ทำเนียบ 24 ส.ค. – “วิษณุ” ระบุ ใครจะเป็นผู้เสนอรายชื่อนายกฯ ไม่ใช่ประเด็นใหญ่ แต่ผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องสง่างาม พร้อมแนะแม่น้ำ 4 สาย หากจะสมัคร ส.ส.ต้องลาออกภายใน 90 วันหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี(ครม.)และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวานนี้(23 ส.ค.) เป็นวาระพิเศษ เนื่องจากมีเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557เรื่องการเพิ่มจำนวนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) จากเดิมไม่เกิน 220 คนเป็นไม่เกิน 250คน โดยใช้ฐานตัวเลขจำนวนสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) 250 คน การเพิ่มจำนวน สนช.อีก 30 คนไม่เกี่ยวข้องกับจำนวนสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ต้องมีการสรรหา เหตุผลที่ต้องเพิ่มจำนวน เพราะมีกฎหมายสำคัญเกือบ 50 ฉบับที่ต้องพิจารณาและยังมีกฎหมายที่เกี่ยวกับการขับเคลื่อนการปฏิรูปอีกเกือบ 100 ฉบับ จึงต้องให้ผู้มีความชำนาญในการพิจารณา
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุมร่วม ครม. คสช. มีการถามถึงประเด็นคำถามพ่วงว่ามีความเข้าใจตรงกันหรือไม่ จึงได้นำบันทึกการประชุมของ สนช.และ สปท.มาหารือเพื่อความชัดเจน ซึ่งไม่พบว่ามีประเด็นเรื่องใครจะเป็นผู้เสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีมาก่อน ซึ่งเรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นว่าใครจะเป็นผู้เสนอชื่อไม่ใช่ประเด็นใหญ่ เพราะต้องให้ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) พิจารณา และสุดท้ายก็อยู่ที่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
“ที่เราพูดกันว่า คนนอก คนใน ก่อนหน้านี้คือ คนนอกพรรค คนในพรรค แต่วันนี้คำว่าคนนอกกับคนในคือ คนนอกตะกร้า กับคนในตะกร้า เมื่ออยู่ในตะกร้า ไม่ว่ามาจากไหนถือว่าเป็นคนที่พรรคนั้นเสนอและประกาศให้ประชาชนรู้แต่แรก ไม่ใช่พูดกลางสภาวันที่จะเลือก และหากพรรคนั้นได้ส.ส.ไม่ถึง 25 คน จะไม่มีสิทธิเสนอรายชื่อในบัญชีเป็นนายกฯ มีสิทธิเพียงเลือกนายกฯ ในบัญชีของพรรคอื่นเท่านั้น ใครจะเสนอรายชื่อนายกฯ เราไม่ติดใจ แต่สิ่งสำคัญที่นายกฯ พูดเมื่อวันที่ 23 ส.ค.คือ คนจะมาเป็นนายกฯ ต้องมาอย่างสง่างาม เพราะคนเราไม่มีอะไรสำคัญกว่าความสง่างาม” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวถึงขั้นตอนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีว่า ให้ยึดบัญชีที่พรรคการเมืองเป็นผู้เสนอ 3 รายชื่อ โดยให้ ส.ส. 500 คน และส.ว. 250 คน รวมเป็น 750 คน โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากบัญชีในตะกร้านี้ ซึ่งต้องได้คะแนนเสียง 376 เสียง หากไม่ถึงต้องเปิดประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อขอมติที่ประชุมให้คนนอกบัญชีที่พรรคการเมืองเสนอสามารถแข่งขันได้ ซึ่งต้องได้รับคะแนนเสียง 2 ใน 3 คือ 500 เสียงจึงจะผ่านความเห็นชอบ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 3 คือ ให้ที่ประชุมร่วมโหวตเลือก ซึ่งขั้นตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้เสนอชื่อ
เมื่อถามว่า คาดว่าจะได้ สนช.อีก 30 คนในช่วงเวลาใด นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ ส่วนคุณสมบัติผู้ที่จะมาเป็น สนช.นั้นอยู่ที่ คสช.จะพิจารณา ซึ่งผู้ที่เป็นข้าราชการก็ไม่น่าจะกระทบกับการทำงาน เพราะที่ผ่านก็สามารถปฏิบัติงานได้จากประสบการณ์ที่มี และสำหรับผู้ที่อยู่ในแม่น้ำ 4 สาย คือ ครม. คสช. สนช.และ สปท. หากมีความต้องการลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ต้องลาออกจากปฏิบัติหน้าที่ภายใน 90 วัน หลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้ .-สำนักข่าวไทย