเซียส ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งานก็จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ พร้อมเผยว่าตามแผนพัฒนาไฟฟ้าระยะยาวหรือพีดีพีฉบับใหม่ 20 ปีนี้ พยายามดูแลต้นทุนค่าไฟฟ้าให้ลดลงทั้งการประมูลแหล่งบงกชและเอราวัณรวมทั้งการแข่งขันนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี ซึ่งล่าสุดมีเอกชน 12 ราย เสนอแข่งขันขายให้กฟผ.นำเข้า 1.5 ล้านตัน/ปี เป็นเวลาสัญญา 8 ปี โดยราคาต้องต่ำกว่าสัญญาระยะยาวที่ ปตท.นำเข้า ซึ่งการแข่งขันที่รุนแรงนี้จะทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำที่สุด และคาดว่าการคัดเลือกจะเสร็จสิ้นภายใน 2 สัปดาห์นี้ และเริ่มนำเข้าล็อตแรก ก.ย.สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ.-สำนักข่าวไทย

หกเดือนหก กองทัพอากาศเตรียมความพร้อม สั่งวันนี้ ส่งทันที ถึงที่หมาย

กองทัพอากาศ 6 มิ.ย.- กองทัพอากาศ เผยพร้อมติดตั้งระเบิด เครื่องบินรบ แสดงความพร้อมกำลังพล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจกองทัพอากาศ เผยข้อความ หกเดือนหก (6.6)⚡กองทัพอากาศ เตรียมความพร้อม สั่งวันนี้ • ส่งทันที • ถึงที่หมาย ฝูงบิน 103 กองบิน 1เครื่องบิน F-16 นามเรียกขาน ” Lightning “ติดตั้งระเบิด พร้อมขึ้นปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ปกป้องอธิปไตย พร้อมกันนี้ มีการติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ด้วย.-313.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ถก สมช. ชี้รัฐบาล-กองทัพ ไร้ปัญหา ทำงานเป็นเอกภาพ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.-นายกฯ ถก สมช.แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้รัฐบาลกับกองทัพ เคลียร์อำนาจหน้าที่แล้วไร้ปัญหา ย้ำ ทำงานเป็นเอกภาพ รักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศ พร้อมรับทุกสถานการณ์ ยึดสันติวิธี บอกมอบหน้างานประเมินหากต้องปะทะ ทุกอย่างยังโอเค ยืนยันรัฐบาลทำงานไม่ช้า กำชับ ก.ดีอี ดูเนื้อหาปลุกปั่นหวั่นขยายขัดแย้ง ด้าน ผบ.ทสส. ลั่น กองทัพพร้อมหนุนรัฐบาล แจงประชุมเหล่าทัพไม่เชิญสื่อ ขอทำงานมืออาชีพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เพื่อหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้มีการพูดคุยถึงมาตรการต่างๆ ในการรับมือสถานการณ์ หลังจากเมื่อวานนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปคุยกับทีมกัมพูชา ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้สถานการณ์ยังโอเคอยู่ และยืนยันว่า ทุกหน่วย ทุกฝ่ายทั้งกองทัพและรัฐบาลมีการปรึกษากันตลอดก่อนที่จะดำเนินการใดใด อำนาจไหนที่เป็นของใคร และทุกคนทราบในอำนาจของตัวเองเป็นอย่างดี และวันนี้สิ่งที่ต้องการคือความเป็นเอกภาพในการทำงานทั้งหมด ซึ่งวันนี้ ได้คุยกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี […]

คปท.รวมตัวหน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงจุดยืนกรณีพิพาทพรมแดน

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ชูธงชาติไทย-ป้ายสัญลักษณ์ หน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงเจตจำนงปกป้องประเทศชาติ กรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ได้เดินทางมารวมตัวกันบริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง เพื่อเคลื่อนไหวจากกรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต่างประดับประดาด้วยธงชาติ และชูป้ายสัญลักษณ์ข้อความแสดงอุดมการณ์เจตนารมณ์ถึงการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้นำรถขยายเสียงมาพูดปราศรัยแสดงเจตจำนงที่จะปกป้องประเทศชาติในช่วงสถานการณ์พิพาทระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชา เปิดกระจกออกมาเพื่อใช้มือถือถ่ายภาพการชุมนุมเป็นระยะๆ สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ทาง สน.วังทองหลาง และ บก.น.4 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 หมวด ประมาณ 100 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ วางกำลังดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา พร้อมนำแผงรั้วเหล็กกั้นมาวางเป็นแนวยาว เพื่อไม่ให้ม็อบเข้าประชิดติดตัวกำแพงสถานเอกอัครราชทูต เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะส่งผลต่อความมั่นคงระหว่าง 2 ประเทศ.-414-สำนักข่าวไทย